เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 30 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากนายภูวเมศฐ์ อายุ 46 ปี ( ขอสงวนนามสกุล ) เป็นเจ้าของร้านขายบะหมี่เกี๊ยว ว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 00.30 น.มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบอายุประมาณ 45-50 ปี 1 ราย มาขอตรวจเอกสารของแรงานต่างด้าว 3 คน ที่เป็นลูกจ้างภายในร้าน ขณะเก็บร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ภายในซอย ประชาราษฎร์ 20 อ.เมือง จ.นนทบุรี และมี การพูดจาข่มขู่ก่อนจะขอให้จ่ายเงินค่าแรงงานต่างด้าวโดยอ้างว่าเอกสารไม่ครบ แต่ทางเจ้าของร้านไม่เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงและทางลูกจ้างในร้านมีเอกสารครบทุกคนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้นำหลักฐานเดินทางไปแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว
นายภูวเมศฐ์ กล่าวว่า เวลาประมาณ 00.30 น.เก็บร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่ตนกลับบ้านไปก่อน เหลือแต่เด็ก ๆ ก็มีคนแต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินมาคนเดียว เข้ามาขอตรวจบัตร เด็กจึงโทรไปหาตน ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอนุญาตให้ตรวยสอบได้ หลังตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่ามีเด็กหนึ่งคน บัตรไม่ครบ จะนำตัวเด็กไป โดยแจ้งว่าจ่ายไม่เยอะหรอก ให้รีบไปจัดการ ตนจึงโทรหาเจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรแรงงานต่างด้าวให้ ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะเอกสารครบ แต่ชายที่อ้างตัวบอกว่าตนรู้มาก หัวหมอ ไม่คุยด้วยแล้ว ยืนยันว่าจะนำตัวน้องไป ตนจึงถามว่าจะพาเด็กไปที่ไหน โรงพักท่าน้ำนนท์ใช่หรือไม่ แต่ได้คำตอบกลับมาว่าไม่คุยแล้ว จะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตม.มาลงตรวจสอบ พูดข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว และนายจ้างต้องโดนจับกุมด้วย แต่ตนก็รู้สึกไม่โอเคจึงไม่ได้ให้เงินไป ซึ่งกรณีนี้ตนเคยโดนแบบนี้มาเยอะแล้วจึงไม่ได้ตกใจอะไร แต่ทุกครั้งที่มีการจับโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ทางคนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้เก็บ แต่คงลืมว่ามีกล้องวงจรปิด จากการที่ได้สอบถามมาบัตรรุ่นใหม่บัตรสีชมพูไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว แต่เราต้องมีเอกสารครบทุกอย่าง สามารถทำงานได้ ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบบ่อย ก็ไม่มีปัญหาอะไร อยู่กันมาจะ 20 ปีแล้ว ฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าที่มีลูกจ้าง โดนแบบนี้กันบ่อย ในเมื่อถูกกฎหมายแล้วก็ไม่อยากให้มาเค้น รีดไถแบบนี้อีกตั้งใจทำมาหากินกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท
นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกจ้างในร้าน กล่าวว่า ก่อนจะเข้ามาที่ร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเดินวนไปมา พี่พนักงานที่เป็นแรงงานต่างด้าวยืนจัดของอยู่ เตรียมตัวจะกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาพร้อมสอบถามว่าเป็นคนไทยหรือป่าว ทำงานอยู่ที่ไหน ตนเดินออกมาสอบถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ตอบกลับว่ามาขอตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ไม่ได้มีอะไร ตนจึงตอบกลับว่า ยินดีให้ตรวจสอบ เพราะทางร้านพนักงานมีเอกสารครบทุกคน พร้อมยืนยันว่าตนเป็นคนไทย แต่โดนบูลลี่กลับมาว่า รู้ว่าเป็นคนไทยและอ้วนด้วย หลังจากนั้นจึงได้โทรหานายจ้าง เพื่อพูดคุยเมื่อนายจ้างมาถึงที่ร้านนายจ้างได้พูดคุยกับชายคนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า อย่ามาหัวหมอนะ อย่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ ก่อนที่จะเดินออกไปได้มีการข่มขู่ว่าจะเอาตำรวจมาจับนายจ้าง และจะเอาตม.มาตรวจสอบที่ร้าน ตนเป็นหลานของนายจ้าง ยืนยันว่าเอกสารครบ ส่วนพนักงานที่เป็นแรงงานต่างด้าว กลัวมาก ส่วนน้องคนที่โดนกล่าวหาว่าเอกสารไม่ครบนั่งร้องไห้ด้วยความกลัวต้องช่วยกันปลอบ
ทางด้าน พ.ต.ท.พงศ์สิน สุริยะอรุณศิริ รองผกก.ส.ส. สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า จากการ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าชายแต่งกายคล้ายตำรวจไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.เมืองนนทบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่และถ้าไม่ใช่ตำรวจจะตรวจสอบว่าเป็นใคร จากที่ดูลักษณะชายคนดังกล่าวเข้าไปตรวจด่างด้าวในยามวิกาลและเดินคนเดียว ยืนยันว่าไม่ใช่ตำรวจของสภ.เมืองนนทบุรีแน่นอน อยากฝากถึงประชาชนถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบในลักษณะนี้ขอให้เจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจำตัวพนักงานตำรวจให้สอบถามว่ามาตรวจสอบเรื่องอะไรทำไมถึงมากลางคืน ถ้าเกิดความสงสัยให้โทรมาแจ้งได้ที่สภ.เมืองนนทบุรี เบื้องต้นจะเรียกผู้เสียหายเข้ามาพบพนักงานสอบสวน หากมีการข่มขู่จริงจะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป