เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 3 ธ.ค.66  ที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการทดลองเครื่องไบโอฟีดแบ็ค หรือเครื่องคัดกรองสภาวะสุขภาพจิตที่ผลนายกฯมีความเครียดสูง ว่า รู้สึกตกใจเหมือนกัน ที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้วัดเครื่องความเครียด แต่เมื่อได้เล่นฟุตบอลในสิ่งที่ชอบ ก็ดีใจและสบายใจขึ้น แต่ตำแหน่งอย่างนี้แบกความหวังของพี่น้องประชาชน 68 ล้านคนไว้ ปัญหาเต็มไปหมดก็ต้องเป็นเป็นธรรมดา ถ้าไม่เครียดก็ไม่ใช่คนที่แคร์ ต้องแคร์ครับเรื่องสำคัญพวกนี้ แต่ไม่เป็นไรแบกได้ แต่ก็พยายามออกกำลังกายประจำ เมื่อมีโอกาสก็วิ่งบ้างอะไรบ้าง แต่ก็น้อยลงตั้งแต่รับตำแหน่งมา แต่ก็ยังดีใจวันนี้แม้เป็นวันอาทิตย์ก็ต้องมาและวันที่ 4 ธ.ค. จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งได้สัญญากับนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไว้ว่าจะเป็นจังหวัดแรก ที่เราจะมาประชุม ครม. นอกสถานที่จังหวัดแรกเพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่ำที่สุดก็อยากจะมาเห็นปัญหาด้วยตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ ยาเสพติด และเชื่อว่าคงจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น 

“ยืนยันไม่ได้มาสร้างภาพ หรืออะไรแต่อยากจะมาเห็นจริงๆ เพราะทุกวันที่เราอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีรายได้ต่อหัวสูงที่สุด เมื่อมาที่หนองบัวลำภูซึ่งมีรายได้ต่ำสุด เห็นแล้วก็อยากให้เป็นแรงบันดาลใจทำงานหนักขึ้น เพราะเราอยู่กันหลายๆจังหวัด สบายกว่าเขาเยอะและต้อง ขอขอบคุณสส.ในพื้นที่ทั้ง 3 คน ที่ดูแลพี่น้องในพื้นที่อย่างดี โดยมี เอกชนหลายรายมาช่วยสนับสนุน ทางกองทัพเองก็มาทำอาหารให้ด้วย ขณะที่อาสาสมัครก็แข็งแรง ดูแลปัญหาด้านยาเสพติดให้“ นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าแบกปัญหาหนักมาก ตอนนี้มีเรื่องอะไรที่หนักที่สุด นายกฯกล่าวว่า มันไม่ได้มีปัญหาอะไรหนักที่สุดแต่เป็นทุกๆเรื่อง ยาเสพติดก็หนัก ผู้สื่อข่าวที่ลงพื้นที่กับตนมา เรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ และหนี้นอกระบบเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องรายได้ต่อบุคคลก็เป็นเรื่องใหญ่ ฝุ่น pm2.5 ก็เรื่องใหญ่เพราะเข้าสู่ไฮซีซั่นแล้ว เรื่องเศรษฐกิจก็เรื่องใหญ่รวมถึงปัญหาราคาพืชผลเป็นปัญหาใหญ่ทั้งนั้น ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่กว่าอะไร 

เมื่อถามว่า ก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีถ้าเทียบกับหลังมาเป็นนายกรัฐมนตรี รู้สึกตกใจหรือไม่เมื่อเห็นว่าปัญหาประเทศเยอะขนาดนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า บางเรื่องก็ไปในทิศทางที่แปลกใจและเศร้าใจ เพราะมีเยอะขึ้นกว่าเดิม และปัญหายาเสพติดก็ทราบดีอยู่แล้วเป็นเรื่องใหญ่ และปัญหาหนี้นอกระบบนึกว่าจะมีเยอะ แต่ไม่นึกว่าจะเยอะขนาดนี้ 

เมื่อถามว่า การเปิดให้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบวันแรกพบว่ามีคนเข้าลงทะเบียนจำนวนมาก นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่ายังต้องไปอีกไกล ไปได้อีกเยอะเพราะมีอีกเยอะมาก และพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ยังไม่ทราบถึงวิธีการลงทะเบียน เมื่อคิกออฟอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการเรียนเชิญนายอำเภอกับผู้กำกับ เข้ามาประชุมที่อิมแพ็คเมืองทองธานี คงจะทราบนโยบายและไปลงพื้นที่แล้วเอาจำนวนคนที่เป็นหนี้นอกระบบขึ้นมาดูอีกเยอะ 

เมื่อถามว่าในขณะที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ แต่ผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเพราะลูกหนี้บางคนก็ชิ่งหนี นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องเอาตัวเลขมาดูกันเพราะมีหลักฐานอยู่แล้ว ต้องว่ากันตามกฎหมาย สำคัญที่สุดคืออัตราดอกเบี้ยตรงนี้เราต้องดูให้ดี ต้องเป็นอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ถ้าเกินแสดงว่าผิดกฎหมาย ตรงนี้ต้องดูรายละเอียดของทั้งสองฝ่าย เราอยากให้ปัญหานี้หมดไปจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อแค่สร้างภาพอย่างเดียว ปัญหาต้องหมดไป ไม่ใช่เดี๋ยวก็กลับมาใหม่ 

เมื่อถามว่าใน 3 เดือนนี้ ตั้งเป้าจะพบหนี้นอกระบบเท่าไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่เห็นตัวเลข ต้องขอดูตัวเลขทั้งหมดก่อน ตอนนี้เพิ่งเริ่มได้ 2-3 วัน ยังไม่คิกออฟเลย

เมื่อถามว่าจะต้องมี KPI วัดผล แต่ละจังหวัดหรือไม่เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวคงมีการพูดคุยกันต่อไปเพราะต้อง ให้เกียรติหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเขาเองก็ยังไม่ทราบขนาดของปัญหาว่าใหญ่แค่ไหน 

เมื่อถามว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรหนองบัวลำภู มีเรื่องอะไรที่ต้องผลักดันเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าทุกเรื่อง การสัญจร การคมนาคม ชีวิตความเป็นอยู่ เรื่องยาเสพติดซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ สาธารณสุขก็เรื่องใหญ่ จริงๆแล้วเป็นสิทธิพื้นฐานที่ต้องได้รับในหลายๆโรคที่เข้ารักษา และวันนี้ก็แปลกใจว่าซึ่งพบว่าพยาธิใน ตับถุงน้ำดี ประชาชนในเขตนี้บริโภคอาหารกึ่งดิบกึ่งสุกเยอะ จึงตกใจในจำนวนคนที่เป็นโรคนี้ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้มีแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อที่จะสามารถรักษาโรคนี้ได้ และ 30 บาทก็ช่วยได้เยอะ และนโยบายดังกล่าวจะทำให้ดีขึ้น