“สยามรัฐ”ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”...*...

 The old soldier never die ศรพระราม บรรทัดนี้ ขอแสดงความยินดี “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นองคมนตรี ...*...

นับเป็นเส้นทางอันสง่างาม ของ “ลุงตู่” จากทหารเสือราชินี นักรบเหรียญรามาฯ สู่ผู้นำฝ่ายบริหาร 2 สมัยเป็นเวลา 9 ปี ตามโมเดล “ป๋าเปรม”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี โดยคุณูประการของ “ลุงตู่” มีหลายเรื่องเป็นรูปธรรม ทั้งการยกระดับสาธารณสุขของประเทศ ในช่วงวิกฤติโควิด  ดูแลกลุ่มเปราะบาง ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการคนละครึ่ง ปั้น EEC เดินหน้าโครงการคมนาคมขนส่งรถไฟฟ้า  ปรับปรุง สวนสาธารณะ พัฒนาคลอง ...*...

ที่สำคัญจุดยืนของ “ลุงตู่” ชัดเจนในการปกป้องสถาบันดังที่เคยกล่าวไว้ว่าในช่วงวิกฤติการชุมนุมของกลุ่มราษฎรว่า  “รัฐบาลจำเป็นต้องทำคือ เรื่องของการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน”  และวันนี้ “ลุงตู่” พ้นจากพื้นที่การเมือง ทำให้นึกถึงวลีที่เขากล่าวกับชาวบ้านขณะลงพื้นที่หาเสียงที่จ.จันทบุรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า  “ถ้าไม่เห็นนายกฯแล้วจะคิดถึงนะจ๊ะ” …*…

อีกด้านหนึ่ง “ลุงตู่เอฟเฟกต์” หลังพ้นพื้นที่การเมือง ไพศาล พืชมงคล  อดีตกุนซือการเมืองของพี่ใหญ่ 3 ป. ขออโหสิกรรมในสิ่งที่เคยก้าวล่วง และมองว่า สถานะของ “ลุงตู่” วันนี้ ดับฝันบรรดานักปั่นกระแสให้ลุงหวนคืนเก้าอี้นายกฯ ...*...

 “สำหรับท่านที่กำลังปั่นกระแส เพื่อให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ความหวังนั้นย่อมเป็นที่สิ้นสุดลงเช่นเดียวกัน จึงควรที่เราจะได้มาช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเรามีความเจริญรุ่งเรื่องมีความมั่นคงและราษฎรทั้งหลายได้รับประโยชน์สุขโดยถ้วนหน้ากัน” ...*...

ก็ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าในห้วง 2 เดือนของรัฐบาล “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯมือใหม่มีเรื่องให้ “ว้าวุ่น” หลายเรื่องประเดประดัง ที่สุ่มเสี่ยงเป็นอันตรายต่อเก้าอี้นายกฯ ทำให้มีกระแสข่าวเขย่าเก้าอี้ “นายกฯนิด” ตลอดมา และชื่อหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมา นอกจากชื่อของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังฝึกงานในบอร์ดซอฟต์พาวเวอร์  ก็คือชื่อของ “ลุงตู่” แต่นับจากนี้คงไม่มีกระแสดังกล่าวอีก แต่ก็ไม่ปฏิเสธสถานะปัจจุบัน บารมีของ “ลุงตู่” นั่นยิ่งแผ่ไพศาล ...*.. .

แม้จะถูกหลายฝ่ายตั้งข้อกังขา กับกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล ว่าแอบแฝงประโยชน์ ที่นิรโทษให้พวกพ้องกรณีการนิรโทษกรรมความมาตรา 112  ฟังคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ “หัวหน้าต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน  ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ของสรยุทธ์ สุทัศนจินดา  ว่า “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สละสิทธิ์นิรโทษ ความผิดมาตรา 112 ...*...

ศรพระราม ก็อนุโมทนา สาธุด้วย ว่าเป็นการแสดงเจตนา เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่เรื่องมาตรา 112 นั้นผู้กระทำผิดทั้งหลายจงฟังเอาไว้ ว่าไม่ต้องออกกฎหมายมานิรโทษกรรมใดๆให้ยุ่งยาก และไม่ต้องแก้ไขกฎหมายหรือยกเลิก เพียงแค่ทำตามคำแนะนำของ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่โพสต์เฟซบุ๊ก (27กันยายน 2566)ว่า  “ขอแนะนำเยาวชนที่ผิด ม.112 ที่ทำไปเพราะฟังหรืออ่านข้อมูลบิดเบือน ควรสารภาพ ต่อศาลครับ เพราะศาลท่านอาจจะเมตตา ให้รอลงอาญาหรือรอกำหนดโทษ ฯ แนะนำว่า อย่าหลงเชื่อคนที่บอกให้ รอแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112” ...*...

 ศรพระราม ก็มองเห็นว่า บรรดาเยาวชน หรือแม้แต่ สส.ของพรรคก้าวไกล ก็สามารถยึดตามแนวคำแนะนำของ อ.ไชยันต์ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หากปล่อยให้นิรโทษกรรมได้ จะไม่จบแค่นิรโทษกรรม จะรุกต่อไปที่การแก้ไขและยกเลิกในที่สุด ...*...

ที่มา:ศรพระราม (1/12/66)