วันที่ 30 พ.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อมของพรรคก้าวไกลเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเสนอภายหลังจากการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระแรกเลยหรือไม่ ว่า จากกรอบเวลาเดิมที่เคยหารือร่วมกันกับพรรคฝ่ายค้านก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาฯ จะยื่นภายหลังที่งบประมาณผ่านสามวาระแล้ว ซึ่งตนเข้าใจว่ากรอบเวลาปฏิทินงบประมาณน่าจะจบลงช่วงปลายเดือน มี.ค. คาบเกี่ยวกับช่วงต้นเดือน เม.ย. และจะปิดสมัยประชุมสภาฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงคาดว่าน่าจะยื่นในช่วงต้นเดือน เม.ย.

ส่วนจะเป็นการเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้ข้อเสนอแนะโดยไม่มีการลงมติ หรือการเปิดอภิปรายทั่วไป ที่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ คงขึ้นอยู่กับผลงานของรัฐบาลหลังจากนี้ รวมถึงข้อมูลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

เมื่อถามว่า ดูเหมือนเป็นการซื้อเวลา เพื่อรอผู้นำฝ่ายค้าน วิปฝ่ายค้าน และการเตรียมข้อมูลหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ เรื่องผู้นำฝ่ายค้านน่าจะเสร็จสิ้นตามกระบวนการในเร็วๆ นี้ หวังว่าเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่มีจำนวน สส.มากที่สุด จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านได้ เพราะฉะนั้น เรื่องการวางกรอบปฏิทิน การอภิปรายทั่วไป การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่ถูกกระทบจากกรอบเวลาในการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า มีการวางประเด็นใดไว้บ้าง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า มีเพียงการหารือเบื้องต้น แต่ในส่วนหัวข้อ และบริบททางการเมืองคงเป็นการตรวจสอบ และตรวจการบ้านรัฐบาลจากคำแถลงนโยบายที่ได้ประกาศว่า ได้ดำเนินการตามนโยบาย และเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงต้นเดือน เม.ย. จริง การทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาก็จะเป็นเวลา 6-7 เดือน