กรณีผู้เสียหายที่ซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้น “เชฟอ้อย ยุวดี” รวมตัวร้องขอความเป็นธรรม เสียเงิน 2.5 แสนซื้อแฟรนไชส์แบบขายสูตรขาด แต่สุดท้ายเชฟอ้อยไม่ทำตามสัญญา ส่งอุปกรณ์ทำลูกชิ้นล่าช้ากว่าข้อตกลงในสัญญา จนส่งผลเสียหายต่อธุรกิจ ต้องแบกต้นทุนที่สูงขึ้น เพราะต้องซื้อลูกชิ้นเชฟอ้อยในกิโลกรัมละ 100 บาท บางรายผันตัวปรับสูตรขายในแบรนด์ตัวเอง ก็ถูกเชฟอ้อยด่าทอ บางรายเปลี่ยนไปขายก๋วยเตี๋ยวก็โดนด่ายับ จนมีเพจดังเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา กลายเป็นเรื่องราวดราม่าสะเทือนโลกออนไลน์
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 11 ธ.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์สองมุม เล้ง, แมน, ฟลุ๊ค, เดียร์, แอน ผู้เสียหาย ที่ไม่ได้มาจากร้านเดียวกัน แต่เดือดร้อนเหมือนกัน อีกมุม เชฟอ้อย เจ้าของแบรนด์ลูกชิ้น, เชฟปู คนที่คิดชื่อและทำก๋วยเตี๋ยวให้เชฟอ้อย มาพร้อมทนายคนกลาง ไพศาล เรืองฤทธิ์
เชฟปูกับเชฟอ้อย ทำด้วยกัน?
เชฟปู : ไม่ได้ทำด้วยกัน แต่เริ่มต้นคือเชฟอ้อยปรึกษาเรื่องโปรเจกต์ อยากทำลูกชิ้นขาย นอกเหนือจากอาหารที่อยู่ที่ร้านที่ราคาแพง ผมเป็นคนช่วยทำน้ำจิ้ม คิดชื่อลูกชิ้นแสนแซ่บ มีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้น วันนี้จะมายืนยันให้ฝั่งเจ๊อ้อย
แต่ละคน ทำไมมองเจ๊อ้อยเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ?
แมน : ผมเป็นแฟรนไชส์จากสุราษฎร์ฯ ตั้งแต่ผมซื้อแฟรนไชส์เดือนก.ค. ปีนี้ 6 เดือนแล้ว ผมเพิ่งเจอเชฟวันนี้ ยินดีมากๆ
แล้วซื้อเขายังไง ทำไมไม่เจอตัว?
แมน : ผมโทรคุยกับเขาก็หวังว่าจะได้เจอเขานะครับ แต่ก็ยังไม่ได้เจอ วันที่ผมไปเรียนสูตร เรียนทำ ผมก็ยังไม่เจอเชฟเลยครับ แม้กระทั่งเชฟไปขายก๋วยเตี๋ยวครัวคุณต๋อยที่เซ็นทรัลสุราษฎร์ฯ ผมในฐานะเป็นแฟรนไชส์ลูกชิ้นของเขา ซึ่งเขายังไม่เคยไปหาผมเลย ซึ่งไปหา ณ ที่นี้ จะมีอยู่ในข้อตกลง 10 ข้อว่าต้องอยู่หน้าร้านให้ผม 2 วันเพื่อโปรโมต ก่อนหน้านั้นผมไม่ซีเรียส เพราะเขาอาจยุ่ง ไม่ว่างหรืออะไร แต่วันนั้นมีโอกาสนไปครัวคุณต๋อย ซึ่งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ฯ ผมเป็นแฟรนไชส์สุราษฎร์ควรโปรโมตกับผมบ้างมั้ย ถ่ายรูปกับผมให้ผมเอารูปอันนี้ไปโปรโมต โคตรดีใจที่วันนี้ได้เจอ หมอบกราบเลย
คุณเล้งเสียหายเรื่องไหน ไปรู้จักยังไง?
เล้ง : เริ่มต้นคือเราดูคลิปในติ๊กต๊อก ชื่นชม ดูเป็นแบรนด์ในกระแสที่เราไปได้ ก่อนอื่นการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์นี้คือกระแส แล้วผมได้ตัดสินใจซื้อ โอนเงินปกติเลย ซื้อ 2.5 แสน ซื้อไปเปิดที่นนทบุรี
2.5 แสน ตามหลักฐานในแชต ได้สูตรลูกชิ้นทุกตัวที่จะออกตัวใหม่มาทุกครั้ง สองได้สูตรน้ำจิ้มทุกตัวที่เราจะออกมาอีก 1 เดือนข้างหน้า เช่นเดียวกับลูกชิ้น ได้แบรนด์เราใช้ ได้โลโก้เชฟไปใช้ วันเปิดร้าน เชฟจะไปดูแล 2 วัน ไปมั้ย?
เล้ง : มาครับ
คุณแมนไปมั้ย?
แมน : ไม่มาครับ ทำเองครับ
ข้อหก วันที่มาเรียน เรียนกี่คนก็ได้ เอาที่สะดวก เจ็ดเชฟพาออกหน้างานจริงเพื่อเรียนรู้ แปดสอนการตลาดคำนวณต้นทุนคอร์สต่างๆ และสอนกลยุทธ์ทางการตลาด สิบได้เครื่องปั่นลูกชิ้นตัวหนึ่งนาที 300 ลูก เก้าเครื่องบดสับลูกชิ้นอีก 1 เครื่องที่จะให้ คุณได้หมดมั้ย?
เล้ง : ไม่หมดอยู่แล้วครับ ถ้าได้หมดผมไม่จำเป็นต้องมาวันนี้ (หัวเราะ) หลักๆ เลย สิ่งที่ผมขาด ข้อสองไม่รู้อีก 1 เดือนข้างหน้า ผมซื้อวันที่ 9 ก.ค. โอนเงินไป แล้วไปเรียนสูตรวันนั้นเลย เราเข้าใจว่าเราจะได้เครื่องสองตัววันนั้น แต่พอเราไปเรียน เขาแจ้งว่าต้องรออีก 7-14 วัน ซึ่งผมมองว่าอันนี้เราไม่ได้รับรู้ตั้งแต่แรก ซึ่งไม่เป็นไร ถามว่ารอได้มั้ย มันเป็นสินค้ากระแส ผมเปิดหน้าร้านจริงๆ 13 ก.ค. การเรียนวันนั้น ทางเชฟเบิ้ม ที่เป็นคนมาสอนสูตรพวกเรา ทั้งลูกชิ้น น้ำจิ้มมี 2 อย่าง น้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มนรก ตามที่แจ้งมา ซึ่งเราก็เรียน เราเป็นคนจด เชฟบอกว่าใส่อะไรเท่าไหร่บ้าง แต่ถามว่ามีฟอร์มให้เรามั้ย ไม่มีครับ เราต้องจดเอง อันนี้อยู่ที่สกิลผมแล้ว ว่าผมฟังได้มากแค่ไหน วันนั้นไม่เข้าใจก็ถามได้ แต่ผมไม่รู้ว่าตัวกลางของมันที่เป็นมาตรฐานจริงๆ คืออะไร ณ ตอนนั้น
คุณขาดอะไร?
เล้ง : ขาดเครื่องบดสับ ส่วนเครื่องปั้นเชฟเอามาส่งหลังเราเริ่มขายไปแล้ว ซึ่งผมเริ่มขาย 13 ก.ค. แต่มีที่มา คือตามตกลง ควรเป็นตามที่แจ้ง 7-14 วัน พอเลทหรือล่าช้า เราก็คิดว่าเขาควรแจ้งเรา คุณไม่ได้แจ้ง ผมก็มองว่าไม่ใช่หน้าที่ผมที่ต้องโทรไปบอก แต่เป็นหน้าที่คุณที่ต้องรับผิดชอบ ผมก็มีการถามไถ่ไปหลังล่วงเลยไปเกือบ 2 เดือน จนแฟรนไชส์ผมเสียหาย ตอนแรกผมก็ถามเจ้าอื่นก่อนว่ามีใครโดนเหมือนเราบ้าง ถ้าเราโดนคนเดียวไม่เป็นไร แต่คนอื่นๆ เป็นเหมือนเราหมด สถานการณ์เดียวกันหมด จนมีท่านนึงไปโวยวายกับทางเชฟให้ส่งเครื่อง หลังจากนั้นเชฟถึงประกาศ 3 ก.ย. ว่าจะเลทส่งเครื่อง 30-40 วัน ตอนนั้นเราไม่ได้การแจ้งจากเชฟโดยตรง เราต้องไปหาดูตรงนี้เอง
คุณขายได้มั้ย?
เล้ง : ผมขายได้ วันที่มาขายดีมาก เพราะผมรับลูกชิ้นจากเชฟ แต่ถามว่าเชฟบีบบังคับผมมั้ยว่าต้องรับลูกชิ้นจากเชฟ ไม่ใช่ แต่ความที่เราต้องขาย อารมณ์ขึ้นหลังเสือแล้วเราต้องทำ แต่ ณ ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าลูกชิ้นโลละ 100 ซึ่งเชฟบอกว่าถูกสุดแล้ว แต่ผมลองถามแฟรนไชส์ท่านอื่นๆ ว่าได้แพงกว่านี้เหรอ
แมน : ผมไม่ได้ซื้อลูกชิ้นเขา
คุณต้องซื้อลูกชิ้นโลละร้อยมาขายก่อน เพราะเครื่องบดสับมันไม่มี คุณจำเป็นต้องเอาตรงนี้มาขายก่อน?
เล้ง : ถูกต้อง เพราะมันเป็นกระแส ต้องรีบเอาเข้ามา แล้ว ณ ตอนนั้นผมคำนวณต้นทุนไม่เป็น วันแรกมีดราม่าจริงๆ วันแรกลูกชิ้นส่งลูกชิ้นที่ไม่ได้ปั้นมาให้ผม แล้วให้ผมตีกับเครื่องปั้นเองหน้างาน เหมือนเป็นหมูบดผสมสูตรให้เรียบร้อย ผมไปเรียนมาผมก็เข้าใจนะ แต่ผมขาดประสบการณ์ เชฟมาถึงตอนผมโดนลูกค้าหน้าร้านด่าแล้ว เป็นพื้นที่พระรามสอง ที่เชฟให้ผมไปขายในนามเชฟได้เลย แต่ตอนนั้นลูกค้าด่าแล้ว พอเปิดมา ผมตกใจมาก คนต่อแถวทะลุเลย แล้วก็ช้าด้วย บวกกับผมคิดว่ามาเป็นลูกแต่มันมาเป็นเนื้อ
ตอนนี้คุณเสียหายยังไง?
เล้ง : เรื่องของเครื่องนี่แหละ จริงๆ ที่ออกมาเรียกร้อง ถามว่าผมเดือดร้อนที่สุดมั้ย ก็อาจเทียบกับท่านอื่นๆ ไม่ได้ แต่ผมยึดในหลักข้อตกลงที่เราคุยกัน ไม่ต้องสนใจเลว่าเราจะขายได้ดีไม่ดี กำไรมากน้อยแค่ไหน แต่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ อีกเรื่องเลย คุณไม่จำเป็นต้องหาผู้เสียหายที่มากกว่า แค่ 1 คนที่คุณไม่ทำตามข้อตกลงที่ทำเอาไว้ ผมก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์
ล่าสุดมีผู้เสียหายกี่คน?
เล้ง : ณ ตอนนี้คุยในกลุ่ม มีประมาณ 29 แฟรนไชส์ที่ซื้อจริง เราไม่รู้
คุณแมนขายที่ไหน?
