วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดระนอง ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านสองแพรก อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดระนอง ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 610 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และมอบแก่ราษฎร ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดระนอง ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านสองแพรก อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบกับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี จำนวน 5 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา
ในการนี้ องคมนตรี ได้รับฟังและทบทวนการเชิญพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการป้องกันภัยและเมื่อเกิดภัยพิบัติ อาทิ การแจ้งเตือน การวางแผน การซักซ้อมแผน และการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงาน ในการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆแก่ราษฎรในที่ประชุม เพื่อให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้น้อมนำไปปรับให้เข้ากับแผนในการปฏิบัติของแต่ละหน่วย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง ได้รับฟังรายงานการเกิดเหตุอุทกภัย การแก้ไข รวมทั้งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ฯ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
จังหวัดระนอง ได้รับอิทธิพลจากความกดอากาศสูงกำลังแรงแพร่ปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอต่างๆ เมื่อวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2566 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และลมกระโชกแรง ส่งผลทำให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมลำห้วย คลอง โรงเรียน พื้นที่ทางการเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ ได้รับความเสียหายในพื้นที่อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น และอำเภอกะเปอร์ รวม 3 อำเภอ 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน และประชาชนได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 610 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆเป็นการเร่งด่วนแล้ว
