ผวจ.ศรีสะเกษ ตกใจและเป็นห่วง  ข่าว “ลูกสาวกอดแม่ร่ำไห้นำที่นาไปจำนองกู้เงินนอกระบบ” ส่งทีมศูนย์ดำรงธรรมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน  เร่งประสาน กยศ. อนุมัติเงินกู้ยืม 
       

วันที่ 13 ธ.ค.66 นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้เปิดเผยถึงกรณีปรากฏในสื่อข่าวออนไลน์ว่า “ศรีสะเกษ – ลูกสาวกอดแม่ร่ำไห้นำที่นาไปจำนองกู้เงินนอกระบบได้เงิน 400,000 บาท มาให้ลูกสาวเรียนหนังสือ เผยเคยท้อถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากพ่อป่วยเป็นโรคเก๊าต์เดินไม่สะดวก แม่ป่วยหลายโรค ต้องไปทำงานเสิร์ฟอาหารหลังเลิกเรียน เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายประจำวันและเป็นค่าเทอม วอนนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง ขอให้ช่วยเหลือด้วย เพราะว่าเงินทองก็ไม่มีที่จะส่งลูกเรียนหนังสือ”
   

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เมื่อได้พบข่าวรู้สึกตกใจและเป็นห่วง  ได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับนายธนัชกฤศ บุดดีเสาร์ ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอพยุห์ นายพงษ์ศักดิ์ ดอกพวง ปลัดอำเภอ กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพยุห์ นายสำรอง เรืองฤทธิ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลพรหมสวัสดิ์ นายปองภพ พลนำ หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพรหมสวัสดิ์ นายสำอาง อร่ามเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลพรหมสวัสดิ์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ พบนางนอง และนายบุญมี มารดาและบิดาของนางสาวนภาพร ซึ่งทั้งสองคนเป็นผู้สูงอายุ และมีเงินรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  “จากการสอบถามนางนองฯ ได้ให้ข้อมูลว่า หนี้ที่ปรากฏในข่าวออนไลน์ เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน โดยนางนองฯ ได้นำที่ดินไปจำนองกับพี่ชายของตนเอง เป็นเงินจำนวน 400,000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย และไม่ได้จดทะเบียนจำนอง ซึ่งตั้งแต่จำนองที่ดินก็ยังไม่เคยชำระเงินให้กับพี่ชายของตนแต่อย่างใด แต่ได้ให้พี่ชายเข้าทำประโยชน์ด้วยการทำนาในที่ดินแปลงดังกล่าว และได้กู้ยืมเงินจากบุคคลอื่นอีก จำนวน 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาให้นางสาวนภาพรฯ ซึ่งเดิมเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เพราะในช่วงแรกไม่ได้กู้ยืมเงินจากกองทุนให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่เมื่อนางสาวนภาพรฯ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา โดยก่อนที่จะปรากฏเป็นข่าวเพียงไม่กี่วัน นางสาวนภาพรฯ ได้เข้ามาพบพ่อและแม่ และแจ้งว่าจะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา และได้ยื่นขอกู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ” 
     

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดศรีสะเกษโดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษได้ประสานไปยังกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ทราบว่าได้อนุมัติเงินกู้ให้กับนักศึกษารายดังกล่าวแล้ว แต่ต้องให้นักศึกษาไปลงนามในสัญญา และทำแบบเบิกเงินกับทางมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา และสำหรับในส่วนของเงินกู้นอกระบบ 5,000 บาท นั้น ทางที่ทำการปกครองอำเภอพยุห์ ได้ทำการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ เพื่อจะเชิญเจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ยหนี้ต่อไป นอกจากนี้องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมสวัสดิ์ยังได้มอบถุงยังชีพให้กับครอบครัวในเบื้องต้น และแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อพิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่งต่อไป และในส่วนของการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนในลักษณะ “ยาไทย” ทางนายอำเภอพยุห์จะได้บูรณาการร่วมผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ ส่งเสริมการน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้มีแหล่งอาหารในครัวเรือน ลดรายจ่ายให้แก่ครัวเรือน ตามหลักการพึ่งพาตนเอง อันจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน 

 

#ศรีสะเกษ #หนี้นอกระบบ #กยศ #กู้เงินเรียน