จากกรณีปรากฎภาพชาย 1 คน แต่งกายเป็นพระภิกษุ นอนบนเก้าอี้ไม้ยาวโดย หนุนตักหญิงสาวพร้อมจับมือในสถานที่ภายในวัดหรือใกล้วัด ภาพมีจำนวน 2 ใบ ถูกเผยแพร่ทางเพจ Survive-สายไหมต้องรอด เในวันนี้ (7 ธ.ค.66) นั้น
ล่าสุด นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงราย ได้ตรวจสอบจนพบที่มาว่า เป็นภาพที่เกิดขึ้นมานานมากกว่า 4 ปี ปัจจุบันบุคคลดังกล่าวในภาพ อาศัยอยู่ที่บริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว และมีอาการป่วยเดินไปมาไม่ได้ ทางพระครูขันติพลาธร รองเจ้าคณะ จ.เชียงราย และเจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น ได้ออกมาตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว
โดยพระครูขันติพลาธร กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นพระภิกษุจริง โดยอยู่ในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งตั้งอยู่พื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานมากกว่า 4 ปีแล้ว และครั้งนั้นได้มีการลงโทษทางวินัยไปเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งปัจจุบันทราบว่า ได้มีพระภิกษุรูปใหม่เข้าไปเป็นเจ้าอาวาสในสำนักสงฆ์ดังกล่าวแทนแล้ว
พระครูขันติพลาธร กล่าวด้วยว่า ในทางพระวินัยสงฆ์แล้ว การที่พระภิกษุอยู่ตามลำพังกับสตรีในที่ลับหรือแม้แต่ในที่แจ้งก็ไม่ควร กระนั้นถือเป็นความผิดวินัยที่ไม่ร้ายแรง หากปลงอาบัติได้ก็ถือว่าจบสิ้นกันไป โดยหากจะเปรียบเทียบกับคดีทางโลกก็คือความผิดลหุโทษ กระนั้นหากว่าได้มีการเสพเมถุนก็จะถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นอาบัติปาราชิก และมีระดับที่เพียงถูกเนื้อต้องตัวก็ถือเป็นอาบัติสังฆาทิเสสตามลำดับ
กระนั้นเรื่องลักษณะนี้ก็ไม่ควรสำหรับพระภิกษุที่จะทำอยู่แล้ว ดังนั้นพระสงฆ์ที่มาจากฆารวาสและเข้ามาบวชควรศึกษาพระธรรมวินัยเหล่านี้ให้ดี หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรไปยังสถานที่ ที่ไม่สมควร นอกจากนี้ผู้ที่ไปพบเห็นภาพและจะนำออกมาเผยแพร่ภาพควรตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าเป็นเรื่องใหม่หรือเก่าและมีการดำเนินการแล้วหรือไม่อย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายได้