เมื่อเวลา 00.32 น.วันที่ 5 ธ.ค.66 นายอนิรุทธ์ ลือแทน ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ตำบลรมณีย์ได้รับแจ้งจากราษฎรในพื้นที่ว่า เกิดเหตุยิงกันตายกันในหมู่บ้าน จึงได้ประสานไปยังนายกฤษฎา สิทธิชัย กำนันตำบลรมณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลรมณีย์ แล้วจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.สิริชัย ธำรงเตชะวรกุล พงส.เวร สภ.กะปง หน่วยกู้ภัยสว่างเมฆา ที่เกิดเหตุที่บ้านพักในสวนปาล์มน้ำมัน ม.4 บ้านบางกลาง ต.รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา ภายในบ้านพบศพนายนายสมบัติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อยู่ ม.4 ต.รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพศพนอนคว่ำหน้าทับเสื่อ สวมกางเกงวอร์ม ไม่ใส่เสื้อ เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุ มีร่องรอยถูกยิงอยู่ปืนลูกซองตามลำตัวหลายนัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกะปงชัยพัฒน์ มาชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บพยานวัตถุ  และติดต่อกู้ภัยสว่างเมฆามารับศพไปส่งโรงพยาบาล

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากนายพงศ์ศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าเป็นคนยิงและขอมอบตัวมอบตัว โดยได้นั่งรอมอบตัวที่ขนำห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยสารภาพว่าได้ใช้ปืนลูกซองยาว 5 นัด ไม่มีทะเบียน ยิงนายสมบัติ ถึงแก่ความตาย อ้างว่าเดิมได้เป็นเพื่อนสนิทที่ร่วมกันทำงานรับจ้างด้วยกัน แต่มามีความขัดแย้งกับผู้ตายในเรื่องชู้สาว โดยผู้ตายหึงหวงกล่าวหาว่า เมียเขาที่หนีไปแล้วเป็นชู้กับตนเอง และในช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคมก็ได้มีปากเสียงกัน ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นชู้กับเมียผู้ตาย และรู้สึกโกรธแค้นจากการพูดจาดูหมิ่น จึงบุกเข้าไปยิงในบ้านที่เกิดเหตุ โดยเรียกผู้ตายออกมาเปิดประตูแล้วยิงเข้าไปก่อน2 นัด ผู้ตายหนีไปทางหลังบ้านจึงตามเข้าไปจ่อยิงอีก 3 นัด  

ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน กระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทำแผนประกอบคำสารภาพ สำหรับผู้ตายนั้นเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานรับจ้างอยู่ในพื้นที่มานานแล้วและมาสนิทและย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่กับมือปืนที่ก่อเหตุ