วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่าถูกโดนด่าอยู่คนเดียวว่าทำงานล่าช้าจากกรณีการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยที่กระทรวงการคลังยังไม่ส่งเรื่องมาสอบถาม ว่า ต้องขอโทษคณะกรรมกฤษฎีกา ที่การให้สัมภาษณ์ของตนทำให้เกิดความไม่เข้าใจและกระทบการทำงานของคณะกรรมการกฤษฎีกา และเป็นไปตามที่นายปกรณ์พูด ตนพูดว่าในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้นั่งอยู่ในที่ประชุมด้วย โดยสาระสำคัญที่ตนตอบวันนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่บอกว่าถ้ายังมีความไม่ชัดเจนหรือความไม่สบายใจต้องรับผิดชอบร่วมกัน และกฤษฎีกาอาสาไปดูข้อกฎหมายว่ามีอะไรที่ผิดหรือไม่ผิด และที่ประชุมก็เห็นด้วยที่ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดู สิ่งที่ตนให้สัมภาษณ์หมายความว่าให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดู และรับทราบแล้ว
“ผมไม่ได้หมายความไปถึงเรื่องเอกสารรายละเอียด จึงต้องขอโทษที่ทำให้ทัวร์ไปลงท่าน จริงๆ ท่านปรารถนาดีที่จะช่วยเราคิดช่วยเราทำและอยากให้ทุกคนสบายใจในการตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ เสียงที่คัดค้านหรือเห็นต่างก็พยายามทำให้ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสบายใจ” นายภูมิธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าที่สุดแล้วผลที่ออกมาหลังจากผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา ทุกคนจะสบายใจ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องยืนยันข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร จึงจะมาพิจารณากัน หากต้องการให้หมดข้อสงสัยต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดู เมื่อมีการตีความชัดเจนแล้วทุกคนจะสบายใจ เพราะที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลได้พิจารณาและมีมติออกมา ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบและรับทราบสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความสบายใจกันทุกฝ่าย
เมื่อถามย้ำว่า กระบวนการยกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทางปฏิบัติเขาดำเนินการอยู่ อย่าเพิ่งไปถึงรายละเอียด ขั้นตอนตอนนี้เราอยากให้รู้ว่าไปได้และทุกคนสบายใจว่าสิ่งที่รัฐบาลเลือกทำไม่ผิดวัตถุประสงค์และดำเนินการได้ตามสิ่งที่เราจะทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