วันที่ 9  ธ.ค.2566 เวลา 08.40 น.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวตกรรมการเมืองกทม.ในฐานะผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ให้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ด้วยเสียงสั่นเครือ ตาแดง แต่เก็บอาการและควบคุมอารมรณ์ จนให้สัมภาษณ์จบโดยยืนยันว่า มาถึงจุดนี้ตนคิดว่าเกินกว่าสิ่งที่จะคิดว่าแพ้หรือชนะ แต่การสู้ให้ถึงที่สุดและทำให้ดีที่สุด เพื่อให้จิดวิญญาณของพรรคประชาธิปัตย์กลับมาให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็พร้อมยอมรับและไม่ค้างคาใจเรา รวมถึงไม่ค้างคาใจสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เฝ้ารอ ที่อยากจะเห็นอุดมการณ์ของพรรคที่ภาคภูมิใจมาตลอด77ปีและเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชาศรัทธาในพรรคจะยังคงฟื้นกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง

น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ตนไม่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรค ไม่ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค หรือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคและรักษาหัวหน้าพรรค ส่วนที่มีข่าวว่านายชวนจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ นั้นตนไม่ทราบ แต่คิดว่าผู้ใหญ่ทุกคนล้วนมีเหตุผล ซึ่งตนไม่อาจไปก้าวล่วง และการที่ตนลงสมัครหัวหน้าพรรคครั้งนี้ก็เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองไม่เกี่ยวกับว่าไปคุยกับผู้ใหญ่หรือสส.คนไหนมา

เมื่อถามว่าหากไม่ได้รับชัยชนะจะร่วมทีมกับผู้ชนะหรือไม่หรือต้องดูคณะทำงานก่อน น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆจนกว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนของพรรคจริงๆว่าวิถีแห่งอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงเดิมไม่เปลี่ยน

เมื่อถามว่าจะชูใครเป็นเลขาธิการพรรค น.ส.วทันยา กล่าวว่า ยืนยันเหมือนเดิมยังไม่มีในใจ เพราะได้ตัดสินใจตั้งแต่วันแรกแล้วว่า เพราะศรัทธาในวิถีแห่งอุดมการณ์เพราะประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในสองทางแพร่ง ตนเพียงแค่อยากขอลงมือทำในสิ่งที่เชื่อและฝัน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนก็ฝันไม่ต่างจากตน คืออยากเห็นการเมืองที่ซื่อตรงและจริงใจ จึงไม่ได้เกิดจากเสียงที่ตนรวบรวมได้

"ดิฉันไม่มั่นใจว่าจะได้รับการยกเว้นเสียง 3 ใน 4 ที่เป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปีแต่ดิฉันก็เดินหน้าสู้ไปถึงจุดนั้นแล้ว และไม่ได้เป็นตัวแทนของนายอภิสิทธิ์ หรือเป็นตัวแทนของใคร" น.ส.วทันยา กล่าว