แมน : สุราษฎร์ธานีครับ ผมติดต่อซื้อแฟรนไชส์มา ผมจำได้ว่าผมโอนเงินให้เขาวันที่ 10 ผมขอร้องเขาด้วยซ้ำว่าเชฟขายให้ผมเถอะนะอย่าขายให้ใครเลยที่จังหวัดสุราษฎร์ฯ ผมอยากได้สินค้าของคุณมาก คุณคือไอดอลของผม คุณคือเวิร์กกิ้งวูแมน คุณเก่ง สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ เราอยากเป็นเหมือนเขา แล้วผมก็คุยกับที่บ้าน ตัดสินใจติดต่อเขา ตอนนั้นเงินไม่พร้อม ผมนัดเขา 10 ก.ค. แต่ผมจ่ายครบเลย 125, 000 บาท ซึ่งมันต้องจ่าย 2 งวด อีกงวดก็ 125,000 พอผมจ่ายเงินงวดแรกไปเสร็จ ตอนเชฟคุยกับผม จริงๆ ผมก็ล่าช้าเหมือนกันนะเครื่อง แต่ของผมได้ทันเวลาใช้งาน ผมมีกำหนดขาย 7 - 23 ส.ค. ทีนี้ผมซื้อตอนก.ค. ผมจ่ายเงินวันที่ 10 งวดแรก ผมก็รอ เพราะตอนเชฟคุยกับผม เชฟบอกว่าหลังจ่ายเงิน 125,000 บาทงวดแรก 2 วันถึงหนึ่งอาทิตย์ คุณบอกทางเชฟก่อน หลังจากนั้นเชฟจะลงมาติดตั้งเครื่องให้ที่จ.สุราษฎร์ฯ พร้อมสอนสูตรลูกชิ้นและสูตรน้ำจิ้ม ทีนี้ผมก็รอร๊อรอ ผมจำได้เลย วันที่ผมไปเรียนคือ 19 ก.ค. ผมก็รอเชฟ เพราะผมจะเปิดขายแล้วแต่ยังไม่เคยลองทำเลย ผมก็เจอแบบที่ทุกคนเจอ คือเชฟโวยวายโน่นนี่นั่น มึงจะรีบไปไหน อะไรแบบนี้
พูดจริงมั้ย?
เชฟอ้อย : จริงค่ะ ก็บอกว่ามึงจะรีบไปไหน ถ้ามึงรีบเดี๋ยวส่งตั๋วเครื่องบินไปให้ ส่งค่าน้ำมันรถให้มึงขึ้นมา เพราะช่วงนี้กูไม่ว่าง เชฟก็สไตล์นี้อยู่แล้ว
แมน : เชฟเขาก็ดีนะคะ เขาบอกว่าแมนลูกเชฟไม่ว่าง เชฟยุ่งมากๆ แมนขึ้นมาเรียนได้มั้ย จริงๆ ผมก็ตัดปัญหา เพราะผมอยากได้เครื่องมากนะ ผมจะขายแล้ว ผมเลยบอกว่าโอเคได้ครับผมจะขึ้นไปเรียนเลย แล้วผมก็ไม่คิดว่าเชฟจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้ผม ซึ่งขอบคุณมากๆ ผมก็ขึ้นมา
ดูเหมือนทุกข์ใจ?
แมน : ผมไม่ได้ทุกข์ใจ แต่พูดตรงๆ ว่าตั้งแต่ซื้อแฟรนไชส์เขามา ผมได้ขายแค่ 3 ครั้ง เซ็นทรัลสุราษฎร์ฯ 1 ครั้ง ขายที่ห้างสหไทยสุราษฎร์ฯ อีก 2 ครั้งนี่คือขายในแบรนด์เชฟอ้อย หลังจากนั้นผมขายแบรนด์ผมเองหมดเลย
มีคนไปทำลูกชิ้นเลียนแบบสูตรเราด้วย?
เชฟอ้อย : มีค่ะ
อยู่ในโต๊ะนี้มั้ย?
เชฟอ้อย : มีค่ะ
เชฟอ้อยบอกว่ามีคนมาหลอกซื้อของเชฟแล้วไปทำลูกชิ้นแบรนด์ตัวเองแล้วไปขาย อยู่ในนี้เหมือนกัน?
เชฟอ้อย : ใช่ค่ะ
แมน : พอผมขึ้นมาเรียน ก่อนผมจะเรียน เขาต้องให้ผมจ่ายเงินก่อน 125,000 บาท อันนั้นก็ปกติ เพราะเราจะเอาสูตรเขา แต่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้บอกผมนะ เชฟบอกผมแค่ว่า เครื่องอาจได้ช้าหน่อยนะ ผมก็คิดว่าช้าแต่ก็คงทันใช้ พอผมไปเรียนจ่ายเงินเสร็จ แฟนของเชฟบอกผมว่าเครื่องยังไม่ได้ ต้องรออีกเดือนนึง อ้าว ผมจะขายวันที่ 7 แล้ว แล้วผมจะทำยังไง เขาบอกว่าซื้อลูกชิ้นเขาไปต้มขาย ผมก็ไม่ได้ติดนะ แต่ผมพูดตรงๆ ผมทำอันนี้ก็ประสบปัญหาอะไรมาเยอะ เงินร่อยหรอมาก แทบจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของผมแล้ว ผมก็หวังกับอันนี้มาก ผมพูดจากใจ ผมทำการตลาดหลายอย่างมาก ทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ ทำหมดเลย แต่ตอนไปถึงสนามบิน ผมโทรหา ผมยังไม่เข้าใจว่าไม่ได้เครื่อง ผมโทรหาเชฟ เชฟก็ไม่รับ สักพักเชฟโทรกลับมา ผมก็ถามว่าผมต้องทำยังไง ในเมื่อผมไม่ได้เครื่อง แต่ที่สุราษฎร์ ผมตีการตลาดกระจุยไปหมดแล้ว คนคาดหวังกับลูกชิ้นปั้นสด ถ้าไม่ได้เครื่องบดสับจริงๆ ผมขอเครื่องปั้นก็ยังดี เดี๋ยวผมซื้อเนื้อก็ได้ ผมถามว่าเนื้อราคาเท่าไหร่ เราทำธุรกิจต้องการคำนวณต้นทุนกำไร เชฟบอกเนื้อ 150 ส่วนลูกชิ้น เชฟบอกว่าขายต้นทุนเลย 100 บาท
ถ้าเนื้อบดสับ มันบีบได้มากกว่า 1 กิโล?
แมน : ใช่ครับ ผมถามเชฟว่าแล้วเนื้อบดสับ กิโลละ 150 ผมจะไปปั้นได้กี่กิโล เชฟเขาพูดว่าทำไมไม่ถามตอนเรียน เขาไม่ได้สอนเหรอ ผมก็บอกว่าผมถามแล้วนะ ไม่ใช่ไม่ถาม ผมถามเชฟเบิ้มแล้วนะ ซื้อกิโลเท่าไหร่ เขาบอก 80 มั้งไปถามเชฟอ้อยดู อ้าว แล้วจะให้ผมไปถามใคร พอผมถามเชฟอ้อย เชฟอ้อยก็ให้ไปถามเชฟเบิ้ม ผมถามใครต่อ ผมก็ลงแล้วแหละตอนนั้น ผมบอกว่าผมซื้อก็ได้ กิโลละเท่าไหร่ กิโลละ 100 บาท ก็มีคำถามต่อว่า กิโลละ 100 ผมไปขายแล้วผมได้อะไร เพราะใน 1 ถุง 100 บาท ที่ขายให้ลูกค้ามันก็จะกิโลนึงแล้ว ตักเต็มถุงก็ต้องแถมอีก ถ้าไม่แถมถูกลูกค้าด่า ผมคิดคำนวณแล้ว เราทำร้านอาหารเหมือนกัน ก็คิดว่าทำแบบนี้ผมไม่ได้อะไร ยังไงผมก็ไม่ซื้อหรอก ผมอยากได้เครื่อง สรุปเชฟก็คงโมโหผมแหละ เขาบอกว่าอยากได้เครื่องมากนักใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวจะส่งให้ ส่งที่อยู่มาเลย แล้วก็ไม่ต้องมาคุยกันแล้วนะ ไม่ต้องโทรมาถามอะไรเชฟแล้วนะ เชฟพูดมั้ยคะ
เชฟอ้อย : พูดค่ะ
แมน : หลังจากนั้นผมก็ไม่ถาม เพราะเขาบอกไม่ให้โทร เดี๋ยวโดนด่าอีก ผมไม่โทรไม่อะไรเลย ผมก็ลองปั้นดู หลังจากนั้นเขาส่งเครื่องให้ผมจริง ผมได้รับเครื่อง 22 หรือ 23 นี่แหละ แต่ก็ทันใช้งาน ผมก็ลองหัดปั้นของผมดู ผมก็ทำได้ ผมก็มั่นใจว่าผมได้ขายแล้ว ทีนี้มีอีกประเด็น ก่อนผมจะขาย 1 หรือ 2 วัน ที่บอกว่าผมทำการตลาดออฟไลน์ ผมเห็นปฏิกิริยาที่เชฟเป็นกับผม ผมกลัวเรื่องการฟ้องร้อง ไม่อยากมีปัญหา
ฟ้องเรื่องอะไร?
แมน : มันมีเรื่องแฟรนไชส์ ป้ายสแตนดี้ที่ผมไปทำเอง เชฟไม่ได้ทำให้ ผมไปจ้างทำเป็นสิบอัน แล้วเอาพวกรับหิ้วของสุราษฎร์ฯ ที่เขาไม่ได้เก่งโซเชียล เขารับแบบออฟไลน์ เหมือนตามตลาดนัดที่คนเดินเยอะๆ แล้วเอาเบอร์โทรเขาไปใส่ เขาเก็บค่ารับหิ้ว เงินค่าลูกชิ้นเข้าผมอยู่เต็มๆ อยู่แล้ว
เล้ง : รับหิ้วคืออย่างพี่แมนขายหน้าร้าน พี่หนุ่มรับหิ้วก็ไปออเดอร์กับพี่แมน
แมน : เขาจะไปเก็บค่าบริการเพิ่มก็ไม่เกี่ยวกับผม พวกนี้ก็มาทางแฟรนไชส์ผม เขาต้องการรายได้ ไม่รู้ใครถ่ายรูปป้ายของเชฟอ้อยไปให้เชฟดู ผมก็กลัวจะมีปัญหา ผมเลยเขียนว่ารับหิ้วลูกชิ้นเชฟอ้อย 7-23 ส.ค. เบอร์โทร บลาๆ
จริงๆ คุณก็ใช้ได้สิ เพราะคุณซื้อแฟรนไชส์เขาแล้ว?
แมน : แต่เชฟโทรด่าผมตอนตี 1 จ้า เขาด่าผมว่าเอาไปใช้ได้ยังไง ให้ใช้คนเดียวนะ เดี๋ยวโดนฟ้องแน่ๆ ซึ่งพวกนั้นคือพวกรับหิ้วของผม ผมเรียกมายังได้เลย เขาเข้าใจผิดหรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะเขาโทรมาว่าผมแบบนั้น แต่เงินทั้งหมดเข้ากระเป๋าผมมั้ยที่ผมไปขาย ผมทำการตลาดของผมเองเพราะเชฟบอกเองว่าคุณซื้อของเชฟไปแล้ว คุณจะไปทำอะไรก็ได้ เชฟให้โลโก้ใช้ แต่ผมก็อยู่ในกรอบของผมนะ
คุณโดนฟ้องมั้ย?
แมน : ไม่ได้โดนฟ้องอะไรครับ เขาก็ด่าๆ ผมแล้วมีบุคคลที่สามที่เชฟเอ่ยชื่อ ผมกลัว ไม่กล้าพูด เขาบอกว่าโดนฟ้องแน่ๆ เตรียมตัว เตรียมเงินไว้เลยนะ ผมนอนไม่หลับอยู่ 2 คืน ผมกลัวโดนฟ้อง
เครียดมั้ย?
