วันที่ 4 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตร.สภ.เมืองอุดรธานี นำโดย พ.จ.อ.ยศกร เพชรล้ำ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง  บุกจับเณรน้อยที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี คาผ้าเหลืองในกุฏิ โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพเสพยาบ้าจริง ด้วยเงินจากซองกฐินที่ญาติโยมมาถวายซื้อยาบ้ามาเสพ  

สอบถามทราบชื่อสามเณรโจ้ อายุ 32 ปี บวชเป็นเณรมาจำวัดอยู่ที่วัดในต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ผ่านมามีพฤติกรรมเสพและลักลอบจำหน่ายยาเสพติดบริเวณกุฏิภายในวัด และไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ไม่เคยออกบิณฑบาตร พอได้เงินซองกฐินจากญาติโยมก็นำไปซื้อยาบ้ามาเสพสนุกลั่นวัด เจ้าอาวาสไปเตือนกลับถูกขู่ทำร้ายและไล่ตี

เบื้องต้นตรวจปัสสาวะด้วยชุดตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาให้โทษประเภท 1 นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยบันทึกจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่า เสพยาบ้ามาตั้งแต่อายุ 15 ปี เสพยาบ้าวันละ 2 เม็ด โดยจะนำเงินจากญาติโยมที่มาถวายไปซื้อมาเสพ ล่าสุดได้เงินซองงานกฐิน 1,000 บาท ใช้ให้นายป้องและนายพงษ์ ไปซื้อมายาบ้านำมาส่งจนสนุกเสพและร้องลั่นวัด

ด้านพระอธิการคำผิน  อายุ 69 ปี เจ้าอาวาสวัด บอกว่า เณรรูปนี้ก่อนจะมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ได้มาขอบวชเป็นพระในช่วงเข้าพรรษาแต่ทางวัดไม่สามารถบวชให้ได้เนื่องจากตามหลักแล้วไม่สามารถบวชได้ อาตมาก็เลยไม่ได้บวชพระให้ สามเณรรูปนี้จึงไปบวชเป็นเณรที่วัดอื่นและมาขอจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากมีบ้านอยู่ละแวกนี้ ภายหลังบวชสามเณรมาสามเณรรูปนี้ก็มีพฤติกรรม ไม่ชอบทำกิจของสงฆ์ไม่ยอมออกบิณฑบาตร สวดวัตรเย็น แถมมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีเพื่อนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามาหาที่วัดทุกวัน ชาวบ้านที่เขาทนพฤติกรรมไม่ไหวจึงแจ้งเจ้าน้าที่ฯกระทั่งถูกจับตัว ตอนเสพยา อาตมาก็ไปเตือน ก็ถูกสามเณรรูปนี้ด่าคืนและขู่ทำร้ายด้วย ก็กลัวตาย จึงปรึกษาผู้ใหญ่บ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ฯ มาจับไปดังกล่าว