รัฐบาลเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เหตุรถทัวร์ประสบอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ จำนวนมาก  "นายกฯ"สั่งคมนาคมดูแล ยันให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนน ขณะที่"กรมขนส่ง" เผยจีพีเอสความเร็วรถเกิดเหตุไม่เกินกฎหมายกำหนด

     
จากกรณีอุบัติเหตุรถโดยสาร สายกรุงเทพฯ-นาทวี ของบริษัท ศรีสยามเดินรถ จำกัด หมายเลขทะเบียน 14-3301 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 9914-1 ม.4 ข ซึ่งเป็นรถร่วมบริการของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง บนทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 331-332 หมู่ที่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ทำให้เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 32 ราย เสียชีวิต 14 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.16 น. วันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา
     
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.66 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีเหตุรถทัวร์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-นาทวี ประสบอุบัติเหตุเสียหลักตกไหล่ทางชนต้นไม้ริมถนนเพชรเกษม หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร หมู่ที่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 14 ราย และที่โรงพยาบาล 2 ราย  รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะช่วงเทศกาลหรือไม่ใช่ช่วงเทศกาล มีการรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น
     
ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมยังมีมาตรการคุมเข้มอุบัติเหตุช่วงเทศกาลเพื่อ ลดการเสียชีวิต ในส่วนของรถโดยสาร 2 ชั้น ได้เปิดจดทะเบียนแล้วที่ต้องมีความสูงไม่เกิน 4 เมตร จากเดิมไม่เกิน 4.3 เมตร แต่รถทัวร์ 2 ชั้น ในระบบจดทะเบียนวิ่งให้บริการได้เหมือนเดิม พร้อมบังคับติดตั้งระบบจีพีเอส เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับรถ ปรับปรุงสภาพรถ ซ่อมตัวถังรถ ต้องปรับระดับความสูงของรถเหลือไม่เกิน 4 เมตร ซึ่งจะมีอายุการใช้งานไปอีกประมาณ 4-5 ปี และจะปิดตำนานรถ 2 ชั้นในเมืองไทย
     
"นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอำนวยความสะดวกกับผู้ประสบเหตุและญาติ รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างมาก มีการรณรงค์ในทุกเทศกาล เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น" 
    
 นางรัดเล้า กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลขอชื่นชมประชาชนในที่เกิดเหตุที่ให้ความช่วยเหลือ ด้วยการเปิดห้องพักให้ญาติผู้ประสบเหตุที่มาติดต่อรับศพ หรือมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บได้พักครอบครัวละ 1 ห้องฟรี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้าช่วยเหลือ
    
 อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบอุบัติเหตุเบื้องต้น และให้การช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ขณะที่กรมขนส่งได้ตรวจสอบระบบจีพีเอสความเร็วรถก่อนเกิดอุบัติเหตุใช้ความเร็วอยู่ที่ 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งไม่เกินกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนดคือ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนภาษีรถสิ้นอายุวันที่ 30 ก.ย. 67 โดยมีนายสมศักดิ์ อายุ 36 ปี เป็นพนักงานขับรถ