หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2566  ตอกย้ำความเป็นนายกฯมือใหม่หัดขับ ...*...

สำหรับ “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีคลัง เป็นอีกครั้ง ที่ โชว์ความเป็นนายกฯมือใหม่หัดขับ หลุดปากเรื่อง ตั๋วฝากแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ ของ สส.เพื่อไทย ว่า มีทั้งคนผิดหวังและสมหวัง แต่ ผิดหวังมากกว่า เพราะ ขอกันมามาก เข้าตำรา ปลาหมอตายเพราะปาก หาก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯรับฟ้อง ตามคำร้องที่ว่า ห้าม สส. และ นายกรัฐมนตรี ก้าวก่าย แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ งานแรกเข้าทันที ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ...*...

ประสา บารอน ย้อนเวลาหาข่าว ช่วงเย็นวันอังคารที่ 21 ที่ผ่านมา สัปดาห์ที่แล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน ไปร่วมประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ทุกครั้งที่ผ่านมา จะเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม แต่ครั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ตั้งใจ ให้สื่อมวลชนได้ยิน เพื่อ โชว์ผลงานการไปประชุมเอเปก ที่อเมริกา ตามประสากลอนพาไป เผลอพูดเลยไปถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับ ลืมไปว่า สื่อมวลชนตั้งกล้อง อัดคลิปอยู่เต็มห้อง ให้หลังไม่ถึงชั่วโมง ทั้งคลิปทั้งข่าวแพร่กระจายไปทั่วโซเชียล อย่าไปโทษคนใน ไม่ใช่เกลือเป็นหนอน ฝีมือสื่อมวลชนล้วนๆครับ ...*...

เป็นเพราะสื่อตั้งคำถาม เป็นเหตุให้ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และ อดีตประธานรัฐสภา เป็นนักการเมืองอาวุโสสูงสุด ถึงให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯเศรษฐา ทวีสิน เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ (ซึ่งก็จริง) ต้องระมัดระวังคำพูด ถ้าไม่ระวังมีสิทธิติดคุก ที่นี่ บารอน มองว่า เป็นคำเตือนด้วยความหวังดี ไม่น่าที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.เพื่อไทย รุ่นลูกรุ่นหลาน ใช้วาจาก้าวร้าวตอบโต้ แถมยังก้าวก่ายไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ไม่ได้ว่าอะไรพรรคเพื่อไทยเลยครับ ...*...

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อดีต ผบ.ตร. ไปไกลถึงขั้น ออกมาเรียกร้องให้ นายกฯเศรษฐา ลาออก ประสา บารอน ขอบอก เรียกร้องให้นายกฯพลเรือนลาออก ขนาดจนตรอก ไม่มีทางออกจริงๆ ยังแค่ยุบสภา ตรงข้ามกับ รัฐบาลเผด็จการ ที่ มีทหารเป็นนายกรัฐมนตรี ยังพอมีให้เห็น หลายท่านแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง  อาทิเช่น พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ แม้กระทั่ง พล.อ.สุจินดา คราประยูร จนถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หลุดจากเก้าอี้นายกฯ ด้วยการลาออก จะมีใจประชาธิปไตย ต้องมีวินัยอยู่ในหัวใจด้วยครับ ...*...

ไม่ใช่แค่ ตัวเลขอุปโภคบริโภคสูงถึง 8.1 %  ที่ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาฯสภาพัฒน์ แถลงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเท่านั้น นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังออกมาแถลงอีกว่า การส่งออกเดือนตุลาคม ขยายตัวถึง 8%  ด้วยมูลค่า 23,578 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 84,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 13 เดือน ...*...  

ก็เหลือแต่ตัวเลขการใช้จ่ายภาครัฐ ตัวเดียวเท่านั้น ที่ลดลง แม้แต่ ตัวเลขการจ้างงานก็ดีขึ้น ทำให้ ตัวเลขการว่างงานต่ำมากไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ แสดงว่า เศรษฐกิจไทยไม่วิกฤติ น่าที่ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ถือโอกาสแถลง ยกเลิก พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท อาจจะช่วยให้ ต่างชาติหวนกลับเข้าตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงที่ นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ตามที่นายกฯไปชักชวนเอาไว้ ไม่มีนักลงทุนชาติไหนกล้ามาลงทุนในประเทศที่มีวิกฤติเศรษฐกิจดอกครับ ...*...

ที่นี่ บารอน ก็ไม่เข้าใจ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เหตุใด ไม่ทำ พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 66 – 67 ทันที ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมสภาฯที่ผ่านมา ไม่งั้นป่านนี้ ก็ผ่านวาระ 1 ช่วงปิดสมัยประชุม จะได้ตั้งกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ พอเปิดประชุมสภาฯในวันที่ 12 เดือนหน้า ก็เข้าพิจารณาวาระ 2 – วาระ 3 ปลายเดือนมกราคม หรือ กุมภาพันธ์ ปีหน้า รัฐบาลก็มีงบประมาณปกติใช้ แก้ปัญหาตัวเลขการใช้จ่ายภาครัฐ ที่เป็นตัวถ่วงตัวเดียว ทำให้ตัวเลขจีดีพีต่ำ ...*...

ยังคงต้องชม นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่เรื่องเดียวคือ ความขยัน และ ไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย วันจันทร์ที่ผ่าน ช่วงเช้าล่องใต้ไป ด่านสะเดา สงขลา พบกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย เจรจาการค้า การท่องเที่ยว การคมนาคมชายแดน และ ความมั่นคง ตกเย็น ไปร่วมงานลอยกระทง ที่ อุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย กลางดึก บินกลับกรุงเทพฯ เพื่อ เป็นประธานการประชุม ครม. เช้าวันอังคาร ตามแผนการเดิมยังจะ ขึ้นเหนือไปหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ น่าเหนื่อยแทน เสี่ยนิด จริงๆ ...*...

พูดถึง การท่องเที่ยวไทย ของ นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่ เข้ามาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะ ด้านชายแดนสงขลา นราธิวาส ว่ากันว่า วันละหลายหมื่นคน มากเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่านักท่องเที่ยวจีน ที่ตัวเลขลดลง ถ้า การคมนาคมสะดวก ปลอดภัย ที่นี่ บารอน มั่นใจว่า จำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียจะเข้าไทยมากกว่านี้ครับ ...*...

สิ่งแรกที่ควรทำอย่างยิ่ง คือ แผนการสร้างถนน รถไฟรางคู่ ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ครับ ต้องเริ่มสร้างจากปลายทางขึ้นมา ทั้ง ถนน และ รถไฟรางคู่ จุดเริ่มต้นก่อสร้าง ต้องสร้างจากชายแดนมาเลเซียขึ้นมา ไม่ใช่สร้างจากกรุงเทพฯลงใต้ คนมาเลเซียชอบเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่ เสร็จเร็วเท่าไหร่ หาดใหญ่ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ...*...

เช่นเดียวกันครับ รถไฟความเร็วสูง ก็ควร เริ่มสร้างจากชายแดนหนองคายลงมา เพื่อที่ จะได้ส่งสินค้าการเกษตรผ่านลาวไปจีนได้สะดวกรวดเร็วขึ้น จากหนองคาย ถึงอุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา ย่อมเสร็จเร็วกว่าสร้างจากกรุงเทพฯขึ้นไปหาหนองคาย ขนถ่ายสินค้าที่ไปจากกรุงเทพฯไปส่งที่สถานีอุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา เพื่อส่งต่อไปหนองคายข้ามลาวไปจีน

ที่มา:บารอน (29/11/66)