สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงต่อรัฐสภาสหรัฐฯ หรือสภาคองเกรส ต่อกรณีที่ขายอาวุธให้แก่อิสราเอลมูลค่า 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยเกือบ 3,800 ล้านบาท) ประกอบด้วย กระสุนปืนใหญ่ขนาด 120 มม. ที่ใช้ในรถถัง จำนวนเกือบ 14,000 นัด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีก
โดยกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงด้วยว่า การขายอาวุธให้แก่อิสราเอลดังกล่าว โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบทบทวนเพื่อพิจารณาอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ หรือสภาคองเกรส เพราะใช้เวลานาน ในขณะที่อิสราเอลต้องการใช้อาวุธอย่างฉุกเฉินเร่งด่วน เนื่องถูกภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เช่น กลุ่มฮามาส และกลุ่มอิสลามิกจีฮัด ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ฉนวนกาซา
พร้อมกันนี้ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงย้ำว่า อาวุธที่จำหน่ายให้อิสราเอลนั้น เพื่อใช้ปกป้องภัยคุกคามด้านความมั่นคง และเสริมเขี้ยวเล็บป้องกันตนเอง โดยที่ไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านความสมดุลทางทหารในภูมิภาคแต่ประการใด
รายงานข่าวแจ้งว่า การขายอาวุธดังกล่าว ถือเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิสราเอลอีกครั้ง ภายหลังจากที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางตัวแทนของสหรัฐฯ ได้ใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต ต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่ต้องการอิสราเอลหยุดยิงแบบทันทีเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซา