วันที่ 1 ธ.ค.66 ที่ ภ.จว.นครศรีธรรมราช ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8,นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.นครศรีธรรมราช,พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช.,พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผบก.ภ.จว. นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. ภ.จว.นศ.
นำโดย พ.ต.ท.นพเสถียร สิงห์สุขพนธ์ รอง ผกก.สส. ภ.จว.นศ.,พ.ต.ท.ศุภกร พรหมทอง สว.กก.สส.ภ.จว.นศ.,ร.ต.อ.ธัชชัย คงนก, ร.ต.อ.ขยัน ทองมี,ร.ต.ท.อดุลย์ พัสดุสาร,ด.ต.วิทยา เอกบุตร, ด.ต.พิศิษฐ์ ครรชิต,จ.ส.ต.สินชัย สิทธิประการ,จ.ส.ต.ศุภชัย รสชื่น,จ.ส.ต.ปณวัส สุขจันทร์ ร่วมกันจับกุม นายยงยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี อยู่ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลาง1.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 6 คัน ,2.รถจักรยานยนต์ จำนวน 21 คัน ,3.คู่มือจดทะเบียนรถจำนวน 40 เล่ม ,4.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 37 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน 1.ประกอบกิจการสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต 2..จัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พ.ต.ท.นพเสถียร กล่าวถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า ตามนโยบายให้ระดมกวาดล้าง จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบในพื้นที่ ความผิด 7 ประเภท มีหมวกกันน๊อค,ดอกเบี้ยเกินอัตรา,กู้เงินออนไลน์,จำนำรถ,ขายฝากที่ดิน จำนองที่ดินและวางหลักประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวทราบว่า”นายแวว” หรือนายยงยุทธ ฯ อยู่ในพื้นที่ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัด นครศรีธรรมราช มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการรับจำนำรถและปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้เข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.นพเสถียร สิงห์สุขพนธ์ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นศ.(หน.ชุดศปจร.ภ.จว.นศ.) พ.ต.ท.ศุภกร พรหมทอง สว.สส.กก.สส.ภ.จว.นศ.,ร.ต.อ.ธัชชัย คงนก รอง สว.กก.ภ.
จว.นศ.,ร.ต.อ.ขยัน ทองมี,ร.ต.ท.อดุลย์ พัสดุสาร,ด.ต.วิทยา เอกบุตร, ด.ต.พิศิษฐ์ ครรชิต,จ.ส.ต.สินชัย สิทธิประการ,จ.ส.ต.ศุภชัย รสชื่น,จ.ส.ต.ปณวัส สุขจันทร์ ตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายยงยุทธฯ นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านและสังเกตเห็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลายคันภายในสวนปาล์มหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
จากการสอบถาม นายยงยุทธ ให้การรับว่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งหมดตนได้รับจำนำไว้และรับว่ายังมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในบ้านอีกจำนวนหนึ่งจึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปทำการตรวจสอบภายในบ้านพบโทรศัพท์มือถือ คู่มือจดทะเบียนรถ กุญแจรถ ที่ประชาชนได้นำมาจำนำไว้กับตน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 5บาท ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 60 บาท ต่อปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า1.ประกอบกิจการสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และทำการจับกุมพร้อมทั้งทำการตรวจยึดของกลางตามรายการดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขนอม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป