ผลการนับคะแนนเพื่อตัดสินรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ของประเทศไทย รถยนต์ Honda CR-V e:HEV และ MG 4 Electric ต่างได้คะแนนสูงสุด ทำให้ได้ครองรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 และ THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ที่ศูนย์ประชุม เดอะฮอลล์ ที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2566 สรยท. ดำเนินการคัดเลือกรถยนต์ และรถ EV โฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ เปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึง 30 กันยายน 2566 โดยมีกติกาการตัดสิน เป็นมาตรฐานเดียวกับการคัดเลือก Car of The Year ยุโรป และรถยนต์ยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น
นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) ในฐานะประธานจัดงานมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023เปิดเผยว่า สรยท.ได้ดำเนินการจัดงานมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 เป็นการตัดสินให้รถยนต์รุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์เพียง 1 รุ่น ได้รางวัลอันทรงเกียรตินี้ รอบแรกเป็นการคัดเลือกรถที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ให้สมาชิกสมาคมฯ เป็นผู้ลงคะแนนเลือกไว้ครึ่งหนึ่งผ่านการโหวตนำเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย โดยในรอบสุดท้ายนี้ก่อนที่จะมีการลงคะแนน ได้จัดให้มีการทดสอบรถยนต์ภาคสนามกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีประสบการณ์ในการทำข่าวสายยานยนต์ และทดสอบรถยนต์ อันเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ที่สุดแล้วรถยนต์ HONDA CR-V e:HEV และ MG 4 Electric เป็นรถยนต์ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบสุดท้าย จึงได้รับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 และ THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ไปตามลำดับ
รางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2023 เป็นปีแรกของการมอบรางวัล และเนื่องจากรถ EV ที่ทำตลาดในไทยปัจจุบัน เป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศแบบ CBU คณะกรรมการตัดสินจึงนำเงื่อนไขให้เลือกเฉพาะ รถจากผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้ากับรัฐบาล หรือได้ขอส่งเสริมการลงทุนเพื่อตั้งโรงงานผลิต ประกอบรถในประเทศไทย
โดยกรรมการผู้ลงคะแนนแต่ละท่าน ใช้หลักเกณฑ์ในการให้คะแนนตามหัวข้อต่างๆ ที่สมาคมฯ กำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตามกฎกติกาสากล เช่น รูปทรงการออกแบบ ประโยชน์ใช้สอย ระบบความปลอดภัย สมรรถนะเครื่องยนต์ เทคโนโลยี และระบบช่วงล่าง นอกจากนั้นต้องพิจารณาถึงพัฒนาการของรถยนต์รุ่นนั้น ความมั่นคงในเรื่องแบรนด์ และบริการหลังการขายประกอบการพิจารณา
ในส่วนสถานที่ทดสอบภาคสนามในปีนี้ สรยท.ได้รับความอนุเคราะห์จากสถาบันยานยนต์ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ใช้พื้นที่ของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC ตั้งอยู่ที่ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 11 คัน เนื่องจากศูนย์แห่งนี้ในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยและภูมิภาคใช้ในการทดสอบยานยนต์รวมถึงอุปกรณ์ และกำหนดมาตรฐานสำหรับยานยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ ของตัวรถ ที่เขามาทำตลาดในประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
รถเข้ารอบสุดท้ายที่คณะกรรมการได้ทำการทดสอบทั้งหมด 11 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ 6 คัน คือ BMW X1, GWM TANK 300, HONDA CR-V e:HEV, Mercedes-Benz GLC 350e, MITSUBISHI TRITON, TOYOTA INNOVA ZENIX และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 5 คัน คือ BYD Dolphin, BYD Seal,MG 4 Electric, MG Maxus 9, TOYOTA bZ4X
ปีนี้ถือเป็นความริเริ่มสำหรับรถ EV เนื่องจากเป็นทิศทางการเปลี่ยนผ่านยานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่รถพลังงานไฟฟ้า และปัจจุบันไทยมีรถ EV เข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้นและต่อเนื่อง การสร้างมาตรฐานให้รถในกลุ่มนี้ เป็นหน้าที่หนึ่งขององค์กรสื่อยานยนต์ด้วยเช่นกัน และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่มีการให้รางวัลนี้ด้วย
ส่วนทางด้าน ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 กล่าวเสริมอีกด้วยว่า “รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เป็นรางวัลอันทรงเกียรติและเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศไทยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ยานยนต์ที่มีสมรรถนะด้าน “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” ตรงความต้องการของผู้บริโภคในประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังจะเป็นส่วนสนับสนุนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตไปข้างหน้า ตามทิศทางเทคโนโลยียานยนต์ของโลกที่มุ่งพัฒนาไปสู่การขับขี่สู่ความยั่งยืน (Sustainable Mobility) และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ที่วางไว้อีกด้วย
กระทรวงอุตสาหกรรมยินดีที่ได้องค์กรสื่ออย่าง สรยท.เป็นพันธมิตรร่วมในการสร้าง และส่งเสริมภาคการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย และแม้ในปัจจุบันรัฐบาลจะมีโครงการสนับสนุนการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าต่อเนื่อง แต่กระทรวงฯ ยืนยันว่าการผลิตรถยนต์สันดาปภายในยังมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยเช่นกัน
ผมขอชื่นชมองค์กรสื่อ โดยเฉพาะสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ที่สร้างสรรค์รางวัลอันทรงคุณค่านี้ และเป็นส่วนสนับสนุนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและมีคุณภาพ