เปิดใจเคลียร์จบลงได้ด้วยดี จากกรณีเจ้าของร้านวิทยุสื่อสารสุดอัดอั้น ร้องสื่อเจอฝูงแพะเพื่อนบ้านบุกอาละวาดสร้างความเสียหายทุกข์ทนนานกว่า 4 ปี วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยคุยก็ไร้วี่แววการแก้ปัญหา หมดหนทางจึงวอนขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ
เกี่ยวกับความคืบหน้า ล่าสุดเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. 66 เจ้าของแพะผู้ถูกกล่าวหา คือ นายจงรักษ์ อายุ 55 ปี หรือ บังฟาน ออกมาโต้ผ่านสื่อ กรณีถูกกล่าวหาว่าได้ปล่อยแพะหากิน จนไปสร้างความเสียหายในพื้นที่ของ นายอรรถพล อายุ 34 ปี เจ้าของร้านขายวิทยุสื่อสาร (ผู้เสียหาย) เป็นเจ้าของที่ผืนดังกล่าว
นายจงรักษ์ หรือบังฟาน เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องของแพะและวัวที่ไปรบกวนนายอรรถพล ตนขออธิบายว่า เมื่อ 3 ปีก่อน ตนเลี้ยงแต่วัวไว้ยังไม่ได้เลี้ยงแพะ ซึ่งวัวก็ได้เข้าไปกัดกินต้นกล้ามะม่วงของนายอรรถพลจริง ในพื้นที่ปลูกไว้แค่ 2 งาน ไม่ใช่ 1 ไร่ครึ่ง ตามที่นายอรรถพล กล่าวอ้าง และก็ได้เคลียร์กันจบไปแล้ว โดยจ่ายเงินค่าเสียหายไป 7,000 บาท และตนก็ได้ขายวัวทิ้งไปเพื่อตัดปัญหา
ภายหลังมาประมาณ ปี 65 ตนได้ซื้อแพะมาเลี้ยง 5 ตัว ตัวเมีย 4 ตัว ตัวผู้ 1 ตัว จนออกลูกมา 13 ตัวและเลี้ยงไก่ไว้หลายสิบตัว ก็ถูกสุนัขของนายอรรถพล มากัดตายไปเช่นกัน ตนก็ไม่เอาเรื่องเอาความเพราะไม่อยากมีเรื่อง
จนต่อมาก็มีปัญหาเกิดขึ้นอีก แพะของตนหลุดออกไปจากเล้าเข้าไปกัดกินต้นไม้ใบหญ้า กินอาหารสุนัข ทำข้าวของเสียหาย และขี้เรี่ยราดในพื้นที่ ตนก็เคยคุยและพยายามขอโทษไปแล้ว แต่หากจะเอาเงินค่าเสียหายตนก็ไม่มีเงิน จ่ายให้ได้แต่ต้องรอ จนนายอรรถพล ไปแจ้งความสภ.มาบตาพุด และร้องเรียนเทศบาลมาบตาพุด ทั้ง 2 หน่วยงานก็ลงมาดูทันทีก็แก้ปัญหาโดยให้ตนแก้ไขรั้วให้ดีขึ้น แต่ตนก็ตัดปัญหาทยอยขายแพะออกไปจนหมด แต่ว่าเหลืออยู่ 4 ตัว ซึ่งเจ้าของฝากเลี้ยงไว้ก่อน แต่ตนก็บอกให้มาดูแลเอง จนล่าสุดที่เป็นข่าวก็ได้หลุดออกจากเล้า เข้าไปหากินในที่ของนายอรรถอีก เพราะเล้ามันพังเสียหาย
ตนอยากบอกว่า 4 ตัวนั้นไม่ใช่แพะตนแล้ว แต่ตนก็ต้องขอโทษนายอรรถพลแทนเจ้าของแพะด้วย ภายหลังจากเป็นข่าวตนก็ได้ให้เจ้าของมาเอาแพะไปแล้วหลังจากนี้จะไม่มีปัญหาแล้ว
ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า ตนก็รู้สึกยินดีที่บังฟาน เข้าใจ และจัดการไม่ให้แพะมาสร้างความเดือดร้อนตนอีก ตนก็ไม่ติดใจอะไรแล้ว ส่วนเรื่องสุนัขของตนเข้าไปกัดแพะบังฟาน อันนี้ตนไม่รู้เรื่องเลย เพราะบังฟานไม่เคยมาบอก ขอให้บังมาบอกได้เลย หลังจากนี้ตนจะได้อยู่อย่างไม่อึดอัด อีกต่อไป ขอขอบคุณสื่อที่เข้ามาเป็นตัวกลางสื่อสารเรื่องนี้ให้