วันที่ 10 ธ.ค.2566 เมื่อเวลา 10.10 น.ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ในฐานะประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กล่าวถึงการรวบรวมความเห็น ในการทำประชามติ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญว่า ความเห็นที่สำคัญของพรรคการเมือง เรารวบรวมมาหมดแล้ว ยังเหลือการรับฟังความคิดเห็นที่สำคัญคือสมาชิกรัฐสภา ตนได้เรียนกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้วว่า ในวันที่ 13-14 ธ.ค.จะรับฟังความเห็นของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา วันที่ 18-19 ธ.ค.จากนั้นในวันที่ 20 ธ.ค. จะนำความเห็นไปวิเคราะห์ และวันที่ 22 ธ.ค. จะมีการนัดคณะอนุกรรมการฯ เพื่อสรุปเป็นรายงาน ซึ่งวันที่ 25 ธ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีการนัดประชุมคณะคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อหาข้อสรุป แล้วหลังจากนั้น ในช่วงสิ้นปี จะนำเสนอสู่สภาฯ

นายนิกร กล่าวต่อว่า ยังมีเรื่องที่ค้างอยู่ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แม้ กกต. จะแสดงความเห็นต่อกรรมการแล้ว แต่อยากได้มติจากบอร์ด กกต. รวมถึงอยากได้ความเห็นอื่น เช่น สามารถดำเนินการทำประชามติร่วมกับการเลือกตั้งอื่นๆ ได้หรือไม่ ยอมรับว่าเรื่องการทำประชามติเป็นปัญหาอยู่จริง โดยในวันพรุ่งนี้ ตนได้เชิญคณะกรรมการ 10 กว่าคน ไปสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในการทำประชามติ เราจะไปถามว่า การทำประชามติโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเยอะ ทำอย่างไร เนื่องจากการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายปฏิรูป ซึ่งการแก้ลักษณะดังกล่าว จะต้องเสนอโดยครม.เท่านั้น

เมื่อถามว่าการทำประชามติจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าหรือไม่ นายนิกร กล่าวยืนยันว่า ไม่ช้า เพราะใช้รัฐสภาประชุมร่วม จะไม่ใช้ช่องทางกฎหมายธรรมดา ที่ส่งไปสภาฯ ก่อน แล้วค่อยส่งไปวุฒิสภา สำหรับการประชุม ในวันที่ 25-26 ธ.ค.นี้ จะออกมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่า เราจะสรุปอย่างไร ซึ่งตนก็ยังรอความเห็นของสมาชิกรัฐสภาอยู่ เพราะเขาไม่ได้ตอบในฐานะประชาชน แต่ตอบในฐานะผู้ลงคะแนนหากมีการเสนอกฎหมาย

 

#แก้รัฐธรรมนูญ #ประชามติ