เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 29 พ.ย. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางถึงศูนย์แสดงจำหน่ายและกระจายสินค้าโอทอปเชียงใหม่  ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่  โดยมีชาวสันกำแพง รอต้อนรับให้กำลังใจ พร้อมมอบของที่ระลึกให้  โดยอ.สันกำแพงเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ จะเดินทางมาร่วมในงานดังกล่าวด้วย  แต่เมื่อถึงเวลาพิธีกรในงานแจ้งว่า น.ส.แพทองธาร ติดภารกิจ ขอส่งกำลังใจมาให้ชาวสันกำแพงทุกคนแทน

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นายกฯเดินทางมาถึงชาวสันกำแพงได้ส่งเสียงต้อนรับ พร้อมชูป้ายข้อความอาทิ ”คืนศักดิ์ศรี คืนความหวัง ขอท่านนายกฯช่วยแก้หนี้นอกระบบ,ขอบคุณนายกฯทำให้มีอากาศหายใจ ‘ชาวสันกำแพงรักนายกฯเศรษฐารอเงินดิจิทัล 10,000 บาท อยู่นะจ๊ะ , รักนายกฯเศรษฐา , ซอฟพาวเวอร์อำนาจแห่งความสร้างสรรค์ เพื่อสรรสร้างเศรษฐกิจไทย“

จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายชาวสันกำแพงที่มารอต้อนรับ พร้อมถือป้ายรูปน.ส.แพทองธารด้วยโดยชาวสันกำแพงระบุอีกว่า ”เรารอเงินดิจิทัลอยู่นะคะ“ เรียกเสียงปรบมือจากผู้มาร่วมงาน โดยนายกฯยิ้ม พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนทักทายถ่ายรูปเซลฟี่กับชาวบ้านที่สวมผ้าสันกำแพงมาต้อนรับ 

ต่อมานายกฯเยี่ยมชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์โอทอปของชาวสันกำแพง โดยช่วยหนึ่งนายกฯ ได้เขียนชื่อตนเองเป็นที่ระลึกบนร่มผ้า ซึ่งร่มผ้าถือเป็นเอกลักษณ์ชาวสันกำแพง ก่อนที่นายกฯ จะเซ็นชื่อบนร่มกระดาษสาสีแดง

ต่อมานายกฯ เยี่ยมชม เยี่ยมชมการเขียนลายบนศิลาดล ซึ่งได้มีการนำเครื่องปั้นดินเผาช้าง มาให้นายกฯเขียนชื่อ ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเป็นศิลาดล   พร้อมอธิบายถึงลวดลายบนตัวช้าง ซึ่งมีตัว S  บนตัวช้าง มีความหมายคือ “เศรษฐา” และช้างหมายถึงความโชคดี  เพื่อที่ท่านจะได้นำความสุขให้กลับมาสู่ชาวไทย และช้างตัวนี้มีความสง่างามโดยภายหลังเคลือบศิลาดลแล้วจะฝากผู้ว่าฯเชียงใหม่ไปมอบให้นายกฯ จากนั้นได้มอบข้าวต้มมัดนายกฯ โดยระบุว่า “ทำด้วยหัวใจของชาวสีนกำแพงให้นายกฯได้ชิม”

จากนั้นนายกฯ ร่วมรับฟังแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ด้วย Soft Power พร้อมกล่าวว่า วันนี้ทีมงานจัดระดับงานได้ดีมาก เดินเข้ามาแล้วมาเจอพิพิธภัณฑ์ ได้มาดู พูดคุยทราบวิธีการผลิต ซึ่งแตกต่างจากหน้าทำเนียบฯ ได้มาฟังเด็กรุ่นใหม่ เยาวชน ถือเป็นนิมิตหมายอันดี และจังหวัดเชียงใหม่ก็เหมือนเมืองหลวงของเพื่อไทย 

นายกฯ กล่าวว่า การตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เดินเข้ามาผลิตภัณฑ์สวยมาก โดยดูจากแววตาและสีหน้าทุกคนมีความตั้งใจทำงานและเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ตัวเองอย่างดีเลิศ และเข้าใจความต้องการของตลาดด้วย แต่การที่เราเข้าใจตลาดและทำสินค้าที่ดีออกมาบางครั้งทั่วโลกยังไม่ทราบถึงข้อดีผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคนที่เกี่ยวข้องกับซอฟพาวเวอร์ของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยประจำทุกๆประเทศ เน้นย้ำความสำคัญการเป็นคู่พาณิชย์ท ความสำคัญของการตลาดในต่างประเทศ ซึ่งเรามีสินค้าดีเราควรต้องเอาไปสร้างตลาดสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

นายกฯ กล่าวว่า ตนเคยคุยกับรัฐมนตรีอยากหาพื้นที่ในกรุงเทพฯ เพื่อจัด OTOP ให้มีโอกาสไปเผยแพร่ เหมือนกับมาทีเดียวแล้วเห็นหมด โดยคำนึงถึงรายจ่ายที่ไม่ควรจะต้องมี จะมีการจัดสถานที่ ดีไซน์หน้าร้านให้ โดยจะมีการเชิญผู้จัดต่างประเทศเข้ามาเยี่ยมชมด้วย โดยเฉพาะทูตพาณิชย์ของไทยที่ประจำต่างประเทศ ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา จนเดินทางไปหลายประเทศ พยายามไปขายสินค้า เราอยากไปเปิดตลาดใหม่ๆ ซึ่งพวกท่านจะได้ขายสินค้าเป็นความหวังคุ้มกับแรงบันดาลใจของทุกคน รัฐบาลนี้เป็นห่วงและอยากส่งเสริมให้พวกท่านมีศักยภาพในเวทีโลก 

“สำหรับเรื่องของแหล่งทุน ก็ต้องเอาหลักการคิด การแข่งขันมาด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆจะยื่นเอาเงินให้อย่างเดียว พวกท่านก็ต้องช่วยตัวเอง ต้องมีการแข่งขัน หากสินค้าดีก็ต้องมีการแข่งขัน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องช่วยสนับสนุนให้พี่น้องมีแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ไม่ได้ไปยืมเงินจากหนี้นอกระบบ หรือเงินนอก ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำตรงนี้ให้ได้ อีก 2 สัปดาห์ตนจะไปญี่ปุ่น เราก็จะไปเชิญตัวแทนผู้ประกอบการไปดูว่าเขาทำอะไรบ้าง พวกท่านทราบอยู่แล้วว่า แพคเกจจิ้งของประเทศญี่ปุ่นสวยมาก” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีการสะดุดจากสถานการณ์โควิด และไม่สามารถการันตีได้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ถือเป็นการทำลายโอกาส ฉะนั้นความพร้อมทางออนไลน์มาร์เก็ตติ้งเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องทำให้พวกท่านมีความหวังและแรงบันดาลใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องหนึ่งของรัฐบาลนี้ เราเพิ่งเข้ามาบริหารจัดการได้ 2-3 เดือนก็จะพยายามกลับมาอีก ด้วยมีข้อเสนอแนะและอยากจะพาท่านไปสู่เวทีโลกในอีกหลายๆประเทศ หน้าที่ของรัฐบาลสร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้กับทุกท่านมีขวัญและกำลังใจในการที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน