ศาลสั่งจำคุก "ไอซ์-รักชนก" 6 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานรีทวีตข้อความผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะที่ "ไบรท์ ชินวัตร" เจอจำคุก 3 ปี ปรับ 1.1 หมื่นบาท เหตุปราศรัยม็อบปี 63 ผิดม.112 หลังกลับคำรับสารภาพ ส่วนสำนวนคดี "อานนท์" นัดสืบพยาน มี.ค.ปีหน้า

 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 เวลา 09.00 น.  ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.683/2565 ของ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล  ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการทวีตข้อความและรีทวีตข้อความ


 โดยวันนี้ น.ส.รักชนก เดินทางมาศาล พร้อมทนายความ รวมทั้ง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล โดยมีผู้มาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง


 น.ส.รัชนก กล่าวก่อนฟังคำพิพากษาว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงขอเลื่อนไป (ขอเลื่อนฟังคำพิพากษา) แต่ศาลไม่อนุญาต ทั้งนี้ถ้ารูปคดีเป็นไปตามการต่อสู้ของเรา คิดว่ามีโอกาสชนะคดีนี้


 ต่อมา ไอลอว์ รายงานว่า ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.ก้าวไกล ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 6 ปี จากการทวีตและรีทวิตข้อความที่มีเนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ รวม 2 ข้อความ (ข้อความละ 3 ปี)
 ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอาญาพิพากษาคดีของ ไอซ์- รักชนก ส.ส. พรรคก้าวไกล ในข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา เหตุโพสต์ 2 ข้อความเกี่ยวกับการผูกขาดวัคซีนและสถาบัน เมื่อช่วงปี 2563


 ภายหลังคำพิพากษา ผู้พิพากษาแจ้งว่า การสั่งประกันจะไม่อยู่ในขอบข่ายอำนาจของเจ้าของสำนวน ซึ่งต้องมีการปรึกษาผู้บริหารศาล โดยอยู่ในระหว่างการยื่นประกันตัว
 วันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี ดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ.2887/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา ,นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ ,นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง, นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก, น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล ,น.ส.จิรฐิตา ธรรมรักษ์ และนายคริษฐ์ อร่ามพิบูลกิจ (หลบหนี) แกนนำคณะราษฎร ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตาม กฎหมายอาญา มาตรา112 ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความสะดวกในการจราจร มาตรา 116 


 กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1-3 ธ.ค.63 ต่อเนื่องกัน พวกจำเลยได้จัดกิจกรรม #ม็อบ 2 ธันวา ไล่จันทร์โอชาออกไป โดยชุมนุมปราศรัย ยุยง ปลุกปั่น พาดพิงให้ร้ายสถาบันด้วยถ้อยคำหยาบคาย มีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 3,000 คน บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.พหลโยธิน กทม.เกี่ยวพันกัน คดีนี้พวกจำเลยให้การปฏิเสธ


 โดยในวันนี้ศาลอ่านคำพิพากษาเฉพาะในส่วนเฉพาะของนายชินวัตร ที่กลับคำให้การเป็นรับสารภาพเมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จำคุก 3 ปี ปรับ 11,100 บาท โดยมีรายงานว่าจำเลยอยู่ระหว่างยื่นขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์


 ขณะที่ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีทุกคนยกเว้นนายชินวัตร ซึ่งมากลับคำให้การในช่วงเดือนพ.ย.ส่วนรายละเอียดที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกนายชินวัตรวันนี้ตนไม่ทราบเนื่องจากมีการเปลี่ยนทนายความ ในส่วนนายอานนท์กับพวกที่เเยกออกเป็นอีกสำนวนให้การปฏิเสธศาลนัดสืบพยานอีกครั้งมีนาคมปีหน้า