อัยการภาค 9 ยันการสั่งฟ้องคดี เสี่ยแป้ง ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ด้าน ไพศาลแฉ เสี่ยแป้ง เผ่นซุกอินโดฯ จ่อเขย่าเก้าอี้บิ๊กข้าราชการ ขณะที่ อสส. ชี้ขาดฟ้อง 8 จำเลย ชุดตร. อุ้มรีดเงิน จรวด ต่อศาลปราบทุจริตภาค 9 ข้อหาหนัก ผิด157 อุ้มกรรโชกทรัพย์ นัดส่งตัว 22 ธ.ค.นี้

    
 ความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบคลิปนายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาคดียาเสพติด หลังหลบหนีขณะเข้ารักษาตัวภายในโรงพยาบาล พร้อมแฉผ่านโซเชียล พาดพิงถึงพนักงานอัยการชื่อบอยที่เคยเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายเชาวลิต เเต่อธิบอัยการภาค9 สั่งไม่ฟ้องอัยการบอยกับพวก 
    
 ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พ.ย.66 มีรายงานว่า สำนวนการตรวจสอบที่สำนักงานอธิบดีอัยการภาค 9 ได้มีการสรุปผลส่งมาถึงสำนักงานวิชาการในช่วงบ่าย ของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายวัชระ อินทุสุต อธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ ได้มีคำสั่งเเต่งตั้งคณะทำงานวิเคราะห์สำนวนเป็นพนักงานอัยการสำนักงานวิชาการ 6 คน โดยมีรองอธิบดีอัยการ สำนัก งานวิชาการเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาวิเคราะห์สำนวนรายงาน ไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการโดยจะมีการประชุมทีมนัดเเรกวันนี้ (29 พ.ย.) ทั้งนี้ สำนวนการตรวจสอบของสำนักงานอธิบดีอัยการภาค 9 ที่มีการสรุปผลความเห็นส่งมายังสำนักงานวิชาการมีความเห็นว่า การสั่งคดีของอัยการจังหวัดพัทลุง เเละอธิบดีอัยการภาค 9 ชอบด้วยกฎหมาย
   
  ด้าน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ซูเปอร์แป้ง นาโหนด ยังไม่ตาย และไม่ได้ถูกวิสามัญตามที่เป็นข่าวแต่ประการใด สำนักข่าวกระบี่เดียวดาย รายงานว่า ขณะนี้ซุปเปอร์แป้งสุขสบายดีอยู่ที่อินโดนี เซีย ซูเปอร์แป้งไม่ได้ไปโดยเครื่องบินหรอก แต่ไปด้วยบริการเรือเร็วสำหรับขนของหนีภาษีที่สำคัญคือไลฟ์สดของซุปเปอร์แป้ง กำลังส่งผลสะเทือนใหญ่หลวง ประชาชนแห่ให้กำลังใจล้นหลามสะเทือนสะท้านยุทธจักร จนเป็นเหตุให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องสั่งตรวจสอบ และบัดนี้บางหน่วยงาน ก็ต้องสั่งดำเนินคดี ตามที่ซุปเปอร์แป้งกล่าวอ้างแล้ว เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆคงจะบานเป็นกระด้งและอาจทำให้ใครต่อใครตกเก้าอี้กันเป็นแถว อย่าทำเป็นเล่นไปเก้าอี้ตัวใหญ่ถ้าล้มมันจะดัง
    
 วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริตภาค 9 นัดส่งฟ้อง พ.ต.ต.ฤทธิไกร เหมทานนท์ อดีต สว กก.สส.บก.ภ.8 (ตำเเหน่งขณะเกิดเหตุ) ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ ,ร.ต.อ.วิทยา อำนวย ,ด.ต.ฐนนท์ธร กิจถาวร, ด.ต.นิรัตน์ เพชรรัตน์ ,ส.ต.ต.อาณัติ แดงหนำ,ร.ต.อ.สุรินทร์ ไกรสิทธิ์ ,นายอำพร นวลศรี จำเลยในความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยทุจริต ,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด จากกรณีจำเลย ได้ร่วมกับพวก จำนวน 8 คนจับตัว นายสิทธิ์เดช หรือจรวด ทรงเดชะ ลูกชายเจ้าของบ้านขึ้นรถยนต์เก๋ง จากนั้น นายสิทธิ์เดช ได้ติดต่อมาหาญาติให้นำเงินสด จำนวน 1.5 ล้านบาท ไปให้แก่กลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งอ้างตัวภายหลังว่าเป็นตำรวจสังกัดชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 แลกกับความปลอดภัย และการปล่อยตัว โดยคดีอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 มาเพื่อฟ้องศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้
    
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับสำนวนดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ศาลพิพากษาจำคุก 20 ปี 6 เดือน นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายเชาวลิต ในความผิดฐาน ร่วมกัน ปล้นทรัพย์ฯ, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ, มีอาวุธฯ, พาอาวุธไปที่สาธารณะฯ ในคดีชิงตัวนายจรวดผู้ต้องหา อัยการได้มีการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-6 (อัยการบอยเป็นผู้ต้องหาที่ 2)สั่งฟ้องเพียงนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง เเละนายจรวด