จากกรณีสภาผู้บริโภคเข้าช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาแนะนำ และเป็นพยานในคดีที่ผู้บริโภคถูกบริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) ฟ้องร้องเรื่องผิดสัญญาเงินกู้สินเชื่อจำนำโฉนด จนกระทั่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าบริษัทฯ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้บริโภคได้ทำสัญญากู้และได้รับเงินจริง และสัญญาที่นำมาแสดงเป็นเอกสารปลอม
แต่ในเวลาต่อมาบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกมาชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง บริษัทไม่มีนโยบายการดำเนินงานและการกระทำดังกล่าวที่ขัดต่อหลักกฎหมาย โดยมีหลักฐานว่าลูกค้าคนดังกล่าวได้กู้ยืมเงินจากบริษัทจริง เช่น ภาพถ่ายขณะลงนามในสัญญา หรือหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชี พร้อมระบุว่าคดียังไม่สิ้นสุดจึงไม่อาจกล่าวได้ว่าบริษัทได้ทำการปลอมแปลงเอกสารสัญญาเงินกู้ นั้น (อ่านรายละเอียดได้ที่ : SAWAD ย้ำจุดยืนธุรกิจไร้การปลอมแปลงเอกสารที่ขัดต่อกฎหมาย)
วันนี้ (2 ธันวาคม 2566) โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคขอยืนยันว่า ข้อมูลผลการต่อสู้คดีของผู้บริโภคที่เผยแพร่ออกไปเป็นความจริงทุกประการ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมมาภิบาลตามที่กล่าวอ้าง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมากำกับดูแลและจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อธุรกิจกู้ยืมเงินให้กับผู้บริโภค
"สภาผู้บริโภคขอให้บริษัทดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมมาภิบาลตามที่บริษัทกล่าวอ้าง และขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกมากำกับดูแลและจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ควรตรวจสอบธรรมาภิบาลของบริษัท เนื่องจากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกระทรวงการคลัง ที่ต้องตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค"
ช่วงเที่ยงวันที่ 1 ธ.ค.2566 เป็นตัวแทนคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มบุคคลผู้ได้รับเดือดร้อนจากการถูกบริษัทมหาชนชื่อดัง ที่ดำเนินธุรกิจการเงิน เงินทุนและหลักทรัพย์ ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกัน จำนำรถทุกประเภทรวมถึงการให้บริการสินเชื่อประเภทที่อยู่อาศัย ฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร เปลี่ยนเพิ่มเติมวงเงินกู้ ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนจากหนี้สินที่พุ่งขึ้นมากเกินความเป็นจริง ซึ่งจะนำเรื่องเสนอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม และมีหนังสือเรียนเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการเงินการคลังฯโดยด่วน