วันที่ 9 ธ.ค.2566 เมื่อเวลา 15.20 น.ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า แนวทางในการฟื้นฟูพรรคอันดับแรกต้องสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรค โดยขอให้ทุกคน ทุกรุ่นมาช่วยกัน เพราะประชาธิปัตย์มีผู้สนับสนุนทุกรุ่น ฉะนั้นทุกกลุุ่มวันนี้หากเรามาร่วมมือกันทำก็สามารถเริ่มต้นได้และคณะทำงานต่างๆของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ต้องพร้อมทำงานทันที และต้องนี้การประเมินผลทุกๆ3 เดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการพูดคุยกันเมื่อคืนวันที่ 8 ธ.ค. และตนเพิ่งตัดสินใจรับที่จะเป็นหัวหน้าพรรคตอนเวลา 22.00 น.ในคืนดังกล่าว โดยการประเมินผลไม่ว่าจะเป้นเรื่องของเงื่อนไขข้อบังคับพรรค คุณสมบัติการเปิดกว่าง ยุทธศาสตร์ พรรค นโยบายพรรค รวมทั้งการสื่อสารกับมวลชนตามโซเชียลต่างๆ  

“ ฉะนั้น 3 เดือนแรกผมได้บอกแล้วว่าต้องมีอะไรที่เป็นรูปธรรมให้เห็นว่าประชาธิปัตย์มีการเปลี่ยนแปลงจริง ผมคิดว่าวันนี้คนประชาธิปัตย์ยังรักพรรค  ผมหวังอย่างยิ่งว่าเราจะมาช่วยกันสร้างพรรค”

นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคว่า ตนได้เรียนกับนายอภิสิทธิ์ ว่าไม่ออกได้หรือไม่ แต่ท่านบอกว่าเพื่อให้ท่านสบายใจและไม่ถูกวิจารณ์ว่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งตนก็ต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน แต่ท่านก็ยังบอกว่าท่านพร้อมจะกลับมา ซึ่งตนก็พร้อมและยินดีอยากให้ท่านกลับมา 

“ผมกับท่านอภิสิทธิ์ไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไรกันสักนิดเดียว ผมยังพูดเหมือนเดิมว่ามองตาก็รู้ใจ ผมทำงานกับท่านมานานจนกระทั่งเรารู้ใจซึ่งกันและกัน เพียงแต่ว่าการพูดกันในวันนี้เป็นการพูดเปิดใจ สิ่งที่ผมเจออะไร แล้วท่านคิดอะไร ก็มาแลกเปลี่ยนกันตรงนี้ ซึ่งการตัดสินใจลาออกจากพรรค ผมคิดว่าท่านตัดสินใจมาแล้ว เพียงแต่เราได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งท่านก็เข้าใจ ผมก็เข้าใจ และเชื่อว่าทั้งท่านและผมกรีดเลือดออกมาเป็นสีฟ้า ผมรักพรรค ท่านรักพรรค” 

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนมาวันนี้มาแค่เพื่อแก้วิกฤตของพรรค ให้พรรคเดินไปได้ และเป็นการประกาศชัดเจนว่าประชาธิปัตย์จะมีการปรับเปลี่ยน เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และคนนอกเข้ามาพรรคมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เป็นความตั้งใจของตน 

เมื่อถามว่าการพูดกับนายอภิสิทธิ์เกี่ยวกับการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ จนทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องลาออก นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยรายละเอียดตรงนั้น แต่ตนได้บอกกับที่ประชุมว่าขอให้เชื่อมั่นว่าตนอยู่พรรคมา22 ปี หลักการและอุดมการณ์ของรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยน และตนเป็นคนที่เคร่งครัด รักษาหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคมาตลอด นี่คือสิ่งที่ตนยืนยันได้ว่า หากใครบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่มีจิตวิญญาณแล้ว ตนขอให้มองประชาธิปัตย์ด้วยใจที่เป็นธรรม วันนี้ตนตอบคำถามตรงนี้ได้ แต่วันหน้าตนไม่สามารถเดาได้ ส่วนใหญ่เวลาตอบคำถามอนาคตจะเดากันถูกก็ถือว่าเก่ง แต่ถ้าไม่ถูกก็เฉยๆ ขอยืนยันว่าวันนี้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านและวันที่ 12 ธ.ค. มีการเปิดสมัยประชุมสภาฯ เราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่สมบูรณ์และเข้มแข็งที่สุด 

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าประชาธิปัตย์จะไม่ไปร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตอนนี้เราเป็นฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  

เมื่อถามอีกว่าแสดงว่าในอนาคตหากมีการทาบทามหรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองพรรคก็พร้อมจะไปร่วมใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เราต้องนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติและพรรค ไม่ใช่ตัวบุคคล ตนเรียนเลยว่าไม่มีการตัดสินใจง่ายๆ เด็ดขาด และสิ่งที่ตนจะบอกทุกท่านคือตนมาทำภาระกิจให้พรรคเพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ ฉะนั้นตนพูดไว้ตรงนี้ได้เลยว่าพรรคะต้องเดินไปข้างหน้าก่อน ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรไม่มีใครเดาได้  แต่หลักการและอุดมการณ์ของพรรคต้องอยู่ 

เมื่อถามว่าในวันประชุมใหญ่ก็มีการลาออกถึง2 คน ทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสาธิต ปิตุเตชะ แกนนำพรรคและอีก4 เสียงไม่ได้มีมติให้เป็นหัวหน้าพรรคจะมีแนวทางสร้างเอกภาพอย่างไร นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนจะพยายามให้เต็มที่ ตนจะคุยกับทุกฝ่ายว่าวันนี้จะขอให้ทุกท่านมาช่วยกัน  ส่วนผู้อาวุโสในพรรคทั้งนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ  บรรทัดฐาน ก็ต้องไปพูดคุยเพราะท่านเป็นปูชนียบุคคล เราต้องไปปรึกษาท่านอยู่แล้ว และตนเชื่อว่าไม่มีใครรักพรรคน้อยกว่าใคร 

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าพรรคจะยิ่งแตกและสมาชิกจะยิ่งไหลออก นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เมื่อตนตัดสินใจมาอยู่ตรงนี้ก็ไม่กลัว เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องมีเหตุผลและอยู่ที่ว่าเรารักพรรคจริงหรือไม่ 

เมื่อถามว่าที่ผ่านมานายเฉลิมชัย เคยบอกว่าจะเลิกเล่นการเมืองแล้วการกลับมาครั้งนี้เหมือนเป็นการกลับกลอกหรือไม่  นายเฉลิมชัย กล่าวว่าปัญหานี้ตนให้สัมภาษณ์ไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ถ้าท่านต้องคำตอบต้องถามสส.และกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่าทุกคนพร้อมตอบเพราะมันคือข้อเท็จจริง และใครจะคิดอย่างไรตนไม่รู้ แต่สำหรับตนคิดว่าได้ตอบชัดเจนแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ตนก็ไม่ได้ปัดเรื่องนี้