เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. 2566 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทย “Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (the Intangible Cultural Heritage of Humanity) จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนางสาวซูฮย็อน คิม (Ms. Soohyun Kim) ผู้อำนวยการสำนักงาน UNESCO กรุงเทพมหานคร พร้อมคณะทูตานุทูต และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานฉลองครั้งนี้ด้วย

 

โดยนายกฯ ได้นมัสการพระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ทั้งนี้พระพรหมวชิรมุนี ได้มอบรูปที่ระลึกให้กับนายกฯ จากนั้นชมการแสดงมหาสงกรานต์จตุรทิศแผ่นดินไทยของสถาบัณบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยมีแอนโทเนีย โพซิ่ว รองอันดับหนึ่ง มิสยูนิเวิร์ส 2023 ร่วมแสดงเป็นนางสงกรานต์ประจำปี คือนางมโหธรเทวี ก่อนชมวิดีทัศน์การขึ้นทะเบียนงานฉลองสงกรานต์ เป็นมรดกภูมิปัญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ 

 

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนให้สงกรานต์ของไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ที่สาธารณรัฐบอตสวานา เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. โดยปัจจุบันมรดกที่จับต้องไม่ได้ของไทยได้ขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกมาแล้ว 3 รายการคือ โขน นวดไทย และโนรา และล่าสุดสงกรานต์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่สร้างความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติกับประเทศไทย 

 

นายกฯ กล่าวว่า ในวาระแห่งการฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์น ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย ขอใช้โอกาสนี้ประกาศเจตนารมณ์ 3 ข้อ เพื่อการรักษาและสืบทอดประเพณีสงกรานต์ 1. ประเทศไทยจะร่วมกันธำรงรักษา ถ่ายทอด และสร้างสรรค์ ประเพณีสงกรานต์ ให้มีการปฏิบัติและสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยมาตรการส่งเสริมและรักษาที่เหมาะสม รวมทั้งให้ความเคารพและยอมรับต่อวิถีปฏิบัติของทุกชุมชน

 

2.ประเทศไทยจะส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ถึงคุณค่า และความสำคัญของประเพณีสงกรานต์ ในฐานะตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ และบ่อเกิดของการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

3. ประเทศไทยจะเปิดโอกาสอย่างทั่วถึงแก่คนทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกภาษา และทุกศาสนา ให้สามารถเข้าถึงประเพณีสงกรานต์ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยเคารพต่อธรรมเนียมปฏิบัติของชุมชน และจะร่วมกับชุมชนนานาชาติในการรักษาและสืบทอดประเพณีสงกรานต์ในทุกที่ ด้วยจิตใจของความร่วมมือ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลและประชาชนไทยจะร่วมกันดำเนินการในทุกวิถีทางอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เจตนารมณ์ทั้ง 3 ข้อ บรรลุผลสัมฤทธิ์ พร้อมจะสนับสนุนให้สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นเทศกาลระดับโลกที่นำพาผู้คนจากทุกมุมโลกเข้ามาในประเทศ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศต่อไป รัฐบาลได้เดินหน้าขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมจัดงานเทศกาลสงกรานต์ 2567 อย่างยิ่งใหญ่ตลอดเดือนเม.ย.2567 ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากงานสงกรานต์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่นดนตรี มหกรรม ร้านอาหาร ศิลปะ รวมถึงมหกรรมด้านวัฒนธรรม ซึ่งจะทำให้สงกรานต์ไม่ได้มีแค่การสาดน้ำ ทั้งนี้รัฐบาลโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดงานฉลองขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์การประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทยของ UNESCO ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง 

 

จากนั้นนายกฯ สรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม และรดน้ำขอพรนายสุรเดช วันทยา อาจารย์โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ซึ่งเป็นครูคนแรกที่สอนนายกฯ ตอน 5 ขวบ 

 

ก่อนเวลา 19.30 น. นายเศรษฐา จะเป็นประธานในงาน Vijit Chao Phraya 2023 และล่องเรือชมบรรยากาศ ณ ท่าเรือ ICONSIAM ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมงานด้วย ทั้งนี้นายกฯและคณะขึ้นเรือ THE OPULENCE ออกจากท่าเรือไอคอนสยาม เพื่อไปรับชมงาน VIJIT CHAO PHRAYA ที่จุด RIVER CITY BANGKOK ,ป้อมวิไชยประสิทธิ์ (กองทัพเรือ) , วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร , สะพานพระราม 8 และบริเวณสวนสันติชัยปราการ , สะพานปฐมบรมราชนุสรณ์ (สะพานพระพุทธยอดฟ้า) และICONSIAM