จากกรณีที่สุนัขพันธุ์พิทบูล ตัวหนึ่งไปได้กัดวัวของชาวบ้าน เจ้าของได้นำไปปล่อยทิ้งกลางป่า ทำกลายเป็นสุนัขไร้บ้านไร้เจ้าของมาทันที่  แต่ด้วยความเป็นสุนัขที่แสนฉลาด จึงได้ไปอาศัยในวัดป่าและขอพักนอนกับชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ไผ่  อ.รัตนบุรี  จ.สุรินทร์  จนเป็นเหตุให้พระในวัดป่าได้ออกมาโพสต์หาเจ้าของ ซึ่งเป็นเรื่องราวใหญ่โตในกระแสสังคมในเวลาต่อมา

จากเรื่องดังกล่าวเมื่อเช้าวันที่  5  ธันวาคม  2566  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 82  ม.6  บ้านยางน้อย  ต.ไผ่  อ.รัตนบุรี  จ.สุรินทร์  ซึ่งเป็นบ้านของคุณตาบุญมี และยายจิตทา  เจริญพร  ผู้เป็นเจ้าของสุนัข ได้พบกับสุนัขพันธุ์พิบูลเพศเมียสีน้ำตาล ถูกเจ้าของใช้เชือกคล้องล่ามคอไว้ แต่ลักษณะอาการก็ไม่ได้แสดงการดุร้ายแต่อย่างใด  นายบุญมีกล่าวว่า ที่บ้านตนเลี้ยงวัวไว้หลายตัว และเลี้ยงสุนัขไว้  3  ตัว มีเจ้าข้าวเหนียว ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์พิทบูล เพศเมียที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ๆ ส่วนอีกตัวชื่อ เจ้าตูบเป็นลูกของเจ้าข้าวเหนียว  และอีกตัวสีขาวชื่อกูเกิ้ล  สุนัขเลี้ยงของตนทั้งหมดมีนิสัยดีร่าเริง ไม่ทำอันตรายหรือกัดคนง่าย ๆ ตนเลี้ยงสุนัขไว้เพื่อช่วยเฝ้าบ้านและเป็นเพื่อนพาออกไปเลี้ยงวัวกลางทุ่งเป็นประจำ

​คุณตาบุญมีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกระแสข่าวทีออกมาทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกเครียดมา ตนอยากวิงวอนสื่อมวลชน ได้ช่วยแก้ข่าวให้ด้วยในกรณีที่ว่า สุนัขของตนได้กัดวัวตายถึง  2  ตัว นั้นไม่เป็นเรื่องจริง ขณะที่คุณยายจิตทา  เจริญพร  ภรรยาคุณตาบุญมีกล่าวว่า สาเหตุที่ตนได้นำสุนัขไปทิ้งป่ามา ด้วยความโมโหที่สุนัขพิบูลไปกัดวัวชาวบ้านทำให้ต้องเสียเงินและเสียวัว ไม่คิดว่าจะมากลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้  ทั้งหมดก็เป็นความผิดของตนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วย  ยายจิตทา กล่าว ส่วนข่าวการกัดวัวตายถึง 2 ตัวไม่เป็นความจริงไม่รู้ว่าใครเอาเรื่องราวไปพูดสื่อสารกัน หลายคนที่ทราบข่าวก็มาขอสุนัขตัวนี้เพื่อจะนำไปฆ่าทิ้ง แต่ตนก็ไม่ยอมให้ ตอนนี้ทั้งครอบครัวรู้สึกเครียดจากกระแสสังคมในหมู่บ้านและสื่อต่าง ๆ แม้แต่เจ้าข้าวเหนียว สุนัขตัวนี้ก็ดูเหงา เศร้าไม่ร่าเริงเหมือนก่อน อยากวอนสังคมให้เห็นใจอย่าปรักปรำกันมากเลย  คุณยายจิตทากล่าว