เมื่อเวลา 11.32 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้าการแก้ปัญหาหมูเถื่อนว่า ก็พยายามตามอยู่ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ตนมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมกรรมการป้องกันและปราบการการฟอกเงิน (ปปง.) ว่าได้มีการอายัดทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว ซึ่งก็ต้องดำเนินการและทำงานกันต่อไป

 

เมื่อถามว่า จะสามารถสาวถึงต้นตอตัวการใหญ่ได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็มีความพยายาม ต้องดูว่าตัวการใหญ่นั้น ใหญ่แค่ไหนเท่านั้นเอง  

 

เมื่อถามว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ส่งสำนวนคดีหมูเถื่อนที่เกี่ยวของกับนักการเมือง แล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็คงอยู่ในขั้นตอนการพิจาณาของดีเอสไอ

 

เมื่อถามต่ออีกว่า เมื่ออยู่ในขั้นตอนสุดท้ายจะสามารถเปิดเผยรายชื่อได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนกฎหมาย เมื่อถึงเวลาก็ต้องเปิดชื่อถ้าหากไม่เสียรูปคดี

 

จากนั้นเวลา 11.42 น. ภายหลังนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ ได้เดินไปยังบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วย ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาศัย  รมช.เกษตรและสหกรณ์และนายไชยา พรหมา  รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อพบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร นำโดยนายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

 

โดยนายสิทธิพันธ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้มาช่วยปราบปรามเรื่องหมูเถื่อน ซึ่งจากปัญหาที่ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศที่เข้ามาแย่งตลาดสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถขายเนื้อสุกรได้เกินราคาต้นทุน เนื่องจากหมูเถื่อนมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าประเทศไทยมาก ทั้งนี้ ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น และบางส่วนถึงกับต้องออกจากอาชีพไปพร้อมกับหนี้สิน แต่หลังจากที่นายกฯเข้ามารับตำแหน่งและบริหารราชการแผ่นดินตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาการจัดการคดีหมูเถื่อนมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาหมูหน้าฟาร์มยังต่ำกว่าต้นทุนแต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น  ซึ่งเกษตรกรสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และ 6 สมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง 

 

นายสิทธิพันธ์ กล่าวว่า ขอบคุณรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างจริงจังต่อเนื่อง จึงมาขอบพระคุณและให้กำลังใจ รัฐบาลที่สามารถปรับหมูเถื่อน อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเกษตรกรที่เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ ขอความกรุณานายกฯ เพื่อต่อยอดในการแก้ปัญหาอีก 9 ประเด็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับภาคปศุสัตว์ โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศได้รับความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมและผู้เลี้ยงสุกรยินดีให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ จากนั้นตัวแทนเกษตรกรได้ยื่นหนังสือต่อ ร.อ.ธรรมนัส เพื่อให้ต่อยอดการแก้ปัญหา 

 

ด้านนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ได้สละเวลามาให้กำลังใจ ความจริงไม่ต้องมาขอบคุณก็ได้เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว ปัญหานี้หมักหมมมา 3-4 ปีแล้ว รัฐบาลนี้เข้ามายังไม่ถึง 3 เดือน รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ทุกคนก็ได้นำเรื่องนี้ขึ้นมาทำงานอย่างจริงจัง และทุกคนยังคงทำงานกันต่อไป ในส่วนของอักษรย่อ ที่เกี่ยวข้องกับหมูเถื่อนนั้น จะต้องสาวกันต่อไป แต่ต้องขอความกรุณา เพราะเราเองก็ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพราะปัญหาหมักหมมมา 3-4 ปีแล้ว เรามาเพียงแค่ 3 เดือนก็จัดการได้ เฉพาะช่วงนี้ก็ขอให้มีความอดทนกันหน่อย รัฐบาลจะมุ่งมั่นทำงานต่อไปไม่มีการปกปิดไม่มีการเอื้ออำนวยให้กับใครทั้งสิ้น

 

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำงานกันอย่างเต็มที่เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเราได้มองข้ามไปอีกว่า ไม่ใช่แค่การปราบหมูเถื่อนเพียงอย่างเดียว สำหรับประชาชนที่เดือดร้อนขณะนี้เรามีการเตรียมพันธุ์หมูและเงินทุนไว้ เพื่อที่จะไปดำเนินการจัดการให้กับรายย่อยและรายการเพื่อกลับมาฟื้นฟูอาชีพที่สุจริตอีกครั้งก็ขอให้มีความอดทนเพราะรัฐบาลนี้มีความเข้าใจถึงความต้องการของประชาชน” นายกฯ กล่าว