ทหาร ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี สนธิกำลังร่วม ชุดสืบสวน สภ.สุขสำราญ สกัดรถจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 7 คน และผู่นำพาชาวไทย 1 ราย
เมื่อวันที่ 30 พฤศจืกายน 2566 เวลา 10.00 น. พันเอก อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีการขนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยเรือหางยาว มาขึ้นที่ ท่าเรือท่าปะแดะ บ้านาพรุ ม.2 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ก่อนโดยสารต่อด้วยรถยนต์กระบะ เพื่อเดินทางออกจากพื้นที่ จ.ระนอง จึงสั่งการให้ กองร้อยทหารราบที่ 2521 จุดตรวจสุขสำราญ ร่วมกับหมวดเคลื่อนที่เร็วกองกำลังเทพสตรี และ ชุดสืบสวน สภ.สุขสำราญ ร่วมลาดตระเวนซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่ดังกล่าว
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม๊กซ์ ตอนครึ่ง เสริมรั้วสีบรอนซ์เทา ป้ายทะเบียน พังงา แล่นออกจากพื้นที่เป้าหมาย เจ้าหน้าที่ชุดติดตาม ได้ขับรถยนต์สะกดรอยตามหลัง และสั่งการให้กำลังด้านนอก ทำการปิดถนนเส้นทางดังกล่าวทันที โดยขอความร่วมมือรถที่สัญจรไปมา ให้หยุดจอดเต็มถนนทั้ง 2 ช่องทางการจราจร เมื่อรถเป้าหมายมาถึง จนท.ทหารและตำรวจ จึงเรียกตรวจสอบทันที โดยมีรถยนต์เจ้าหน้าที่แล่นตามมาปิดท้าย เพื่อป้องกันการหลบหนี ตรวจสอบด้านหลังรถยนต์กระบะ มีแรงงานชายชาวเมียนมา 1 คน นอนมาบนท้ายกระบะ ภายในรถยนต์มีแรงงานหญิงชาวเมียนมา 6 คน โดยมีนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ภูมิลำเนา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง เป็นคนขับและให้การช่วยเหลือโดยการนำพาแรงงานต่างด้าว จำนวน 7 คน ออกนอกพื้นที่
จากการตรวจสอบเอกสาร ของแรงงานดังกล่าว พบว่ามีการเดินทางเข้ามาในจังหวัดระนอง โดยการใช้เอกสาร Border Pass หนังสือผ่านแดนชั่วคราว มาถูกต้อง แต่ไม่สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ อำเภอชายแดนตามข้อตกลงได้ ซึ่งแรงงานทั้งหมด มีเป้าหมายจะเดินทางไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต สอบถาม นายหนึ่ง ผู้นำพา ให้การยอมรับว่าตนได้รับแรงงานทั้ง 7 คน ที่บริเวณท่าเรือท่าปะแดะ บ้านาพรุ โดยการติดต่อผ่านนายหน้าชาวเมียนมา ทางเบอร์โทรศัพท์ ให้นำแรงงานฯ ไปส่งที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยได้รับค่าจ้าง รายละ 1,000 บาท/คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,000 บาท เมื่อถึงตำบลปลายทางที่หมาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ให้การช่วยเหลือพร้อมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ส่ง สภ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป