ดีเอสไอ ลุยสางคดี หมูเถื่อน แฉพบกลุ่มใหม่ มีขรก.ประจำ-นักการเมือง เอี่ยวเพียบ อึ้ง! มีเงินหมุนเวียนหลายพันล้าน ด้าน สมคิด ยันเด้ง อธิบดีดีเอสไอ ไม่เกี่ยว ผู้ประกอบการรายใหญ่ เชื่อ นายกฯ-ทวี ชี้แจงได้ ส่วน กมธ.เกษตรฯ จ่อเรียก รัฐบาลแจงปมเด้งอธิบดีดีเอสไอ โยงคดีหมูเถื่อน แนะ นายกฯอย่าปล่อยสังคมคาใจ
       

 เมื่อวันที่ 29 พ.ย.66 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เพื่อกำหนดแนวทางการทำสำนวนคดี 
    
 ทั้งนี้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ ดีเอสไอขยายผลจาก 10 บริษัทชิปปิ้งของเอกชนที่ได้ดำเนินการจับกุมไป ซึ่งพบว่าได้มีการนำตู้หมูบางส่วนออกไปก่อน ว่ามีการกระจายไปที่ไหนอย่างไร และเรื่องนำเข้าตู้หมูเถื่อนตั้งแต่ ปี 64ปี 66 รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด
    
 เราจะรับดำเนินการเกี่ยวกับขบวนการองค์กรอาชญากรรม ที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิด และส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหาร(สุกร)โดยจะรับเป็นคดีพิเศษอีกหนึ่งคดี เพื่อสางขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนทั้งหมด สำหรับคดีใหม่ที่เราจะรับเป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษนี้นั้น พบว่ามีเจ้าหน้าที่ข้าราชการทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนพัวพันจำนวนมาก ซึ่งเราจะดำเนินการในภาพรวมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่ากลุ่มใหญ่นี้ได้มีการนำเข้าอาหารแช่แข็ง (Frozen Food) ประเภท ปลาแช่แข็ง และพลาสติกประเภทพอลิเมอร์ เป็นต้น จึงทำให้เราเห็นชัดเจนว่ากลุ่มใหม่นี้เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ไม่เคยมีบุคคลรายใดหรือนิติบุคคลใดถูกจับกุมมาก่อน ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มใหม่นี้ เราพบการนำเข้าตู้คอนเทเนอร์เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องแล้ว จำนวนหลายพันตู้ พร้อมเงินหมุนเวียนของบุคคล/นิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวนหลักพันล้านบาท
    
 ทั้งนี้ พ.ต.ต.ณฐพล ระบุด้วยว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ได้ตรวจพบตู้คอนเทเนอร์ ซึ่งภายในบรรจุชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้เพิ่มอีก 16 ตู้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษอีกคดี หรือไม่ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าทั้ง 16 ตู้นี้เกี่ยวข้องกับตู้หมูเถื่อน 161 ตู้ก่อนหน้านี้ หรือเกี่ยวข้องกับ 2,388 ตู้ โดยจากนี้เราจะเรียกเจ้าหน้าที่ศุลกากรมาให้ข้อมูล จากนั้นจึงจะเสนอไปยัง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป
     
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม จนถูกโยงเกี่ยวข้องกับการปราบปรามหมูเถื่อนในช่วงที่ผ่านมา ว่า ตนไม่ทราบสาเหตุของการโยกย้าย แต่เรื่องหมูเถื่อนไม่ได้เกิดเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นปัญหามา 2 ปีแล้ว ตำรวจก็จับ เราพอเข้าใจรายละเอียดปัญหานี้ อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปีหมูของเกษตรกรจะออกมา ทำให้ราคาขยับขึ้นนิดหน่อย เชื่อว่าประชาชนจะพออยู่ได้
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการโยกย้ายครั้งนี้ มีผลสืบเนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนมองว่าไม่น่าใช่ ปัญหาหมูเถื่อนมันเกิดนานแล้ว และดีเอสไอรู้หมดว่าใครเกี่ยวข้อง และตนทราบมาว่าผู้ที่จะถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นรายเล็กทั้งนั้น ส่วนที่พรรคก้าวไกลออกมาไล่บี้เรื่องโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอนั้น ก็ไม่แปลก แต่เชื่อว่านายกฯ รวมถึง รมว.ยุติธรรม สามารถชี้แจงได้
   
  ส่วนที่รัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องปัญหาหมูเถื่อน ว่า ประเด็นเรื่องหมูเถื่อน ทางกมธ.อยากจะเชิญ ดีเอสไอมาให้ข้อมูลด้วย
   
  เมื่อถามว่า กมธ.ติดใจหรือไม่ว่า มีการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อดีตอธิบดีดีเอสไอ นายศักดินัย กล่าวว่า ก็ชวนให้สงสัยได้ว่าทำไม เพราะคราวที่แล้วนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้แสดงอาการไม่ค่อยพอใจการทำ งานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และหลังจากที่ทางดีเอสไอได้เข้าไปตรวจสอบที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง วันต่อมาก็ได้มีการโยกย้ายอธิบดี จึงชวนให้สงสัยได้ว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งจะติดตามข้อมูลตรงนี้ และจะถามเรื่องนี้แทนประชาชน
   
  ส่วนตัวมองว่า ควรให้เขามีการดำเนินการก่อน ให้เขาทำงานพิสูจน์หาข้อเท็จจริงก่อน แต่การโยกย้ายแบบนี้ก็ต้องมีการสอบถามไปยังรัฐบาลว่าสาเหตุคืออะไร ส่วนนายกฯจะต้องชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ ก็ควรชี้แจง ไม่ควรจะปล่อยให้สังคมสงสัยอยู่แบบนี้
   
  เมื่อถามว่า จะมีการเชิญหน่วยงานอื่นนอกจากดีเอสไอหรือไม่ นายศักดินัย กล่าวว่า ต้องดูกระบวนการการนำ เข้าหมูเถื่อนมาที่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้น หน่วยงานที่เป็นประตูด่านแรกในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ มีการตรวจสอบให้ตรงกับใบที่แสดงไว้หรือไม่ และทางดีเอสไอมีการบอกมาแล้วว่ามีผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการก็ต้องดูว่ามีใครบ้าง และกมธ. ก็จะดูประเด็นต่างๆ