กยศ.และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมครอบครัวของผู้กู้ยืมที่ร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนแห่งหนึ่งว่าบุตรชายได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินจาก กยศ. แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติทั้งที่ได้ยื่นเรื่องกู้ไปนานหลายเดือนแล้ว ทำให้ต้องไปกู้เงินจากธนาคารจำนวน 300,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนนั้น คุณแม่แจ้งไม่เคยทราบรายละเอียด กองทุนยืนยันว่านักศึกษารายนี้ได้รับเงินกู้ยืมค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนแล้วตั้งแต่เดือนส.ค.66

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้  (11 ธ.ค.66) กองทุนได้มอบหมาย ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ รองผู้จัดการกองทุนฯ และดร.เจตสุภา ตันติพิษณุ ผู้อำนวยการฝ่ายกู้ยืม เร่งลงพื้นที่อีกครั้งเป็นการด่วน เพื่อเข้าเยี่ยมบ้านครอบครัวของผู้กู้ยืมที่ร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนแห่งหนึ่งว่าบุตรชายได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินจาก กยศ. แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติทั้งที่ได้ยื่นเรื่องกู้ไปนานหลายเดือนแล้ว ทำให้ต้องไปกู้เงินจากธนาคารจำนวน 300,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน โดยมีนายบุญชวัฒน์ ปัญช์ณ์ญาแดง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ใหญ่บ้านอำเภอกันทรารมย์ และผู้ใหญ่บ้านหนองอีกว้าง ร่วมเดินทางไปเข้าพบมารดา คุณตา และคุณยายของผู้กู้ยืมรายดังกล่าวด้วย เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินของผู้กู้ยืมที่ถูกต้องตามความเป็นจริง รวมถึงได้พูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกู้ยืม และการโอนเงินค่าเล่าเรียนรวมถึงค่าครองชีพที่ผู้กู้ยืมได้รับอนุมัติการกู้ยืมและได้รับโอนค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพในเทอมที่ 1 ของปีการศึกษา 2566 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยจากการพูดคุยกับมารดาของผู้กู้ยืมทราบว่าลูกชายไม่เคยบอกว่ากู้ได้หรือไม่ได้ และไม่ได้อยู่กับมารดา ลูกชายอาศัยอยู่หอพัก แวะมาหาเป็นบางครั้ง และให้แม่โอนให้ 200 - 300 บาทเป็นระยะๆ ดังนั้นกองทุนจึงขอยืนยันว่านักศึกษารายนี้ได้รับการอนุมัติเงินกู้ยืมค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 แม้ว่าจะมีข่าวที่คลาดเคลื่อนอย่างไร แต่กองทุนยังพร้อมที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลน ซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามที่กองทุนกำหนดจะได้รับสิทธิ์ในการกู้ยืมทุกราย

 

#กยศ #กู้เงินเรียน #ศูนย์ดำรงธรรม