สสว.วางกรอบทิศทางการส่งเสริม SME ปี 2568 โดยบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ จัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณด้านการส่งเสริม SME มุ่งสร้างความพร้อมในการจัดทำแผนงาน/โครงการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมผู้บริโภค มุ่งเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ทั้งการปรับเปลี่ยนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว และการใช้ Soft Power สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า/บริการ ด้วยเป้าหมายให้ SME อยู่รอด ปรับตัวเร็ว เติบโตยั่งยืน และเป็นกำลังสำคัญให้เศรษฐกิจประเทศต่อไป
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. จัดประชุมชี้แจงแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประจำปี พ.ศ. 2568 ขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงิน ฯลฯ ที่มีภารกิจด้านการส่งเสริม SME ของประเทศรวมกว่า 80 หน่วยงาน ในการจัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณด้านการส่งเสริม SME ประจำปี 2568 ให้สอดคล้องกับแผนการส่งเสริม SME ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งเป็นกรอบแนวทางการส่งเสริม SME ของประเทศ และเพื่อให้การส่งเสริม SME ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถเชื่อมโยง ส่งต่อความช่วยเหลือ และลดความซ้ำซ้อน ช่วยให้การส่งเสริม SME ของประเทศ มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด
“ด้วยบทบาทของ สสว. ที่เป็นหน่วยงานกำหนดนโยบายและแผนการส่งเสริม SME ของประเทศและทำหน้าที่เป็น System Integrator ในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานของทุกๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้แผนปฏิบัติการส่งเสริม SME ประจำปี (Action Plan) เป็นเครื่องมือ ปัจจุบันประเด็นท้าทายสำคัญของ SME มีตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนวโน้มเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเข้าสู่ยุคดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการประกอบธุรกิจของ SME ทั้งสิ้น ดังนั้นแผนปฏิบัติการและงบประมาณด้านการส่งเสริม SME ประจำปี 2568 จึงมุ่งเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) Digital Transformation 2) Green Transition และ 3) Soft Power ด้วยเป้าหมายที่จะช่วยให้ SME อยู่รอด ปรับตัวเร็ว เติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นกำลังสำคัญในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่อไป” ผอ.สสว. กล่าว
สำหรับกรอบแนวทางการส่งเสริม SME ภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริม SME ประจำปี 2568 จะมุ่งสร้างการเติบโตที่ครอบคลุม SME ทุกกลุ่ม สร้างการเติบโตแบบมุ่งเป้าในกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะก้าวมาเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพัฒนาสภาพแวดล้อมให้สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ โดยกำหนดประเด็นสำคัญที่มุ่งเน้นส่งเสริม SME ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การส่งเสริม SME ให้ปรับเปลี่ยนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) การผลักดันให้ SME เปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจสีเขียว (Green Transition ) และการสนับสนุน SME เพิ่มมูลค่าและโอกาสให้ธุรกิจด้วย Soft Power โดยขับเคลื่อนภายใต้ 16 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.พัฒนาธุรกิจระยะเริ่มต้นให้เริ่มธุรกิจได้อย่างมั่นคง 2.ยกระดับธุรกิจที่มุ่งเติบโตให้มีศักยภาพในการแข่งขัน 3.ยกระดับธุรกิจสู่การแข่งขันระดับโลก 4.ฟื้นฟูธุรกิจที่ประสบปัญหาให้ฟื้นตัว 5.ช่วยเหลือธุรกิจยังชีพให้สามารถอยู่รอดได้ 6.สนับสนุนผู้ประกอบการสูงอายุในการดำเนินธุรกิจ 7.ส่งเสริมเกษตรกรสู่การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ 8.สร้างส่วนแบ่งตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้น 9.ส่งเสริมการเข้าสู่สากล 10.สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน 11.สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม 12.สร้างความพร้อมของแรงงานและบุคลากร 13.สนับสนุนศูนย์กลางในการให้ข้อมูล องค์ความรู้และบริการ 14.ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ ให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ 15.พัฒนาระบบข้อมูลเพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบาย และ 16.พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SME ที่อยู่ในอุตสหกรรม Soft Power ในการสร้างคุณค่าให้กับสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ดี การประชุมครั้งนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการบูรณาการทุกหน่วยงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ โดยการจัดทำข้อเสนอแผนงาน/โครงการ และงบประมาณ ประจำปี 2568 ที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันพัฒนาและริเริ่มโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SME สามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ สสว. จะเปิดรับข้อเสนอโครงการของหน่วยงานต่างๆ ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ก่อนจะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณากลั่นกรองและวิเคราะห์โครงการ เพื่อบรรจุภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริม SME สำหรับจัดทำคำของบประมาณประจำปี 2568 ต่อไป