เช็กที่นี่! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนธ.ค.66 งวดนี้ได้ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง-ใครได้เงินย้อนหลัง
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรูปแบบหนึ่งที่รัฐบาลมอบให้กับคนที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งเข้าข่ายกลุ่มคนจน สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรจะได้รับมีหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับซื้อข้าวของเครื่องใช้ หรือเงินสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับค่าเดินทางเป็นต้น
ขณะเดียวกันบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือสวัสดิการที่มีการใช้งานง่าย เพียงไปร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมแสดงบัตรให้ร้านค้า หรือให้เจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้ว ความสำคัญของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคือ เงินช่วยเหลือสำหรับคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในช่วงสถานการณ์ที่หลายๆคนกำลังเจอวิกฤติ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนธันวาคม 2566 จะมีวงเงินโอนเข้าให้กับผู้มีสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 13 ล้านคน ส่วนคนที่ผ่านอุทธรณ์รอบเก็บตก ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 ต.ค.-26 พ.ย.66 จะได้รับวงเงินเข้าในวันที่ 1 ธ.ค.66 และจะได้รับวงเงินย้อนหลังอีก 2,400 บาท (เดือน เม.ย.-พ.ย. 66) รวม 8 เดือน เดือนละ 300 บาท สำหรับวงเงินที่จะได้รับในแต่ละรายการมีดังนี้
วันที่ 1 ธันวาคม 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 ต.ค.-26 พ.ย.66 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 ธ.ค.66 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้นผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิวงเงินซื้อสินค้า 8 เดือน (เดือน เม.ย.-พ.ค. 66) รวมจำนวน 2,400 บาท
วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อเดือน 3 เดือน (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 66)
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน บขส.,รถไฟ,ขสมก.,รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
วันที่ 6 ธันวาคม 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ที่ผู้มีสิทธิได้ยื่นหนังสือให้ความยินยอมไว้แล้ว) ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด
เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน (ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย. 66) เฉพาะรายการแก้ไขการโอนเงินไม่สำเร็จ และผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนเพิ่มเติม สำหรับผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐที่เกิดก่อนวันที่ 1 ก.ย.2506 และยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายในวันที่ 26 ต.ค.66 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 1 ธ.ค.66
ได้รับเงินเท่าไรขึ้นอยู่กับวันเดือนปีเกิด ดังนี้
-เกิดก่อนวันที่ 1 เมษายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนเมษายน-กันยายน 2566 จำนวน 600 บาท
-เกิดระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2566 จำนวน 500 บาท
-เกิดระหว่างวันที่ 1-31 พฤษภาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนมิถุนายน-กันยายน 2566 จำนวน 400 บาท
-เกิดระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566 จำนวน 300 บาท
-เกิดระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 จำนวน 200 บาท
-เกิดระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนกันยายน 2566 จำนวน 100 บาท
วันที่ 20 ธันวาคม 2566(โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
สำหรับวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สามารถกดเป็นเงินสดได้จะมี 2 วงเงินคือ เบี้ยผู้พิการเพิ่มเติม และเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือนที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 ก.ย.-26 ต.ค.66 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้นผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือน เม.ย.-ต.ค.66) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย 100-600 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงินคือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจะได้รับเงินสงเคราะห์ฯจำนวน 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ย.66) โดยแบ่งรอบการโอนตามวันเดือนปีเกิดของผู้สูงอายุ
สำหรับในวันที่ 6 ธันวาคม 2566 จะเป็นการโอนเงินให้คนที่เกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2506 และยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 โดยผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566
ได้รับเงินเท่าไร : ขึ้นอยู่กับวันเดือนปีเกิด ดังนี้
เกิดก่อน 1 เมษายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนเมษายน-กันยายน 2566 จำนวน 600 บาท
เกิดระหว่าง 1-30 เมษายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2566 จำนวน 500 บาท
เกิดระหว่าง 1-31 พฤษภาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนมิถุนายน-กันยายน 2566 จำนวน 400 บาท
เกิดระหว่าง 1-30 มิถุนายน 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566 จำนวน 300 บาท
เกิดระหว่าง 1-31 กรกฎาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 จำนวน 200 บาท
เกิดระหว่าง 1-31 สิงหาคม 2506 ได้รับสิทธิ์เดือนกันยายน 2566 จำนวน 100 บาท
ทั้งนี้กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้สูงอายุ
ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ลงทะเบียนขอรับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.66 เป็นต้นไป โดยต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าตามเงื่อนไขดังนี้
-ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือนจะได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
-ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าในวงเงินไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
วิธีลงทะเบียนส่วนลดค่าไฟ
ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม.,สมุทรปราการ,นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ส่วนลดค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ลงทะเบียนขอรับสิทธิค่าน้ำประปาฟรีตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยต้องเป็นผู้ใช้น้ำประปาตามเงื่อนไขดังนี้
-กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
-กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
วิธีลงทะเบียนส่วนลดค่าน้ำประปา
ผู้ใช้ประปาใน กทม.,สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัดลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
#บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #บัตรคนจน #เบี้ยคนพิการ #เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ #ผู้สูงอายุ #เบี้ยคนชรา