วันที่ 1 ธ.ค.2566 เวลา 11.00 น. รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงปัญหาการเกิดช่องว่างการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ โดยระบุว่า ในสมัยที่ตนมีอาชีพเป็นไกด์นำท่องเที่ยวมีบริษัทเอกชนว่าจ้าง โดยสั่งให้แจ้งทางอุทยานฯ ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 10 คน พร้อมมีน้ำอัดลม ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ จำนวน 10 ขวด ซึ่งสะท้อนว่ามีข้อตกลงระหว่างบริษัททัวร์และเจ้าหน้าที่อุทยานและดำเนินการลักษณะดังกล่าวมาอย่างยาวนาน จนมีการเปิดโปงข้อมูลว่ารายได้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลในภาคใต้มีจำนวนมาก เข้าข่ายทุจริตหรือไม่
"สงสัยว่าอาจจะมีช่องว่างของการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะว่าเก็บมานานแล้วเงินรั่วไหล จึงต้องแก้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการรั่วไหลที่เกิดขึ้นไม่มีการพูดถึงเลย ข้อจำกัดที่อ้างคืออะไรและการเก็บเงินได้น้อยหมายความว่าอย่างไร จึงถามไปยังพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าท่านเป็นตำรวจเก่าวันนี้เป็นรัฐมนตรีต้องมีจิตวิญญาณของนักสืบและตั้งข้อสงสัยว่าถูกข้าราชการต้มหรือไม่ หรือถูกข้าราชการไม่เห็นความสำคัญ เพราะเป็นรัฐมนตรีมือใหม่หรือไม่" นายประเสริฐพงษ์ กล่าว
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์ หรือ อีทิกเก็ต ที่มีการเก็บมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่มีการถ่วงเวลาระบบพัฒนาการจัดเก็บเงินหรือไม่ เนื่องจากมีข้อมูลว่าบริษัทที่รับประมูลงานหมดสัญญา ดังนั้นข้าราชการในกรมอุทยานฯ จะต้องเตรียมการล่วงหน้า สะท้อนว่าการปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง จึงเรียกร้องให้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนการขยายประกาศการยุติการจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ด้วยระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ ไว้เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไปและไม่ได้กำหนดว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ สะท้อนว่าผู้บริหารระดับรัฐมนตรีและอธิบดีไม่มีฝีมือ จึงขอให้แก้ไขปัญหาโดยเร็ว เนื่องจากจะเสียผลประโยชน์ของชาติ ส่วนที่อ้างว่า ประเด็นปัญหาดังกล่าวได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหลายคนรู้ว่ามีการรั่วไหลของการเก็บเงินบริเวณหน้าอุทยานฯ