ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีที่ สื่อเยอรมัน ทำสกู๊ปข่าว ตีแผ่การขายบริการเด็กในไทยโดยมีผู้ต้องหาชาวเยอรมันโดนจับแต่ติดสินบน 1 ล้านบาทสามารถหนีกลับประเทศได้นั้น ทางนางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เมืองพัทยา เปิดเผยถึงควาบคืบหน้าในคดีดังกล่าว เบื้องต้นชาวเยอรมันดังกล่าว ได้ถูกดำเนินคดีอยู่ที่ประเทศเยอรมันแล้ว  ส่วนสถานบริการที่ปรากฎในข่างนั้นตอนนี้ถูกสั่งปิดห้าปี ไม่มีการเปิดบริการตั้งแต่ปีที่ผ่านมา 

ในส่วนของสถานบริการบาร์เบียร์ทางสมาคมฯ ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ในเรื่องเด็กต่ำกว่าอายุทำงานต้องไม่มีเด็ดขาดมีการประชาสัมพันธ์กันมาโดยตลอด ทุกเดือนอย่างน้อยเดือนละสองครั้ง เพื่อช่วยเตือนผู้ประกอบการเกี่ยวกับเรื่องที่ผิดกฎหมายได้เข้าใจมากขึ้น

สำหรับเรื่องค้าบริการที่ได้รับการร้องเรียนมา เกี่ยวกับเด็กที่เป็นชาวกัมพูชาเป็นพม่า เป็นเวียดนามมาเดินขายดอกไม้คือคือพ่อแม่เอามาแล้วเอามาให้ขายขนมดอกไม้บ้างอันนี้ที่เราเห็นอยู่แล้วก็เคยแจ้งทางผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปก็ได้คำตอบมาว่า เมื่อ จับไปแล้วไปปล่อยชายแดนซึ่งจะต้องมีหน่วยงานหนึ่งที่เข้ามารับผิดชอบตรงนี้ในส่วนของต่างด้าวพฤติกรรมของต่างด้าวต่างด้าวที่เข้ามาขายบริการในเมืองไทย   รวมถึงกลุ่มที่ยืนตามต้นมะพร้าวหน้าชายหาด

ด้านนายศราวุธ อายุ 34 ปี เจ้าของบาร์เบียร์ในตลาดทีทาว์น ซึ่งอยู่ใกล้สถานการบริการต้นเหตุ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะไม่มีเด็กมาค้าประเวณีเด็ดขาด ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็มีมากวดขันในเรื่องบัตร เด็ก เป็นประจำ ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่มาจับกุมที่เกิดเหตุก็ไม่เคยเห็นเด็กกลุ่มนั้นเลย  และตั้งแต่เกิดเรื่องทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการกวดขันขอความร่วมมือและมีการแจ้งข่าวสารตลอดเวลา