แมน : เครียดสิ ตังค์ก็จะหมดอยู่แล้ว นอนไม่หลับอยู่หลายคืน อีกไม่กี่วันต้องขายแล้ว ก็คิดว่าเอาวะ ฟ้องก็ฟ้อง แต่ผมทำลูกชิ้นอยู่เรื่อยๆ จนผมได้ขายตามปกติ ก็ขอบคุณเชฟแหละ ได้อาชีพจากเชฟตรงส่วนนี้ ผมขายได้เยอะมาก วันละ 3-4 ตันทุกวัน แต่ช่วงหลังๆ กระแสก็ดร็อปไป แต่เหตุผลที่ทำไมทุกคนอยากได้เครื่อง เพราะสินค้าตัวนี้เป็นสินค้ากระแส ถ้ารอให้นานไปกว่านี้ เห็นมั้ยตอนนี้มันเงียบแล้ว ผมไม่รู้นะจังหวัดอื่นเงียบมั้ย มันไม่ถึงกับกริบ แต่ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน แล้วไม่ใช่ลงทุน 2.5 แสนแล้วจบนะ แต่ผมไม่โทษเขานะ เพราะเรายอมรับเงื่อนไขเขาตั้งแต่แรก ว่าเราได้เครื่องบดสับ ได้เครื่องปั้น อันนี้ผมไม่ว่า แต่เคสต้นทุน เราลงทุน 2.5 แสน ถ้วยถังกะละมังหม้อที่ต้องเอาไปทำ ค่าเช่าที่ วัตถุดิบที่ต้องสต็อกมา นั่นคือต้นทุนหมดเลย แม่ครัวไม่ได้ให้ก่อนนะจ๊ะ ต้องซื้อเขามา จ่ายเงินสดเขา ค่าไก่ ค่าหมู ที่แม็คโครวันละเป็นแสน ที่ผมต้องเอาเงินสต็อกก่อนขาย
ได้ขายกี่ครั้ง?
แมน : 3 ครั้ง ห้างสหไทยทุกวันนี้ก็ขาย แต่ผมขายแบรนด์ผมเอง ไม่ได้ใช้แบรนด์เขาและไม่ได้ใช้เครื่อง 2.5 แสนก็วางไว้ตรงนั้น บ้านผมทำร้านอาหารอยู่แล้ว ลักกี้ภัตตาคาร ทุกวันนี้ผมก็มาขายก๋วยเตี๋ยวของผม ที่ควบคู่กับลูกชิ้นของผมเอง เชฟไม่ต้องตกใจนะ การที่เชฟโทรไปว่าผมใช้สูตรลูกชิ้นเชฟ ผมมีหลักฐานทุกอย่าง ผมสั่งโรงงานทำหมดเลย โดยไม่ใช้สูตรของเชฟแม้แต่น้อย ชื่อก็ไม่ใช้
อร่อยมั้ย?
แมน : ตรงๆ ไม่กั๊ก อร่อยน้อยกว่าของเชฟนิดนึง
ให้เกียรติเขามาก?
แมน : ใช่ ผมพูดตรงๆ ทุกวันนี้ดูได้เลย มีทุกอย่าง ไม่ใช้สูตรของเชฟเลย ผมเป็นคนไม่ชอบมีปัญหา
ธงวันนี้คืออะไร?
แมน : ผมต้องการความยุติธรรมให้ทุกคน ผมเข้าใจนะทุกคนทำธุรกิจเพื่อต้องการเงิน จะบอกว่าอย่าโลภสิ คนทำธุรกิจไม่มีใครไม่อยากได้เงินบ้าง แล้วมันคือกระแส แล้วเรารออะไร
คุณโดนอะไร?
ฟลุ๊ค : ของผมได้เครื่องล่าช้า กำหนดวันที่ 10 ต.ค. ตามที่เชฟแจ้งหน้าเพจ ผมซื้อมาวันที่ 3 ก.ย. ผมได้เครื่องอีกที 8 พ.ย. มันล่าช้าไปนาน อีกอย่างผมโดนเชฟเขาให้สัมภาษณ์ในข่าวสดว่านายฟลุ๊คติดต่อมาซื้อแฟรนไชส์ ก่อนเกิดปัญหากับห้างที่ไปออกบูธ ห้างที่ไปออกบูธฟลุ๊คทำสินค้าไม่ได้ สินค้าไม่ได้มาตรฐาน แต่สินค้าจากห้างฟิวเจอร์พาร์คทั้งหมด ฟลุ๊คสั่งจากเชฟทุกอย่าง หลักฐานสั่งก็มีหมด ฟลุ๊คสั่งจากเชฟตลอด แล้วเขาบอกว่าทำให้เกิดการเน่าเสีย ล่าช้า จนเกิดแถวยาวเหยียด ซ้ำค้างค่าไฟ ซึ่งค่าไฟผมแจ้งออแกไนซ์ไปแล้วว่าผมจะปล่อยแฟรนไชส์ออก รอได้เงินมาผมถึงเคลียร์ให้ เชฟก็ไปบอกเขาว่าผู้จัดงานติดต่อมาหาเชฟอ้างว่าเป็นหลาน
เชฟปูเก็บข้อมูลไว้แล้ว?
เชฟปู : จริงๆ ผมเป็นผู้เสียหายด้วย ผมเข้าใจคุณแมนมากๆ ผมรู้สึกเหมือนกับคุณแมนเลยในช่วง 2-3 วันนี้
คุณได้เครื่องล่าช้าแล้วเป็นไง?
ฟลุ๊ค : ผมก็ต้องสั่งลูกชิ้นกับเชฟ ผมก็ต้องขอบคุณเชฟแหละที่ให้ผมเอาลูกชิ้นมาขายก่อน เหมือนใครขายได้ก็ทยอยโอนเงินไปให้ แต่พอต้นทุนมันสูง มีค่าที่ ลูกจ้าง ค่าอะไรหลายๆ อย่าง ตอนแรกฟิวเจอร์พาร์คงานแรก รวมยอดขายเบ็ดเสร็จทั้งหมด ผมขายได้ประมาณ 1,250,000 บาท ประมาณนั้น แต่พอผมทำบัญชีสรุปออกมา จากค่าลูกชิ้น ค่าอะไรต่างๆ บัญชีผมติดลบไปประมาณ 1.8 แสน ตอนนั้นผมก็ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไร ตอนนั้นผมโทษตัวเอง ว่าเราบริหารผิดพลาดหรือเปล่า ซึ่งผมขายของมา 6-7 ปี ผมเรียนขายของมา ก็โอเค เราโทษตัวเองว่าเราบริหารผิดพลาด
ที่ขายขาดทุนคิดว่าเกิดจากฝั่งเชฟ?
ฟลุ๊ค : ตอนนั้นผมยังไม่รู้ ผมมารู้อีกทีคือมันรั่วไปกับค่าลูกชิ้น ค่าขนส่ง พอต้นทุนสูง ตอนงานฟิวเจอร์พาร์คผมโดนลูกค้าคอมเพลนว่าตักเสมอถุง แล้วเกิดปัญหา เชฟมองว่าผมไปขายในนามของเชฟ ต้องตักให้ล้น ตักแถม ซึ่งผมไม่เคยลองชั่ง มีครั้งนึงผมลองชั่ง ผมตักเสมอถุง เบ็ดเสร็จตอนนั้นประมาณ 6 ถุงที่ใส่ล้นไป ถุงใหญ่ พอชั่งรวมเป็น 5 กิโล คือพูดง่ายๆ ผมขายลูกชิ้น 5 กิโล ผมได้กำไรแค่ 100 บาท แต่ 100 บาทนั้นผมยังไม่ได้รวมต้นทุนน้ำจิ้ม ต้นทุนค่าแรง ค่าที่ ค่าต่างๆ ที่จ่ายไป ค่าอุปกรณ์ต่างๆ
ง่ายๆ ข้อสัญญาที่ตกลงกันว่าถ้าซื้อแฟรนไชส์เชฟไป จะมีเครื่องบดอัด เครื่องบีบลูกชิ้น พอขาดตัวใดตัวนึงก็ขายไม่ได้ ก็ต้องรับลูกชิ้นฝั่งเชฟมาขาย ก็เหมือนต้องนั่งเสียต้นทุนเพิ่ม จากซื้อเนื้อหมูมาบดเอง มันเพิ่มภาระให้ผู้ขาย แฟรนไชส์ทั้งหลาย ทางโน้นโดนอะไร?
เดียร์ : เรื่องเครื่อง และประเด็นจะไปซื้อเครื่องเอง ทางนี้บอกว่าไม่ได้ห้ามซื้อ ให้เอาของเขา เขาบอกว่าต้องเป็นสเปกของเขาเท่านั้น ถึงจะได้คุณภาพเขา พอวันที่เขาเอาเครื่องมาส่ง เขาก็เอาเครื่องที่หนูเคยถามนั่นแหละมาส่ง แล้วบอกว่าใช้งานได้เหมือนกัน ทำให้หนูเสียโอกาส เพราะหนูรอถึง 3 เดือนกว่าจะได้เครื่องที่เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ และเวลาทำ มันต้องทำทีละเยอะๆ เพราะต้องปั่นเป็นร้อยกิโล คิดดูว่าปั่นได้ทีละ 4 กิโล เราต้องปั่นกี่ครั้งกว่าจะได้ลูกชิ้นตั้งเยอะ แล้วที่หนูเสียโอกาสจริงๆ คือหนูตั้งใจเอาไปขายที่งานแห่เทียน ก็ไม่ได้
ส่วนใหญ่ปัญหามาจากเครื่อง พอเครื่องไม่มาก็ต้องสั่งลูกชิ้นจากเชฟ แล้วต้องแบกต้นทุน ทำให้ไม่คุ้มกับที่เขาขาย คุณเดียร์โดนอะไรนะ?
เดียร์ : เดียร์ซื้อแฟรนไชส์ โอนเงินวันที่ 19 มิ.ย. ตอนครั้งแรกเราเป็นแฟนคลับเชฟตั้งแต่แข่งท็อปเชฟ ติดตามข่าว เราอยู่ต่างจังหวัดไม่มีโอกาสได้ชิมลูกชิ้นเลยก่อนซื้อ พอรู้ว่าเขาเปิดขายแฟรนไชส์ ก็รีบโทรเลย ทีแรกเชฟบอกว่าของหนูมีคนจองไว้แล้ว แต่ยังไม่โอนเงิน สรุปอีกวันเขาก็ไม่เอา หนูก็โอเค หนูพร้อม หนูโอนเลย ตอนหนูโอนแล้วถามเขาต้องเรียนกี่วัน เครื่องได้ยังไง เขาบอกว่าหนูมาเรียนเลย นัดวันมาได้เลย เรียนเสร็จก็ส่งเครื่องตามไป พอหนูได้เรียนวันที่ 4 แต่แม่เขาป่วย เชฟขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 พอวันที่ 5 ไปเรียน ก็เจอแฟนเขา ทุกคนจะได้เรียนกับเชฟเบิ้ม หนูถามเรื่องสัญญา เพราะเขาเร่งให้โอนเงินที่เหลือก่อนเรียน หนูเลยถามเรื่องสัญญา เพราะในนั้นเขาบอกว่าสามารถร่างสัญญาให้เขาเซ็นได้ หนูถามเชฟเบิ้ม เชฟเบิ้มบอกว่าไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องถามเชฟอ้อย ถ้าอยากเรียนวันนี้ต้องโอนเงินก่อน เพราะวันนั้นเชฟอ้อยมีนัดถ่ายรายการ เขาต้องเร่งหนู หนูนัดกันประมาณ 11 โมง แต่เที่ยงเขาต้องไป ด้วยความรีบ เชฟพูดคำนึงว่าเชฟไม่โกงหรอก สัญญาใลน์ก็ใช้ได้ หนูก็เลยโอนและไปเรียน พอเรียนเสร็จ หนูน่าจะกลับมา เชฟพูดว่าสัญญาในไลน์คือสัญญาแล้ว มันคือข้อความที่เชฟส่งไป หนูไม่ต้องกังวลหรอกว่าจะมีสัญญาหรือไม่ หนูไปเตรียมอะไรให้พร้อม หนูถามว่าเครื่องจะได้เมื่อไหร่ ทีแรกเชฟบอกจะส่งตามมา เชฟเบิ้มบอกว่าประมาณ 7 วัน พอหนูไลน์กลับมาเพื่อความชัวร์ เพราะหนูไปเรียนวันที่ 5 ประมาณ 23 หรือ 30 ก.ค. จะมีงานแห่เทียน งานประจำปีที่จังหวัดอุบลฯ หนูก็ถามเขาตลอด ย้ำกับเชฟเบิ้มว่าทันใช่มั้ย เขาบอกยังไงก็ทัน พอกลับมาไลน์ถามเชฟ เชฟบอก 15 วัน ก็โอเค ยังมีเวลาซ้อมมือ
ตกลงได้เครื่องมั้ย?
เดียร์ : ไม่ได้ค่ะ พอวันที่ 15 ถามเชฟ เชฟบอกไม่ได้เครื่อง หนูก็ทำยังไงดี ให้ผู้ใหญ่ไปจองขายในงานแล้ว พอไม่ได้ก็ขึ้นมากรุงเทพฯ วันที่ 19 หรือ 20 ก.ค. เพื่อหาซื้อเครื่องทำลูกชิ้น หนูไปหาดูทุกร้านในกรุงเทพฯ ไม่มีเครื่องสเปกเชฟปั่นครั้งนึงได้ 8 กิโล หนูหามาหมดแล้ว เหลือแค่ 4 กิโล หนูส่งให้เชฟดูว่าได้มั้ย นอกจากเชฟบอกไม่ได้ เขาวอยซ์มาใช้อารมณ์ เขาว่าหนูโลภมาก ใจร้อน รีบทำไม เธอเก่งแล้วเหรอ มีคนงานทำแล้วเหรอ เชฟด่าหนูทั้งที่เชฟไม่รู้ว่าหนูทำร้านอาหารอยู่จังหวัดอุบลฯ หนูมีลูกน้องในครัว 20 คน ทำไมหนูจะไม่พร้อม เชฟอยู่ที่ร้านนี้ 3 คน แต่ที่หนูอยากทำเพราะหนูอยากต่อยอดกิจการของหนู เพราะหนูมีลูกน้องเยอะ พอเชฟบอกไม่ได้ไม่เป็นไร เชฟให้รอก็รอ หนูรอจนเดือนก.ย. เขาบอกจะมาก.ย. แต่สุดท้ายก็ไม่มา หนูเลยบอกว่าถ้าภายใน 20 ก.ย. หนูไม่ได้เครื่อง หนูจะคืนแฟรนไชส์ เขาก็วอยซ์ด่าหนูอีก เธอรู้สูตรไปแล้ว รู้ความลับไปแล้ว จะมาคืนได้ยังไง หนูเลยบอกว่าไลน์ยาวไปว่าแล้วจะให้หนูทำยังไง เป็นดราม่าเลยแหละ เพราะเกือบ 3 เดือนหนูเครียดมาก หนูจ่ายเงินไปแล้ว ทุกคนที่รู้ทั้งเพื่อนทั้งครอบครัวถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะได้ขาย ทำไมไม่รีบขาย ช่วงที่ไม่เครื่อง เขาเสนอให้หนูซื้อลูกชิ้น เพราะหนูบอกว่าหนูเดือดร้อน หนูจองที่แล้ว กิโลละ 100 บาท หนูทำร้านอาหาร ก็ถามว่าจะได้กำไรได้ไง เพราะเชฟตักออกก็เกือบโลแล้ว เขาบอกเธอตัก 800 กรัมก็พอ ก็ถามว่าจะเหลือกิโลละ 20 บาทเหรอคะ เขาบอกว่าใช่ หนูทำร้านอาหารหนูรู้เลยว่าเป็นไปไม่ได้
ซื้อโลละ 100 เฉพาะลูกชิ้น ตักออก 800 กรัม เขาไม่มีปริมาณบอกในการขาย?
แมน : สไตล์การขายลูกชิ้นตัวนี้ เป็นการขายที่ไม่ได้บอกว่า 1 กิโลอะไรเท่าไหร่ คือตักเต็มถุงและต้นล้นถุง เพราะเขาไปเสพจากติ๊กต๊อก จากสื่อออนไลน์ว่าต้องเป็นแบบนี้ผมเจอที่สุราษฎร์ฯ ลูกค้าจะตักเอง ผมบอกว่าไม่ได้หรอก ลูกค้าด่าผมเต็ม ทำไมในคลิปถึงตักได้ ถ้าเชฟอ้อยรู้โดนด่าแน่ๆ ลูกค้าด่าผมแบบนี้ ตอนของผมหนักกว่า 8 ขีดอีกนะ เชฟบอกว่าทำไมจะไม่ได้กำไรล่ะ ลูกชิ้นซื้อกิโลละ 100 ตัก 6 ขีดก็พอ แต่ขนาดว่า 6 ขีด ก็เท่ากับ 60 บาท ค่าน้ำจิ้ม ค่าถุง ค่าที่ ค่าลูกน้อง ค่าใช้จ่ายแฝงเยอะมาก แค่ค่าน้ำจิ้มก็หมดแล้ว
คุณโดนแบบนี้?
เดียร์ : หนูคำนวณแล้วมันไม่เหลือหรอก แต่หนูได้จองที่แล้ว หนูเลยคิดว่างั้นสั่งมาสัก 500 โลเพื่อไม่ให้เสียคำพูดกับผู้ใหญ่ ที่อุตส่าห์ไปขอมาแล้วในงานแห่เทียน พอโทรไปถามเชฟ เชฟบอกว่า 500 ไม่ได้นะ เพราะค่าส่งแพง ขั้นต่ำต้อง 1 ตัน หนูคำนวณแล้วโอ้โห ตันนึงต้องเสียอีกแสนนึง มันไม่คุ้มค่ะ หนูไม่พร้อมขาดทุนขนาดนั้น เพราะค่าที่หนูก็แพง ค่าน้ำจิ้ม เชฟใช้ของดีทุกอย่าง ราคาจะไม่เหลืออะไรเลย หนูทำร้านอาหารหนูรู้ดี หนูเลยตัดสินใจไม่ซื้อลูกชิ้นกับเชฟ แล้วก็รอ
เชฟให้รอเครื่องจากเชฟเท่านั้น พอเครื่องมาถึง?
เดียร์ : ก็ 4 โล เหมือนที่หนูเคยถาม ตอนนั้นหนูถามว่าทำไมเป็นเครื่องเล็ก เชฟบอกหนูว่าเขาส่งผิด ก่อนที่จะได้เครื่องมา หนูยื่นคำถามว่าถ้าไม่ได้เครื่องภายใน 20 ก.ย. หนูจะคืนแฟรนไชส์ หรือถ้าเชฟไม่ให้คืน ก็คอยดูเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความหมายของหนูคือหนูจะฟ้อง ไม่กี่วันเชฟโทรมาพูดดี ว่าจะไปงานครัวคาราวานไปเซ็นทรัล ไปขายที่อุบลฯ ทั้งที่หนูยังไม่ได้ขายเลยนะ เขาจะไปขายก่อน หนูยังไม่ได้เครื่อง ไม่ได้ขาย รอเขามา 3 เดือน หนูก็โวยว่าเชฟจะมาขาย ทั้งที่หนูยังไม่ได้ขายเลย เขาบอกเชฟต้องไป เพราะเซ็นสัญญากับเขาไว้แล้ว แต่เครื่องไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเชฟจะถือไปพร้อมกับเชฟ เครื่องปั้นได้ แต่เครื่องปั่นผสมเนื้อเป็นเครื่องเล็ก แล้วเขาไม่ได้บอก หนูถามว่าทำไมมันเล็ก เขาบอกว่าเขาส่งผิด เขาต้องส่งไปให้แฟรนไชส์ลูกชิ้น หนูถามว่างั้นต้องทำยังไง เขาบอกว่าต้องรอเชฟกลับกรุงเทพฯ ก่อนนะ ใช้เวลาเท่าไหร่ เดี๋ยวให้เชฟเบิ้มติดต่อกลับ สักพักแฟนเขาก็โทรกลับมา แต่แฟนเขาบอกหนูว่าเครื่องยังไม่มาจากจีน ไม่ได้พูดตรงกันกับเขา หนูบอกว่าหนูไม่รอแล้วนะคะเพราะคุณจะมาขายตัดหน้าหนูอยู่แล้ว เครื่องก็ไม่ให้หนูอีก เขาเลยบอกว่าประมาณ 13 ต.ค. น่าจะได้ ช่วงเขาขายหนูพยายามทำใจร่มๆ เพราะอยากให้เขามาโปรโมต ไหนๆ มาจังหวัดอุบลฯ แล้ว แต่ห้างในอุบลฯ มีแค่ 2 ห้าง คือเซ็นทรัลกับอีกห้าง ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีงาน หนูจะไปตั้งสแตนขายอโลนก็ไม่ใช่ เขาขายไปก่อน ได้เครื่องมาก็เป็นเครื่องเล็ก แต่หนูก็ทำเป็นใจดีสู้เสือ ทำรับหิ้ว โพสต์ในเพจว่าถ้ามาเซ็นทรัลคิวยาวมารับกับหนูได้นะ หนูก็ไปเช่าหน้าร้านพี่ชายที่อยู่แถวๆ ในเมืองให้เขามารับ เขาให้เครื่องเล็กเชฟเบิ้มบอกว่าใช้ไปเลย ใช้ได้ หนูก็ใช้ๆ ไป แต่หนูมีประเด็นกับเขา คือหนูติดต่อเขาไม่ได้เลย เพราะเขาต้องโปรโมตให้หนูใช่มั้ย ช่วงอยู่งานคุณต๋อย หนูติดต่อเขาไม่ได้เลย หนูคิดว่าจะเอาเขาไปโปรโมตที่ร้านอาหารหนูก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็ไปยืนตรงคุณต๋อยให้หนูถ่ายรูปว่าหนูคือเจ้าของแฟรนไชส์จังหวัดอุบลฯ จริงๆ นะ เขาไม่อ่านไลน์ ไม่ตอบหนู หนูเลยไม่ไหว หนูเลยส่งข้อความว่าถ้า 13 ต.ค. หนูไม่ได้เครื่อง เจอดีกันแน่ เขาเลยเอาเครื่องมาเปลี่ยนให้ แล้วเอาตัวเล็กกลับไป ของหนูก็จบ แต่วันที่ 25 พ.ย.อยู่ดีๆ ก็โทรมาด่าหนู บอกว่าหนูไม่มีจิตสำนึก เครื่องพังแล้วส่งคืนทำไม หนูปั่นเครื่องทุกวันก่อนส่งคืนก็ใช้ได้อยู่ หนูไม่ใช่ช่าง จะรู้ได้ไงว่าเครื่องพังหรือไม่พัง แล้วหนูต้องทำยังไง ในเมื่อเขาบอกให้ใช้ได้เลย หนูก็รับออเดอร์ พอพังก็มาด่าเรา แต่ตอนเขาเอาไป ยังใช้ได้นะ
พี่ล่ะ?
แอน : ติดต่อเชฟไปจะขอซื้อแฟรนไชส์ที่จ.สมุทรปราการ เชฟบอกว่ามีคนซื้อแล้ว ก็บอกว่างั้นกรุงเทพฯ แล้วกัน เชฟบอกว่ากรุงเทพฯ เชฟไม่ขาย เชฟจะลงเอง เชฟบอกถ้าอยากขายสมุทรปราการ ซื้อสิทธิ์จังหวัดอื่นก่อนแล้วขายได้ พอสมุทรปราการซื้อไปเขาไม่พร้อมทำเพราะทำวิทยานิพนธ์ ปริญญาโท ถ้าวันไหนสมุทรปราการขาย เชฟจะบอก ถ้าไม่ทับเส้นเขาขายได้ ให้เราขายไปก่อนได้ ถ้าสมุทรปราการขายไม่ได้ตรงจุดที่เราขายก็ได้ แต่ถ้าสมุทรปราการมาขายตรงจุดที่เราจะขาย เราต้องออกนะเพราะมันไม่น่ารัก ระหว่างคุย เชฟเสนอมาว่าสมุทรสาครมั้ย มันไม่ไกล ก็บอกว่าได้ค่ะ เชฟบอกว่าถ้าตกลงก็ให้ไลน์ส่งรายละเอียด เชฟส่งมา 10 ข้อเหมือนกัน ระหว่างนั้นกำลังโอนเงิน เชฟไลน์มาว่าเสียใจด้วยนะ สมุทรสาครมีคนโอนเงินมาแล้ว ไม่ได้ เชฟเสนอว่าสมุทรสงครามมั้ย เหลือสมุทรสงครามกับประจวบ เราก็เลยบอกว่าสมุทรสงครามก็ได้ แต่ย้ำกับเชฟว่าขายได้แน่นะ เพราะสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุด ห้างไม่มี เชฟบอกว่าได้ค่ะ คุณขายก่อนได้เปรียบ เพราะมีลูกค้ามาซื้อคุณ รับหิ้ว รับอะไร ก็ถามว่าถ้าขายที่สมุทรปราการ เขาไม่ฟ้องเราแน่นะ เชฟบอกไม่ค่ะ เขายังไม่ขาย ไม่ฟ้อง เจ้าของแฟรนไชส์อนุญาต เราก็เลยมั่นใจ แล้วเขาเร่งมาในไลน์อีกว่ารีบหน่อยนะคะ เชฟลงประกาศหน้าเพจแล้วว่าสมุทรสงครามว่าง เดี๋ยวจะมีคนโอนมาเหมือนสมุทรสาครอีก ให้รีบ เราก็รีบโอนไปเพื่อจองสิทธิ์ขายสมุทรปราการ พอโอนไป 3 ก.ค. ตอนกลางคืนมานั่งดูในสัญญา เชฟบอกว่าแฟรนไชส์นี้ขายขาด เชฟไม่ยุ่งอะไรอีกแล้ว ก็มานั่งคิดว่าไม่ใช่แล้ว สมุทรปราการฟ้องเราแน่ในอนาคต แล้วคนจะอนุญาตให้เราขายในสมุทรปราการได้ต้องเป็นสมุทรปราการ ไม่ใช่เชฟ ตอนนั้นเชฟปล่อยไปแล้ว เชฟหมดสิทธิ์แล้วในจังหวัดนั้น โอนเงินไปตอนบ่ายสอง สี่ทุ่มไลน์หาเชฟว่าไม่พร้อมทำ ขอคืน เชฟไปประกาศหน้าเพจได้เลย ว่าส่งต่อสมุทรสงครามว่าง ขอคืนครึ่งนึงเลย เพราะไม่มั่นใจแล้ว เชฟบอกว่ารับทราบเดี๋ยวจะจัดการให้ แต่ 2 เดือน หน้าเพจเชฟไม่เคยลงให้เลยสักครั้ง
ได้คืนตังค์มั้ย?
แอน : ไม่คืนและไม่ลงให้ด้วย เราอยากขอเงินคืน เพราะคิดว่าสมุทรปราการฟ้องแน่ในอนาคต เราเลยไม่อยากทำ เราก็ตื้อเชฟตลอด เชฟส่งข้อความมาวันที่ 17 ว่าบริษัทเมื่อได้เงินแล้วไม่คืนกันหรอก แต่เชฟอุตส่าห์คุย จนบริษัทคืนเงินคุณแล้ว จะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกัน คุณต้องรอระบบบริษัท ยังไงก็ได้เงินคืนค่ะ แล้วก็รอมาถึงวันนี้ 5 เดือน ยังไม่ได้ค่ะ 125,000 บาท
เชฟแจกแจงเลย?
เชฟปู : ผมไม่รู้จักพี่ๆ ทุกคนเลย ผมรู้จักเชฟอ้อย เราเป็นเพื่อนกัน ทำงานมาเกือบ 10 ปี ประเด็นของผมที่มีปัญหา คือผมไปทำงานอยู่ที่กาญจนบุรี เมื่อวันศุกร์ อยู่ดีๆ มีคนโพสต์เรื่องเชฟอ้อยขึ้นมา ประมาณว่าโกงสะบัดเลย เรากำลังรวมตัวไปกองปราบ คลิปที่ทุกคนไปออกข่าว ตรงกลางเป็นหน้าเชฟอ้อย แต่ข้างๆ เป็นหน้าผม พ่อแม่พี่น้องโทรมาเลยว่าไม่มีเงินเหรอ ไปโกงเขาทำไม ผมตกใจเลย วันนั้นทั้งวันผมนั่งอ่านปึกนี้ กลางคืนนอนไม่หลับ กินข้าวไม่ลง ก็โทรไปหาเชฟอ้อยว่าคุณไปโกงเขาหรือเปล่า ที่ผมฟังเหมือนผิดสัญญานะครับ แต่ฉ้อโกงค่อนข้างรุนแรง ผมบอกเชฟอ้อยว่าคุณต้องมาโหนกระแส เพราะมารายการนี้ มีสองอย่าง คือดังกับดับ เชฟบอกว่าปูถ้ากูมามึงมามั้ย ผมก็ต้องมาสิ พ่อแม่ผมโทรมาเต็มไปหมด แล้วประเด็นมันไม่จบ ผมยืนยันว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะไปโกงใคร ตังค์ผมก็ไม่ได้ เขาทำธุรกิจของเขา เราเป็นเพื่อนกัน ช่วยกันในสายอาชีพ พอเขาขายแฟรนไชส์ ผมไม่เคยไปขอเงินเขาเลย
แมน : วันนี้เราคือการเคลียร์กัน คนที่เสียหายส่วนผู้เสียหาย ถ้าพูดถึงผมไม่ได้เสียหายขนาดนั้น ถ้าสิ่งที่ผมอยากพูด ผมค้างคาใจมากๆ เรื่องก๋วยเตี๋ยว ผมโกรธมากพูดตรงๆ ก๋วยเตี๋ยวมีกี่ปีแล้ว ผมซื้อแฟรนไชส์เขามาขาย เขาก็กำลังขายก๋วยเตี๋ยว ทำไมผมขายไม่ได้เหรอ ผมถามก่อน ประเด็นคุณเชฟอ้อยไลน์ไปด่าผมเลยนะ ไม่มีจิตใต้สำนึก โน่นนี่นั่น มีวอยซ์เสียง โอ้ย เสียคน ว่าผมไปขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนเขา ไปใช้ความคิดเหมือนเขา ไม่รู้จักคิดเอง คุณได้เงินมาอย่างนี้ดีแล้วเหรอ
แล้วเป็นแบรนด์เขาเหรอ?
แมน : แบรนด์ผมครับ ผมทำเองครับ ผมมีร้านอาหาร ลูกชิ้นผมซื้อต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเชฟอ้อยเลยครับ ผมด่าผมไปลอกเลียนแบบเขา เอาความคิดเขามาขาย ผมท้าให้ไปดูเลยว่าผมมีใบเสร็จหมด เก็บไว้หมด เราทำธุรกิจ ต้องมีการซื้อขายเรามีสลิปหมด ผมสั่งลูกชิ้นพ่วงด้วยทุกวัน
แล้วพี่อ้อยไปด่าเขาทำไม?
เชฟอ้อย : เรื่องของเรื่อง ที่เราโทรไปหาแมน ครั้งแรกเชฟเอ็นดูเขามาก เมตตาเขา จะคุยมึงกูเหมือนเขาเป็นลูก ไม่ได้คิดอะไรเลย วันนึงที่เราเสียความรู้สึกกับเขา เหมือนเขาเสียความรู้สึกกับเรา ช่องๆ นึงไปเที่ยว เป็นช่องดัง ไปเที่ยวที่สุราษฎร์ฯ แคปหน้าจอมาให้เชฟดู เป็นรูปของเชฟไปติดอยู่กับร้านลูกชิ้น 5 บาท
แมน : ไม่ใช่ค่ะ ผมอธิบายให้เชฟฟังแล้ว คุณด่าผมเสียๆ หายๆ มึงโดนแน่ มึงเตรียมเงินเลย อยากพูดชื่อมาก จะโดนฟ้องมั้ย
เชฟอ้อย : คุณบอย ช่องวันค่ะ
แมน : คุณไม่ได้พูดแค่บอยเดียว เขาบอกบอย ถกลเกียรติอีกคน แล้วเชฟโทรไปหาผม โทรหาคนรับหิ้วที่เป็นลูกน้องผมก่อนนะ คนนั้นปัจจุบันนี้เป็นลูกน้องผม ทำงานให้ผม คนนี้ลูกน้องเรา เราก็อยากให้เขาได้รายได้ แต่แฟนเขากับแม่เขา ตั้งร้านลูกชิ้นขายตามถนนคนเดิน ซึ่งป้ายตั้งอยู่หน้าร้านจริง แต่ผมบอกแล้วว่าเขาเขียนรับหิ้วลูกชิ้นเชฟอ้อย ทุกคนตาไม่ได้บอดค่ะ อ่านเห็น ผมคาใจมาก ผมผิดตรงไหน ผมอยากรู้ แล้วอาชีพเขา เป็นลูกน้องในร้านอาหารผม แต่อันนี้แม่เขาขาย ซึ่งตรงนี้คนจะเยอะมาก เราเอาป้ายไปโฆษณา ซึ่งผมบอกแล้วผมทำการตลาดออฟไลน์ด้วย เชฟเป็นคนบอกผมเอง เอาโลโก้เชฟไปใช้ได้ ผมไม่ได้บอกนี่ว่าขายลูกชิ้นไม้ 5 บาท ไม่ได้บอกว่าเชฟอ้อยขายลูกชิ้นไม้ 5 บาท คนมีสมองใครอ่านก็ออกว่ารับหิ้ว
เชฟอ้อย : แต่การที่เราคุยกันครั้งแรก เชฟบอกแล้วว่าการคุณจะใช้แบรนด์ ใช้โลโก้เรา ห้ามเอาไปวางกับที่อื่น
แมน : คุณไม่ได้บอก
เชฟอ้อย : เชฟบอก
แมน : ถ้าบอกเอาหลักฐานมา
เชฟอ้อย : ถ้าคุณจะขายเชฟบอกเลยว่าห้ามเอาแบรนด์เชฟไปวางขายพ่วงกับแบรนด์อื่น นัยยะคือเชฟไม่ต้องการให้ใครมองว่าเชฟขายลูกชิ้นอะไรก็ไม่รู้
แมน : ผมเข้าใจ ผมไม่ได้เป็นเจ้าของภัตตาคารลักกี้ แต่ผมเป็นคนสร้างแบรนด์อีกแบรนด์นึงขึ้นมา ผมว่าผมก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันในจ.สุราษฎร์ฯ ฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องไปอ้างอิงเชฟครับ ทุกวันนี้ปัญหาที่ได้เกิดขึ้น ที่เชฟเซฟหน้าจอหาผม สุราษฎร์ฯ ไม่มีไข่ สุราษฎร์ฯ เส้นดิบ มันเรื่องของผม เพราะมันหน้าผม ผมขายของผม เชฟไม่มีสิทธิ์มาด่าผม เชฟด่าผมเสียๆ หายๆ คุณไม่มีวันเจริญหรอก คุณมีสิทธิ์อะไรมาด่าผม
เชฟอ้อย : ถ้าคุณไม่ขายลูกชิ้นเชฟ คุณขายก๋วยเตี๋ยว คุณขายเมื่อไหร่
แมน : ผมขายก๋วยเตี๋ยวตอนขายลูกชิ้นคุณ แต่ผมไม่ได้ขายพร้อมกัน แต่ผมกล้าพูดเลย เอาหน้าไปถามก็ได้ น้อยคนไม่รู้จักผม ประเด็นเกิดตรงที่พอผมขาย พอผมขาย เขาจำหน้าเราได้ เซ็นทรัลคนเยอะมาก ผมขายลูกชิ้นเชฟอ้อยวันละ 3-4 ตัน ภาพจำเขาจำเราได้ ว่านี่เป็นเรา พอวันนึงเราไม่ขายลูกชิ้นเขาทั้งที่ผมมีป้ายนะครับ ลูกชิ้นคั่วกะเทย กับก๋วยเตี๋ยวแห้งกะเทย ผมขายของผม 2 อย่างคู่กันจ้า ก่อนหน้านี้ผมมีชื่ออีกอัน ตอนขายใหม่ๆ ใช้ชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวแห้งกากหมูนรก ซึ่งคนจะจำสองอย่างนี้ในสุราษฎร์ฯ ซึ่งผมบอกลูกค้าทุกว่าอันนี้ไม่ใช่ของเชฟอ้อยนะครับ เพราะเขาจำหน้าเราได้ พอเขาจำหน้าเราได้ลูกค้าหลายคนถามว่าไม่มีไข่เหรอ ผมก็บอกว่าไม่ใช่เชฟอ้อยครับ
ยืนยันว่าไม่ใช้แบรนด์เขา และไม่ได้เลียนแบบ?
แมน : ไม่ใช่แบรนด์เขา
เชฟอ้อย : ถามคำเดียวเลยว่าขายก๋วยเตี๋ยววันที่เท่าไหร่
แมน : ขอบคุณมากที่ถามคำนี้ ตอนนั้นกระแสลูกชิ้นเชฟอ้อยเริ่มซาแล้วที่สุราษฎร์ฯ ผมไม่อาจเอื้อมของเขาหรอก ผมหยุดวันที่ 23 ทางห้างเขาเห็นว่าแบรนด์ดัง เขาก็เชิญผมไปที่สหไทย เจ้าของห้างเชิญผมไปเลย เขาเลยเชิญผมไปขาย เพราะเห็นว่าผมเป็นแฟรนไชส์เชฟอ้อย เชื่อมั้ย ผมไปขายแต่ขายยอดลดลงมาก แต่ขณะเดียวกันเราต้องประคองลูกน้องอยู่ ผมต้องจ่ายเงินเดือนลูกน้องทุกวัน ผมถามคำนึง ถ้าเป็นพี่มีศักยภาพในการทำ ใช่ ก๋วยเตี๋ยวคุณขายก่อนผม แต่ผมไม่มีสิทธิ์ขายเหรอ คุณมีสิทธิ์อะไรมาด่าผม ก๋วยเตี๋ยวนี้คุณขายคนเดียวในประเทศไทยเหรอ แล้วผมซื้อแฟรนไชส์คุณมามั้ย ผมเกิดมาทั้งชีวิต ไม่ได้เกิดมาสวยหรู แต่ไม่มีใครด่าผมแล้วเดินหายไปจากผม ผมต้องได้ด่ากลับ เวลาผมโทรไปเขาไม่รับโทรศัพท์
เขาไปทำเลียนแบบพี่หรือยังไง?
เชฟอ้อย : ที่ลูกค้าส่งมาให้ดู เชฟไม่พูดถึงรสชาติ
แมน : เชฟไม่มีสิทธิ์มาว่าของผม เพราะของผมขายดีอยู่แล้ว
เชฟอ้อย : แต่นัยยะคือทุกคนจำหน้าเขาได้ว่าเขาขายแฟรนไชส์เชฟ
แมน : ก็ใช่ไง
เชฟอ้อย : วันที่เขาขายก๋วยเตี๋ยว เขาทำแบบของเชฟเลย จัดเหมือนของเชฟเลย
แมน : แล้วเชฟจะให้หนูไปซื้อกะละมังที่ไหนละค้า
เชฟอ้อย : เขาจัดเหมือนกันเลย เอาง่ายๆ ถ้าเชฟคิดจะขาย เชฟจะไม่จัดให้เหมือนใคร เพราะสื่อให้เขาเข้าใจผิด เชฟเลยตอบกลับแฟรนไชส์ไปว่าไม่ใช่ของเชฟ เขาถามทำไมไม่มีไข่ เชฟก็บอกว่าไม่ใช่ของเชฟ เขาบอกซื้อจากสุราษฎร์ฯ เราบอกว่าก่อนคุณขายอะไร ก่อนคิดอะไร คุณไม่ต้องเอาของเชฟไปจัดกะละมังแบบนี้ คุณซื้อกะละมังอื่นก็ได้ ที่ไม่ต้องมาจัดแพทเทิร์นเหมือนกันมั้ย อันนี้เมคเซ้นส์ง่ายๆ ไม่ใช่งี่เง่าว่าคุณซื้อกะละมังแบบนี้ไม่ได้ แต่การจัดแพทเทิร์นมันไม่สมควร
แมน : แล้วควรให้ผมจัดกับโต๊ะจีนเหรอค้า ขายก๋วยเตี๋ยว โต๊ะมีกี่แบบคะ มีแบบเดียวเวลาจัดบูธ คุณเชฟจะให้ผมไปซื้อกะละมังรูปดาวอังคารเหรอคะ ก๋วยเตี๋ยวมีกี่แบบ ถามหน่อย ก๋วยเตี๋ยวมีกี่ร้อยปีแล้วคะ
เชฟอ้อย : ถ้าคุณขายครั้งแรก คุณซื้อแบรนด์เราไป อยู่ๆ วันนึงเห็นก๋วยเตี๋ยวเชฟดัง คุณขายก๋วยเตี๋ยว
แมน : แล้วมันผิดตรงไหน
เชฟอ้อย : ไม่ผิด
แมน : แล้วคุณมาด่าผมทำไม
เชฟอ้อย : ผิดตรงที่ลูกค้ามาด่าเรา
แมน : ผมมีให้คุณดูอีก วันที่คุณด่าผม
เล้ง : แต่เชฟมาด่าแฟรนไชส์ไงครับ
เชฟอ้อย : เชฟมีหน้าที่ชี้แจงว่าไม่ใช่ของเชฟ
แมน : ผมส่งไปหาเขา ทำไมเขาไม่ขอโทษผมล่ะ
เชฟอ้อย : เพราะไม่อ่านเลย
แมน : คุณไม่อ่านเพราะไม่อยากฟัง คนไปคอมเมนต์อันที่ว่าเชฟอ้อยเห็นแล้วส่งให้ผม สุราษฎร์ฯ มันถิ่นของผม ผมไปถามคนที่เมนต์ถึงบ้านเลยครับ เขาพิมพ์มาขอโทษทุกข้อ แต่เชฟไม่เห็นพูดอะไร มีแต่วอยซ์มาด่าๆ ด่ามีอะไรดีขึ้น
เชฟอ้อย : ถ้าเชฟไม่ส่งไปให้คุณ คุณจะหาตัวคนนี้แล้วไปหาถึงบ้าน อธิบายเขาให้เข้าใจมั้ย
แมน : แต่เชฟด่าผมก่อนทำไม เชฟก็พูดดีๆ สิ ผมมาเพราะข้องใจประเด็นนี้มาก เรื่องลูกชิ้นแฟรนไชส์ผมไม่ติด เพราะผมไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ส่วนนึงผมก็ไม่ใช่คนผดุงศีลธรรมว่าเป็นคนดีขนาดนั้น แต่มองว่าในเมื่อเราเป็นคนเดียวที่เสียหายน้อยที่สุด ขณะเดียวกันเหมือนลงเรือลำเดียวกัน คนอื่นกำลังลำบาก อีกมุมคนกลุ่มนั้นไม่กล้าออกมา แต่ผมกล้า แต่วันนั้นผมไม่ชนกับเชฟอ้อยเพราะผมคิดว่าผมยังไม่ได้เครื่อง ผมยังไม่คืนทุน แต่วันนี้ผมไม่สนแล้ว เพราะเชฟทำให้ผมนอนไม่หลับอยู่ 2-3 เดือน ผมล่ะกลัว เดี๋ยวจะมายึดแฟรนไชส์บ้างล่ะ จะอะไรบ้างล่ะ เขาแคปในติ๊กต๊อกส่งมาในคอมเมนต์ ถ้าจะขายอะไรไม่ว่า แต่อย่ามาอ้างว่าเป็นของเชฟ อย่าทำให้เข้าใจว่าเป็นของเชฟ เชฟไม่โอเค ควรอยู่ในกรอบและเคารพกัน ผมแคปหน้าจอทั้งหมดของผม เพราะผมไม่ได้ใช้ชื่อเขาและไม่ได้ใช้ลูกชิ้นเขาด้วย ผมแคปไปว่าผมใช้แบรนด์ของผมนะ ผมบอกลูกค้าหมดว่าอันนี้ไม่ใช่แฟรนไชส์ ติดป้ายแยกกันทุกครั้ง เพราะการจะให้ลูกค้าเข้าใจผิดมันไม่ถูกต้อง คุณเชฟบอกผมว่าก็เหมือนของเชฟนะคะ กะละมังหรือรูปแบบก็น่าจะรู้ว่าเจตนาแบบนี้หรือเปล่า ลูกชิ้นก็สูตรของเชฟ บอกตรงนี้เลยว่าไม่ใช่ค่ะ หนูซื้อมาค่ะ
เชฟอ้อย : ถ้าในสิ่งที่เราพูดไม่ดี หรืออะไร เราผิดก็ยอมรับผิด
แมน : ขอโทษหนูสิ เพราะเชฟด่าหนูมาเยอะแล้ว
เชฟอ้อย : ขอโทษได้ เชฟขอโทษ
แมน : โอเค หนูก็ขอโทษเหมือนกัน ที่ก้าวร้าว
เชฟอ้อย : อะไรที่ผิดเราก็ผิด ณ เวลานั้นไม่มีใครไม่โมโห ณ เวลานั้นถ้าคุณทำก่อนแล้วไม่ขายตามกันจะไม่มีปัญหา จะไม่มีปัญหาถ้าลูกค้าไม่มาด่าเราในเพจ
แมน : แต่เชฟควรถามผมก่อน ถ้าเชฟขอโทษหนูก็รับ แต่หนูก็ขอโทษเหมือนกัน แต่เชฟก็ต้องเข้าใจนะ สิ่งที่เชฟว่าหนูแต่ละคำ หนูไม่เคยตอบโต้เชฟเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีอยู่ครั้งนึงที่ผมเรียกร้องสิทธิ์ของผม ผมอยากได้เครื่อง ผมผิดตรงไหน
มุมเชฟเอง เห็นบอกมีประเด็น บุคคลคนนึงทำลูกชิ้นเลียนแบบเรา และเอาไปขาย คือคนไหน?
เชฟอ้อย : คุณเล้งค่ะ
เล้ง : วันนี้เอาลูกชิ้นมาให้ชิมเลย น้ำจิ้มก็ผมคิดเองด้วย ลองชิมเลยครับ
เขาเลียนแบบยังไง?
เชฟอ้อย : ทุกคนก็พูดแบบนี้หมดแหละว่า ณ วันนึงก็เป็นของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ทำก่อนซื้อแฟรนไชส์
เล้ง : ผมซื้อแฟรนไชส์มา แต่หลังจากนั้นในแบรนด์ของคุณที่ผมคิดว่ามันไปต่อไม่ได้ มุมมองของผม ผมไปทำต่อไม่ได้เหรอ เพราะผมซื้อมา แล้วคุณจดลิขสิทธิ์อะไรว่ามันเป็นของคุณจริงๆ
เชฟอ้อย : ในสัญญาเราก็เขียนชัดเจนว่าห้ามเปลี่ยนแปลงสูตร ถูกมั้ย
เล้ง : อันนี้คือแบรนด์เฮียเล้งลูกชิ้น ไม่เกี่ยวอะไรกับของคุณครับ
เชฟอ้อย : แต่คุณขายในเวสต์เกสเป็นชื่อเชฟ ถูกมั้ย
เล้ง : อันนั้นผมซื้อของคุณ ผมสามารถขายได้ทั้งสองแฟรนไชส์ครับ
เชฟอ้อย : ล่าสุดคุณก็ยังขายในแบรนด์เชฟ
เล้ง : เอาหลักฐานอะไรครับ วันนี้เลิกขายของคุณเป็นเดือนแล้วครับ สิ่งแรกผมซื้อแฟรนไชส์คุณมา ผมต้องขายภายใต้ชื่อคุณ คุณขายสูตรให้ผม สูตรของคุณลองไปเปิดดูในยูทูปได้ ไม่ได้ซัปซ้อน งั้นคุณก็ไปไล่ฟ้องเลยครับ คนที่เขาทำสูตรใกล้กับคุณ คุณไปไล่ฟ้องเลย
เชฟอ้อย : เชฟไล่ฟ้องไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์กับเชฟ
เล้ง : ผมซื้อแล้วทำไมผมจะทำแบรนด์ผมเองไม่ได้
เชฟอ้อย : คุณทำได้ แล้วทำไมไม่ทำตั้งแต่ทีแรก
แมน : อ้าว แล้วงั้นจะไปซื้อของคุณทำไม ถามหน่อยสิ ฟังนานแล้ว พูดไม่รู้เรื่อง
เชฟอ้อย : ไม่ใช่ เราคุยกันแล้ว
เล้ง : ถ้าคนซื้อแฟรนไชส์คุณไป ไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์คุณก็ได้ แต่ผมทำแฟรนไชส์ตัวเอง พี่หนุ่มซื้อแฟรนไชส์ผมไป แล้วพี่หนุ่มเอาไปทำลูกชิ้นตัวเองต่อ พี่หนุ่มทำได้มั้ย ผิดกฎหมายมั้ย
อดีตเคยทำไอซ์มอนสเตอร์ เร็วๆ นี้กลับมาแล้ว ไอซ์มอนสเตอร์ก็ขายแฟรนไชส์ ซึ่งมันก็คุมยาก ถ้าอนาคตแฟรนไชส์เขาเลิกทำของผมไป เพราะต้นทุนเขาอาจไม่ได้ หรือมีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ หรือแม้กระทั่งบางที่ผมไม่ได้ขายหน้าลำไย แต่ผมมีลำไย ผมถือว่าเขาผิดกฎ วันนึงผมบอกให้เขาหยุด เขาทำไม่ได้เพราะผิดกฎมาหลายครั้งแต่เครื่องไม้เครื่องมือเขาอยู่ เขาจะไปทำแบรนด์ผมไม่ติดนะ มุมผม ผมว่าเขาทำได้ แต่เขาต้องไม่ใช่สูตรเรา ไม่ใช่หน้าเรา ไม่ใช้โลโก้เรา ผมก็งงอยู่ว่าการทำแฟรนไชส์จริงๆ แล้วส่วนใหญ่เขาไม่ขายสูตร เพราะขายสูตรเป็นการผูกมัด ผมขายไอซ์มอนสเตอร์ เป็นไซรับของผม ผมก็ส่งไซรับให้คู่ค้าของผม แต่ผมจะไม่ส่งสูตรให้เขาทำไซรับเอง เพราะสุดท้ายถ้าเขาทำไม่เหมือนรสชาติเปลี่ยน คนถูกด่าคือผม แต่พี่ พี่ขายสูตรเลย มันเลยไปสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า หรือคู่ค้าที่เขาซื้อไป วันนึงเขาอาจเอาสูตรตัวนี้ไปเปลี่ยนแปลง ดัดแปลง มันผิดที่เราตั้งแต่แรก ทำให้ทุกคนสามารถทำได้?
เชฟอ้อย : ถูกค่ะ ไปทำได้
เล้ง : แล้วคุณมาด่าอะไร
เชฟอ้อย : ทำได้ แต่วันนั้นที่คุยกัน ถ้าคุณจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง คุณต้องเลิกใช้แบรนด์เชฟ
คุณยังใช้อยู่เหรอ?
เล้ง : ไม่ได้ใช้ไงครับ คุณต้องการอะไร ผมเปลี่ยนมาเป็นเฮียเล้ง ลูกชิ้นแล้ว ผมผิดตรงไหน
เชฟอ้อย : เพิ่งไม่ได้ใช้กี่เดือน
เล้ง : ผมไม่ได้ขายในนามเชฟอ้อยแล้ว ผมขายลูกชิ้นเฮียเล้ง คุณต้องการอะไร
เชฟอ้อย : ไม่ต้องการอะไรค่ะ
แมน : เชฟรู้มั้ยมีลูกค้าที่เขาด่าผมด้วยนะ ตอนผมขายที่สุราษฎร์ฯ แล้วเชฟไม่ลงไป แล้วเราผลิตลูกชิ้นไป พอเทใส่หม้อ ลูกค้าบอกว่าลูกชิ้นปลอมหรือเปล่า ไม่ใช่เชฟอ้อยจริงๆ หรือเปล่า มีแบบนี้เยอะมาก
วันนี้ต้องการอะไร?
เชฟปู : ผมว่าเราผิดประเด็นมาก วันนี้เรามาเริ่มต้นจากวันศุกร์ มีการกล่าวหาว่าฉ้อโกง อยากให้เคลียร์ประเด็นนี้ก่อน ว่ามันเข้าฉ้อโกงมั้ย ฉ้อโกงยังไง ส่งของช้าเพราะอะไร
เดียร์ : มันมีเพจนึงที่เขาเป็นกลุ่ม LGBT ที่เขาเม้าธ์ๆ กัน เอาข้อมูลตรงนี้ไปให้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งหนูขอบคุณเขานะ ตอนนั้นหนูยังไม่รู้จักพี่แมน หนูนึกว่ามีหนูกับพี่แมนที่โดน แต่พอมีเพจ ก็กลายเป็นว่าผู้เสียหายผุดมาเยอะมาก ถามว่าฉ้อโกงมั้ย เขาไม่ได้ฉ้อโกงสำหรับหนู แต่คนอื่นหนูไม่รู้นะ
เชฟปู : ผมขอทีละจุดก่อนเลย ที่ไม่ส่งของให้เขา โกงเขาหรือเปล่า
แมน : อันนั้นเป็นเพจ ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเลย อยู่ๆ น้องเดียร์ส่งมาให้ดู
เท่าที่ฟัง ทางนี้ทั้งหมดไม่ได้บอกว่าเชฟอ้อยโกง แค่บอกว่าไม่ทำตามสัญญา ไม่ทำตามข้อตกลง?
แมน : ผมขอสรุปพูดแทนทุกคน หัวใจหลักๆ ที่ทุกคนออกมา คือผิดข้อสัญญา แล้วก้อนที่หนึ่งเรื่องเครื่อง สองคุณขายลูกชิ้นให้เขากิโลละร้อย ประเด็นตรงนี้เชฟต้องขยี้ว่าทำไมขายให้เขากิโลละร้อย แล้วเขาจะเอากำไรจากตรงไหน การที่ว่าทำไมทุกคนถึงออกมาไม่รวมผมนะ ที่เขาต้องซื้อลูกชิ้นเชฟมาขาย ทำไมถึงขาดทุน โน่นนี่นั่น ถามหน่อย เชฟเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ ปัญหาที่เกิดทั้งหมด เชฟช่วยเขาแก้อะไรบ้าง เชฟเอาเงินเขาไปแล้ว 2.5 แสน เช่นเขาขายได้กิโลละ 20 บาท ค่าน้ำจิ้ม ค่าถุง ค่าลูกน้อง เขาขาดทุน เขากำลังเรียกร้องว่ากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบหรือเปล่า สัญญาไม่เป็นธรรมหรือเปล่า
เดียร์ : แล้วทุกแฟรนไชส์ ไม่มีใครได้เซ็นสัญญานะคะ จะใช้คำว่าข้อความนั่นคือสัญญาแล้ว
ไพศาล : สิ่งที่เกิด เกิดจากสัญญาไม่เป็นธรรม ต่อให้ไม่มีสัญญา ก็ถือว่ามีสัญญา ฟ้องร้องกันได้แล้ว การซื้อขายที่เกิน 2 หมื่น มีการวางเงินมัดจำ ส่งมอบของ ถือว่าเป็นสัญญา เรียกร้องสิทธิ์ได้ ที่ฟังมาทั้งหมดมันเข้าแพ่ง เข้าหลายตัวเลย หนึ่ง เขาไม่ปฏิบัติตามสัญญา อะไรที่เขาทำผิดเงื่อนไข ที่เขาผิดคือล่าช้าเรื่องเครื่อง ซึ่งทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ มีต้นทุนสูงขึ้น อย่างน้องคนนี้ที่คำนวณว่าขาดทุนไปแสนกว่าบาท คิดว่าบริหารผิดพลาด สรุปเป็นเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น วันนี้เขาอยากได้เครื่อง แต่ไม่เอามาให้เขาตามที่ตกลง กลายเป็นมาพูดเรื่องความลับทางการค้า การแข่งขันทางการค้า ขอพูดกับเชฟอ้อยนะ ประเด็นการขายสูตร กับแฟรนไชส์ จริงๆ เขาแยกกันนะในการทำธุรกิจ การที่เชฟอ้อยไปบอกคุณเล้ง สูตรอาหารไม่ใช่ลิขสิทธิ์ อยู่ในฐานะได้รับความคุ้มครองทางการค้าเท่านั้น ถ้าสูตรถูกคิดค้นใหม่ ดัดแปลง แล้วเชฟบอกขายขาดสูตรให้เขา เขาจะดัดแปลงอะไรก็ได้ แต่ถ้าเขามาขายชื่อเชฟเขาถึงผิด ก็ต้องไปยืนยันนำสืบกันให้ได้ ว่าไปขายตอนไหน นี่คือเรื่องคุณเล้ง ต้องไปนำสืบกัน ว่าขายตอนไหน ตอนผลิตขายในชื่อฉันมั้ย แต่สูตรอาหารไม่ใช่ลิขสิทธิ์ แค่ความลับทางการค้า ส่วนแมนเรื่องแข่งขันทางการค้า เขาซื้อลูกชิ้น ไม่ได้ซื้อก๋วยเตี๋ยว เราบอกคุณทำเหมือน ก็เป็นข้ออ้างของเขาที่ฟังขึ้นว่าคุณซื้อจะให้ซื้อกะละมังแบบไหน มันไม่มีกะละมังหกเหลี่ยม แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่การสื่อสารกัน อย่างฟลุ๊คที่เขาเสียหาย เขามองว่าเขาอยากได้เครื่อง แล้วมีการไปออกข่าวนั่นโน่นนี่ ว่าเขาไม่จ่ายค่าไฟ มันก็อยู่ที่การสื่อสาร ส่วนคุณเดียร์ถือว่าสัญญาไม่เป็นธรรม เพราะเขาจะไปขายอุบลฯ แต่เจ๊ไม่ได้ส่งให้เขาภายใน 3 เดือน เขาเสียหายนะ ส่วนแอนวางเงินมัดจำไป ขอคืนเพราะมีคนขายที่สมุทรปราการ แต่เชฟบ่ายเบี่ยง เชฟก็รับในข้อความว่าเดี๋ยวคืนให้ ต้องรอระบบบริษัท ตรงนี้สามารถฟ้องเรียกเงินคืนได้พร้อมดอกเบี้ย แต่ฉ้อโกงมั้ย เรื่องนี้การฉ้อโกงต้องมีเจตนาแรกคือเอาเงินไปแล้วหาย อันนี้ยังไม่เข้าฉ้อโกง อันนี้คือเรื่องผิดสัญญา ซึ่งเขาทำกับคนหลายคน ก็ถือว่าทุกคนเป็นผู้เสียหาย
ผมก็จะเตือนเชฟอ้อย การสื่อสารถ้าพูดด้วยเหตุผล น้ำใสไมตรีที่ดีต่อกัน มันจะไม่ได้เกิดอะไรแบบนี้ ถ้าเชฟโพสต์ว่าผิดนะ หมิ่นประมาท พรบ.คอมพ์ อ้างเพจนั้นเพจนี้กล่าวหา เพจกล่าวหาแต่คนเหล่านี้เสียหาย เพจกล่าวหาจริงหรือไม่ ก็ไปดูข้อเท็จจริงอีกว่าเขาได้รับมาแบบไหน ข้อเท็จจริงยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ประเด็นจะไปฟ้องเขาหมิ่นประมาท หรือพรบ.คอมพ์ ถ้าเขาติชมด้วยความเป็นธรรม เขาก็ไม่หมิ่นประมาท หรือผิดพรบ.คอมพ์ เพราะพรบ.คอมพ์ ข้อมูลเป็นเท็จ ทำให้ได้รับความเสียหาย แต่นี่เขาเตือนสังคม ฉะนั้นผมว่าทั้งหมดทั้งปวง ถ้าเข้าใจหลักแฟรนไชส์ คุณขายสูตรขาด ยกตัวอย่างเซเว่น ทุกสาขาได้กำไรไม่เท่ากัน แต่เขามีแพทเทิร์นเดียวกัน ผมมองว่าสิ่งที่เชฟทำกับกลุ่มแฟรนไชส์ มันไม่มาตรฐาน ความล่าช้าในการส่งอุปกรณ์ ความล่าช้าในการตกลง ความล่าช้าในการทำธุรกิจแข่งขัน ความลับทางการค้า มันเยอะแยะเต็มไปหมด
ถ้าขายสูตรมันจะคุมไม่ได้ การขายสูตร มองว่ามีแต่ผลเสีย?
ไพศาล : เขาไม่ทำกัน
พอเขาเอาสูตรคุณไปเปลี่ยนแล้วขายเอง คุณก็บอกว่าเอาสูตรไปปรับเปลี่ยน เกินครึ่งผมว่าเขาไม่ได้ผิดนะ เพราะเราขายเขาไปแล้ว?
ไพศาล : ไม่ได้โกง แต่แฟรนไชส์ไม่ได้มาตรฐาน เงื่อนไขที่คุณเสนอให้เขาแต่คุณปฏิบัติไม่ได้ เขาเสียหาย หลังจากนี้คุณไปปรับปรุง ทุกคนเป็นแฟนคลับคุณ เขาก็ชื่นชอบ พูดกันดีๆ แล้วก็เยียวยากัน แต่อย่าไปด่ากัน จริงๆ ถ้ามองวันนี้ไม่มีใครผิด อยู่ที่การบริหารแฟรนไชส์ไม่ได้มาตรฐาน
เชฟอ้อย : อันนี้เชฟก็ยอมรับ การทำธุรกิจไม่เก่ง ไม่มีประสบการณ์ ของเชฟมันชั่วข้ามคืนในการดัง เพจเอาไปลงก็โตเร็ว ข้ามคืน มีคนมาต่อแถวเป็นพันคน มีคนถามแฟรนไชส์เข้ามาเรื่อยๆ ว่าขายมั้ย เชฟก็คิดว่าขายดีกว่า ขายสูตรไปเลย เราไม่ได้เป็นนักธุรกิจขนาดนั้น ในใจสไตล์เชฟขายไปเลยแล้วจบไปเลย เรื่องเครื่องล่าช้าไม่ได้ดึงเชง แต่ทางจีนส่งให้เราล่าช้า เขาเลื่อนเรามาเรื่อย เราเลยเลื่อนทางนี้ไปเรื่อย
เดียร์ : แต่ก็ไม่เคยแจ้งว่าเครื่องจะไม่ได้
เชฟต้องมีของให้พร้อมเพื่อส่งเขาก่อน?
เชฟอ้อย : เมื่อก่อนตอนจ่ายมาครึ่งนึงเราก็สั่งเลย สั่งปุ๊บไม่มาเรียน ขอเงินคืน เคสก่อนคืนเงินให้ทุกเจ้า มีประวัติคืนเงินให้ทุกคน เพราะเขาไม่พร้อม ประสบอุบัติเหตุ มีลูกอ่อน สารพัด เราก็เลยให้จ่ายมาครึ่งนึง พอมาเรียนจ่ายอีกครึ่งนึงเราถึงจะสั่งเครื่องให้ สุดท้ายเชฟก็ถามไปทางนี้ เขาก็ส่งเอกสารมาให้เชฟ เชฟบอกเขาด้วยนะว่าเอาเบอร์เขาไปคุยมั้ย เชฟคุยมาแล้ว เดี๋ยวจะมองว่าปัดความรับผิดชอบ ไม่เชื่อว่าเชฟเอาเงินคุณไปทำอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่สั่งเครื่องให้ ถูกที่เขาบอกว่าไม่ใช่ที่หนูต้องไปถาม แต่ที่เราให้ถามเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราจ่ายไปแล้ว แต่มันผิดตรงการขนส่ง
คืนเงินเขามั้ย?
เชฟอ้อย : คืนค่ะ วันนี้ก็ได้เลยค่ะ วันนั้นที่บอกจะฟ้อง ไม่มีใครไม่โกรธ เพราะวันนั้นในเพจด่าแม่เชฟว่ากะ...เลย
แมน : ถ้าผมโดนด่าแบบนั้น ผมก็ด่ามากกว่าเชฟอีก แต่กรณีเชฟเจอปัญหาว่าเครื่องส่งมาไม่ได้ เชฟไม่มีการช่วยเยียวยาอะไรเลยเหรอ ไม่ต้องคืนเงินก็ได้ เชฟส่งลูกชิ้นให้เขาในต้นทุนที่ต่ำกว่านี้ได้มั้ย
เขฟอ้อย : เอาเล้งก่อนเลย ทำไมแนะนำให้ซื้อลูกชิ้นที่ยังไม่ได้ปั้น เพราะกิโลละ 80 บาท จริงๆ เขาขาย 90 บาท เชฟออกให้เขา 80 บาท ตลอดเวลาที่เขาขายพระรามสอง เชฟซัปพอร์ตเขานะเพราะเอ็นดูเขา แต่ต่อมาเชฟบอกว่าไม่ไหว ต้องขายกิโลละ 100 เพราะเชฟรับมาจากโรงงานพี่สาว กิโลละ 90 มีสลิปจ่ายชัดเจน
แมน : แต่สุดท้ายมันทางตัน แล้วเขาได้อะไร
เชฟอ้อย : เชฟก็รับมากิโลละ 90 น้ำจิ้มเชฟก็ทำเองทุกอย่าง เชฟขาดทุนมากกว่าพวกคุณอีก
แมน : แล้วทุกคนต้องยอมขาดทุนเหรอ
เชฟอ้อย : ทางไหนที่เชฟจะช่วยเขาได้มั้ย อย่างฟลุ๊คขายไปก่อน ติดหนี้โรงงานเยอะมาก เชฟไม่เคยให้โรงงานมาบี้เขานะ โรงงานเงียบหายไปเลย
เล้ง : แล้วสาเหตุมาจากใครครับ
เชฟอ้อย : เขาไม่มีทุนมาตั้งแต่ทีแรก
ฟลุ๊ค : ผมหยิบยืมทุกอย่าง
เชฟอ้อย : เชฟบอกเขาชัดเจนกิโลละร้อย
เล้ง : เรื่องการข้ามเขต มีหลักฐานมั้ยผมข้ามเขตไปขายปทุมฯ เดี๋ยวผมจะโทรหาพี่ปุ้ม เจ้าของสิทธิ์คนเก่า แล้วพี่ปุ้มไปให้สัมภาษณ์สำนักข่าวนึงว่าพี่ปุ้มไม่ไหว พี่ปุ้มคุยกับเล้งว่าเขาใช้สิทธิ์ของเขาให้มาช่วยขายในนามพี่ปุ้ม มันเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเชฟขายขาดแล้ว พี่ปุ้มบอกว่าไม่สามารถไปดูได้ อันนั้นเคลียร์เสร็จ มีพยานจากออแกไนซ์ด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวกับเชฟ เพราะเชฟขายขาดไปแล้ว ผมไปช่วยพี่ปุ้ม พอใกล้ถึงวัน เชฟโทรมาบอกพี่ปุ้มว่า เชฟขายแฟรนไชส์ให้พี่ปุ้มได้แล้ว คือน้องฟลุ๊ค พี่ปุ้มก็ยังไม่ได้เงินเลย แล้วฟลุ๊คจ่ายเงินให้เขาไปแล้วใช่มั้ย
ฟลุ๊ค : ครับ ผมจ่ายตั้งแต่วันที่ 3 โอนก้อนแรก 1.5 แสน เอารถไปจอดเพื่อได้เงินนั้นมา อีกวันก็หาหุ้นส่วนมาลง โอนไปอีก 1.5 แสนพออีกวันก็มีค่าสำรองลูกชิ้นสั่งล่วงหน้า 2 วัน ผมก็ต้องไปหาเพิ่มอีก เบ็ดเสร็จงานแรกก็เกือบ 6 แสน
เล้ง : ทางพี่ปุ้มก็ยังไม่ได้เงิน ทีนี้เชฟโทรหาผมว่าไปลงข้ามเขตผิดนะ ผมก็อ้าว ในเมื่อพี่ปุ้มอนุญาตแล้ว คุณเกี่ยวอะไร งั้นเอางี้ เล้งลงทุนไปเท่าไหร่ เดี๋ยวเชฟจะเอาลูกชิ้นเล้งให้ฟลุ๊คซื้อ เชฟมีเครื่องเก่าของแม่เขาที่ปั้นเอง แต่ฟลุครับลูกชิ้นจากเชฟ
ธงคุณฟลุ๊คต้องการอะไร?
ฟลุ๊ค : ต้องการได้ความแฟร์ ผมโดนกล่าวหา ผมอยากคืนแฟรนไชส์
เชฟอ้อย : ไม่ได้ แต่เชฟช่วยเขาประกาศขายแฟรนไชส์ต่อในเขตปทุมฯ เชฟคุยกับเขารู้เรื่องแล้ว
ของคุณล่ะ?
เล้ง : ผมต้องการยกเลิก ตอนนี้ดำเนินตามกฎหมายอยู่
คุณเดียร์?
เดียร์ : ต้องการคืนแฟรนไชส์เหมือนกัน
เชฟอ้อย : ไม่มีปัญหาเลย จังหวัดเขามีคนรอซื้ออยู่ ถ้าคุยกับเชฟตรงๆ นะ
เดียร์ : เชฟต้องรับโทรศัพท์หนูก่อนค่ะ
เขาติดต่อคุณไม่ได้ แต่เดี๋ยวให้ประสานผ่านทนายไพศาล?
ฟลุ๊ค : ผมอยากให้แก้ข่าว
เชฟอ้อย : เชฟได้รับข่าวสารจากออแกไนซ์ ต้องให้ออแกไนซ์ติดต่อมาเอง
ฟลุ๊ค : ผมประสานแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้