เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ธ.ค.66 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะชาวบ้านกลัวอิทธิพลของนายทุนไม่กล้าไปลงทะเบียนว่า ตนไม่แน่ใจว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้ทำอะไรมาบ้างในเรื่องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยมายาวนาน เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. มีการพูดคุยว่าในอัตราที่ใช้เดือนละ 50% ปีหนึ่งเท่ากับ 600%  เป็นจำนวนเงินที่ไม่เหมาะสม จะต้องทำธุรกิจอะไรถึงจะได้คืนทุน ซึ่งตนคิดว่าไม่มี เป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการ หนี้นอกระบบเป็นสารตั้งต้นของปัญหาทั้งหลายในสังคม คนเราทำงานมาแทบเป็นแทบตาย ตากแดดตากฝนมาได้ค่าแรงขั้นต่ำเท่านี้ แต่กลับต้องมาใช้ดอกเบี้ยเท่าไหร่ก็ไม่พอกิน ไม่พอใช้ ยิ่งทำยิ่งไม่พอ เป็นหนี้ 10,000 บาทใช้ไปแล้ว 30,000 บาทแต่เงินต้นยังอยู่ เป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หรือกลายเป็นอาชญากร รวมถึงปัญหายาเสพติด

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องหนี้นอกระบบเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องการจัดการในส่วนของฝ่ายความมั่นคง โดยตำรวจ ฝ่ายการปกครอง นายอำเภอมีการเรียกเข้ามาพูดคุยกัน โดยจะมีการทำKPI (ผลชี้วัดความสำเร็จ )ที่ชัดเจนว่าใครจะต้องทำอย่างไร เชื่อว่ารัฐบาลก่อนไม่ได้ทำแบบนี้ ถ้าถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะทำสำเร็จ ก็ต้องย้ำว่า ตนพยายามทำเต็มที่ แต่ปัญหาจะต้องลดลงไป ฉะนั้นเมื่อใช้หนี้เสร็จแล้วการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้สามารถเดินหน้าทำธุรกิจก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่จะช่วยดูแลประชาชนได้

เมื่อถามถึงเรื่อง KPI ในการแก้หนี้นอกระบบและอิทธิพลเถื่อนคืออะไร นายกฯ กล่าวว่า จำนวนหนี้ที่เป็นบาท ต้องลดลงและจำนวนคนที่เป็นหนี้นอกระบบต้องลดลง ของทุกจังหวัดและทุกอำเภอ 

 

#หนี้นอกระบบ #KPI