เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ส่งหนังสือจี้อัยการ ขอให้เร่งนำตัว ทักษิณ ชินวัตร ส่งฟ้องศาล เตรียมเดินหน้าเคลื่อนไหวทำกิจกรรมเวทีปราศรัย รณรงค์ให้ทักษิณกลับเข้าเรือนจำ รับโทษ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 พ.ย.66 นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และนายนัสเซอร์ ยีหมะ พร้อมทีมงาน ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอให้เร่งนำตัว นช ทักษิณ ชินวัตร ส่งฟ้องศาล ตามที่อัยการสูงสุดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนซึ่งมีกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกับพนักงานอัยการ ได้ทำการสอบสวนความผิดนายทักษิณ ชินวัตร ว่าได้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่
ต่อมามีมติจากคณะกรรมการสอบสวนสรุปความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร และอัยการสูงสุด ก็มีมติให้สั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อ วันที่ 6 ตุลาคม 2560 ไปแล้วนั้น จึงเป็นที่ปรากฏชัดเจนว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับโทษเป็นผู้ต้องขัง และอ้างการใช้สิทธิ์เป็นผู้ป่วย
นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตรได้ปรากฏตัวให้เห็นชัดเจนหลังจากหลบหนีคดีไปหลายปี ทั้งเป็นกรณีที่ถือว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร มีที่อยู่ที่สามารถติดตามตัวได้อย่างชัดเจน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในการนำตัวส่งฟ้องต่อศาลให้ดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ดังนั้น คปท.เห็นว่า คดีนี้มีมติจากอัยการสูงสุดเรื่องเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว และผู้ต้องหาก็อยู่ภายใต้การควบคุมตัวจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งสามารถติดตามตัวได้อย่างง่ายดาย จึงขอ ให้เร่งนำตัว นช.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นำตัวส่งฟ้องศาลโดยเร่งด่วน ทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้นและเลือกปฏิบัติ
นายพิชิต ไชยมงคล กล่าวถึงพฤติกรรมของนายทักษิณที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย แต่ยังไม่ได้กลับเข้ารับโทษภายในเรือนจำ เป็นเวลา 99 วันแล้วที่อ้างป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และกรณีที่คปท.ต้องมาที่อัยการสูงสุด เพราะประเด็นนี้มติของอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องนายทักษิณไปตั้งแต่ปี 2560 เป็นระยะเวลานานกว่า 6 ปีปัจจุบันในทักษิณปรากฏตัวชัดเจน และอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ แต่อัยการยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาก่อนหน้านายทักษิณรวมถึงยังไม่สามารถนำตัวนายทักษิณมาฟ้องต่อศาลได้ เราจึงต้องมาจี้เพื่อให้ดำเนินการ โดยหลังจากนี้ก็จะไปเคลื่อนไหวที่โรงพยาบาลตำรวจและทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถาม อีกทั้งจะมีการจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อรณรงค์ให้นายทักษิณกลับเข้ารับโทษภายในเรือนจำ ท้ายที่สุดแล้วหากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมยึดกับกฎหมายเป็นหลักหน่ายทักษิณก็จะต้องกลับเข้ามาภายในเรือนจำโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
ด้านนายนัสเซอร์ ยีหมะ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาระบุไม่ทราบว่านายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 หรือไม่ ตนมองว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ในฐานะรองนายกที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อกระบวนการยุติธรรม เมื่อนักโทษคนนึงหายตัวไปโดยมาบอกว่าไม่รู้อยู่ที่ไหน ตนคิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ จะต้องออกมาตอบคำถามนี้ เพราะสังคมตั้งคำถามมาตั้งแต่แรกแล้วว่าแท้จริงแล้วนายทักษิณอยู่ที่ไหนกันแน่ แอบอ้างว่าป่วยแล้วบอกว่าอยู่ชั้น 14 ซึ่งประเด็นนี้คปท.ก็จะต้องไปติดตามอีกครั้ง อยากฝากทางกรมราชทัณฑ์ให้ออกมาแถลงอาการป่วยของนายทักษิณที่อ้างว่าป่วยว่าปัจจุบันนี้อาการหายดีหรือยัง อาการเป็นอย่างไรบ้างเพราะผ่านมานานกว่า 99 วันแล้ว หากหายดีก็ขอให้รีบนำกลับเข้าเรือนจำ
ขณะที่ นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้มารับเรื่อง และกล่าวว่า จะรับเรื่องไว้และส่งต่อให้อัยการสูงสุด ได้มอบหมายสั่งการว่าสำนวนตอนนี้อยู่ที่ไหนอย่างไร อยู่ในขั้นตอนใด เพื่อดำเนินการต่อไป