"ณัฐพงษ์" เผยฝ่ายค้านตั้งเป้าถล่มการของบฯ 67 วอนรัฐบาลชัดเจนพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ขัดกฎหมายหรือไม่ ซัดแก้หนี้ให้ประชาชนกลับสร้างหนี้สาธารณะ
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวตั้งข้อสังเกตถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ไม่มีงบที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต 10,000 บาท และยังไม่มีความชัดเจนมาอยู่แล้วว่าแหล่งที่มาของเงินของโครงการฯ ดังกล่าวไม่สามารถใช้เงินจากงบประมาณเป็นหลักได้ ซึ่งรัฐบาลก็ได้ชี้แจงมาแล้วว่าจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งมีปัญหาหลายอย่างตามที่ได้ทราบกันเช่น จะขัดต่อกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และกฎหมายหนี้สาธารณะหรือไม่ ขณะนี้รอความชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ซึ่งในฐานะกรรมาธิการและประชาชนต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่ได้จากการเรียกหน่วยงานมาให้ข้อมูลการของบประมาณปี 2567 พบว่ายังมีเรื่องระเบียบกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลางเกี่ยวกับการแบ่งชั้นผู้รับเหมา ที่ชี้ชัดว่าผู้รับเหมาชั้นพิเศษของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทว่าระเบียบดังกล่าวเอื้อให้เกิดการฮั้วประมูลหรือไม่ จึงตั้งข้อสังเกตว่าผู้รับเหมาที่ประมูลงานปีละหลาย 10,000 ล้านบาท อาจมีการฮั้วประมูล จึงเรียกหน่วยงานเข้ามาชี้แจง เพื่อแก้ไขระเบียบต่างๆ
สำหรับการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านตั้งเป้าที่จะเปิดเผยแผนการของงบประมาณปี 67 วงเงิน 5.8 ล้านล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกวันที่ 3-4 ม.ค.67 ซึ่งจะให้ส.ส.ทั้ง 500 คน ช่วยอภิปรายตรวจสอบ เพราะตอนนี้สำนักงบประมาณถือหลักเกณฑ์พิจารณาจัดสรรงบเพียงหน่วยงานเดียวที่ตัดเหลือ 3.48 ล้านล้านบาท ใช้หลักเกณฑ์อะไรและงบประมาณปี 2567 ล้าช้ามากว่าครึ่งปี ซึ่งจะกระทบต่องบประมาณการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สามารถเบิกจ่ายได้ จึงคาดหวังให้ร่างกฎหมายงบประมาณผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว
นโยบายแก้หนี้ของรัฐบาล ว่าเป็นการแก้หนี้ให้ประชาชนนั้นเป็นประโยชน์ แต่การดำเนินการของรัฐบาลมีความย้อนแย้งในตัวเอง เนื่องจากรัฐบาลบอกจะแก้หนี้ให้ประชาชนและในขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังจะออกพ.ร.บ.กู้เงิน สร้างหนี้สาธารณะให้ประชาชน ชวนประชาชนตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ในโครงการดังกล่าว นายณัฐพงษ์ กล่าวและว่า กมธ.ตั้งใจจะให้มีร่างงบประมาณปี 2568 ประกบร่างของรัฐบาล ซึ่งหลายประเทศก็มีโมเดลดำเนินการในลักษณะนี้ โดยในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงกำหนดการส่งคำของบประมาณปี 2568 ของแต่ละหน่วยรับงบประมาณกรรมาธิการจะเรียกหน่วยงานเข้ามาชี้แจงถึงข้อมูลคำของบประมาณปี 2568
นายณัฐพงษ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรี และรมว.คลัง ได้แถลงไปวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่ามาถูกทางหรือไม่ ว่า การแก้หนี้เป็นประโยชน์ของประชาชนอยู่แล้ว แต่เราก็รู้สึกได้ว่าการดำเนินการของรับบาลหลายอย่างมาความย้อนแย้งในตัวเอง เพราะเมื่อคุณบอกว่ากำลังแก้หนี้ให้ประชาชนแต่ในขณะเดียวกันคุณกำลังออกพ.ร.บ.กู้เงิน สร้างหนี้สาธารณะให้กับประชาชนทุกคน ตนคิดว่าเป็นคำถามที่ควรถูกตั้งว่ามีความเหมาะสมหรือไม่