เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.66 ที่ร้านอาหารและสถานบริการชื่อดังของ จ.ขอนแก่น ตั้งอยู่ ถ.ประชาสำราญ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายเอ อายุ 30 ปี (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) เจ้าของร้านฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยของร้าน ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังจากมีหญิงสาว17 ปี เข้ามาใช้บริการในร้านจนกระทั่งมีการแจ้งความเอาผิดกับ นายสมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ท่ามกลางความสนในของสื่อมวนชลและผู้ที่ทราบข่าวอย่างมาก

นายเอ กล่าวว่า รู้จักกับนายสมรักษ์จริง ในฐานะเพื่อน และมีความสนิทสนมกัน แต่นายสมรักษ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางร้าน ไม่ได้มีหุ้นและไม่ได้เป็นผู้บริหารที่ร้านแต่อย่างใด ด้วยความที่สนิทสนมกันเป็นเพื่อนกันมานาน นายสมรักษ์ก็มักจะมาเที่ยวที่ร้านเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายสมรักษ์ เข้ามาในร้านช่วงประมาณตีหนึ่ง มีการดื่มสังสรรค์กันตามปกติของนักท่องเที่ยว ซึ่งก็ไม่เห็นว่ามีการลวนลามหญิงรายใด เพราะหากมีการลวนลามกันเกิดขึ้น ทางร้านก็มีการ์ดดูแลสามารถมาขอความช่วยเหลือได้ 

"ในวันดังกล่าวหญิงสาวรายดังกล่าว เข้ามาเที่ยวพร้อมเพื่อนรวม 4 คน เพื่อน 3 คน ถือบัตรประชาชนตัวจริงมาแสดงก่อนเข้าไปในร้าน ส่วนหญิงสาวที่เกิดปัญหานั้น ไม่มีบัตรประชาชนตัวจริง แต่มีภาพถ่ายบัตรในโทรศัพท์มือถือ จึงแสดงบัตรประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือ การ์ดเห็นว่า อายุเกิน 20 ปี จึงปล่อยให้เข้าไป และหญิงสาวก็เที่ยวตามปกติ มีดื่มกินที่โต๊ะของนายสมรักษ์ เหมือนเช่นกันแฟนคลับคนอื่นๆ ที่เห็นนานสมรักษ์ จะเข้ามาชนแก้ว มาดื่มและถ่ายรูป ก็ไม่ได้สนใจ"

นายเอ กล่าวต่ออีกว่า มีความวิตกกังวลเรื่องที่จะถูกสั่งปิด เพราะถูกแจ้งข้อหาทางกฎหมาย แต่ขอยืนยันว่า ลงทุนเปิดร้านมาหลายสิบล้านบาท คงไม่ปล่อยปะละเลยจนเกิดปัญหาเช่นนี้ และเชื่อว่า คนที่เป็นผู้ประกอบการ ทุกคนก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือเปิดสถานบริการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างสนุกสนานและสบายใจคงไม่มีใครเอาชื่อเสียงและธุรกิจมาพังทลายเพราะเรื่องผิดกฎหมาย และต่อไป จะต้องตรวจบัตรประชาชนตัวจริงของนักท่องเที่ยวทุกคนก่อนเข้าในร้านเท่านั้น แต่กับหญิงสาวรายนี้ ไม่ทราบเจตนาที่ทำแบบนี้ว่าต้องการอะไร