วันที่ 23 พฤศจิกายน  2566 นายนาย ปลุวัชร ซาบุ อายุ 30 ปี เจ้าของเพจรับซื้อตั๋วจำนำทอง-ปทุมธานี  ได้โพสต์เตือนภัยมีใจความว่า เตือนภัย!นะครับ ทางเรารับซื้อจริงจ่ายจริง แต่ถ้าเกิด ของที่ไปจำนำเป็นของปล่อย เราจะดำเดิน คดีและคืนของทันทีนะครับ #อย่าสันหาทำกันนะครับ #นำของปลอมไปจำนำ #บางโรงรับจํานําบางร้านก็อาจจะไม่แข็งในการดู ถ้าเราโดนจับได้จะมีคดีแน่นอน #ขอบคุณครับผม  จากนั้นสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ อ.ธัญบุรี  จ.ปทุมธานี สอบถามความจริงเกี่ยวกับกับกรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเช่นไร

    จากการสอบถาม  นาย ปลุวัชร ซาบุ กล่าวว่า ตนทำเพจนี้เพื่อรับซื้อและไถ่ถอนตั๋วจำนำที่จำนำในร้านทองพื้นที่ต่างๆและบริเวณใกล้เคียง จ.ปทุมธานี  ที่กำลังจะถูกร้านทองนั้นยึด  อยู่มาวันหนึ่งได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 25 ปี ชาว อ.แปดริ้ว  จ.ฉะเชิงเทรา  ได้ติดต่อมายังเพจของตนและนัดไถ่ถอน ในวันที่21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนจึงไปตามนัดหมายและถ่ายถอนตั๋วจำนำทองกับหญิงสาวรายดังกล่าวที่ร้านแรกโดยใช้เงินไปทั้งหมด 580,000 บาท ตนก็ไม่เอะใจอะไร จากนั้นก็หญิงสาวรายเดิมก็พาตนไปไถ่ถอนตั๋วจำนำร้านที่ 2 พอดีเจ้าของร้านทองได้ถามเราว่าชอบสะสมจี้ทองหรอ  ตนเลยตอบว่าไม่ตนเพียงซื้อตั๋วจำนำต่อจากเขาเท่านั้นเอง 

จากนั้นเจ้าของร้านทองบอกกับตนว่าถ้าไถ่ถอนเสร็จมีอะไรจะบอก พอตนไถ่ถอนเสร็จและทองได้มาอยู่กับตนแล้ว  จากนั้นเจ้าของร้านทองให้ตนดูรูปว่าร้านเพื่อนของเขาโดนทองยัดไส้มา  ตนจึงเอะใจและให้เจ้าของร้านทองนั้นเผาทองและตัดจี้ทองนั้นทันที ปรากฎว่าด้านในจี้ทองนั้นเป็นทองยัดไส้จริงๆด้านในมีตระกั่ว ทองแดงและเศษโลหะต่างๆที่ไม่ใช่ทองคำ  จากนั้นตนและเจ้าร้านทองนั้นรีบปิดประตูร้านและควบคุมหญิงสาวรายดังกล่าวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที  ส่วนตนได้ของเงินที่ไถ่ถอนคืนจากร้านทองทั้ง2 ร้าน ร้านทองก็คืนเงินให้ทั้งหมดและดำเนินคดีกับหญิงสาวรายนี้ต่อไป ส่วนน้ำหนักทองที่หายไปเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น จี้หัวใจที่ถ่ายคลิปนั้นน้ำหนักอยู่ที่ 3 บาท แกะออกมาเหลือทองเพียง 1 บาทเท่านั้นและจะลดลงมาตามขนาดของทองแต่ละชิ้น  ตอนนี้ตนขอบคุณร้านทองร้านที่2 ด้วยที่บอกตนไม่งั้นตนต้องเสียหายยอดเงินประมาณ 2 ล้านบาทเลยทีเดียวเพราะว่าหญิงสาวรายนี้ได้ตะเวนจำนำทองและก่อเหตุในพื้น จ.ฉะเชิงเทรา อยู่หลายร้าน ฝากถึงท่านใดที่ทำธุระกิจเช่นเดียวกับตนให้ดูดีๆช่วงนี้มิจฉาชีพเยอะและมาทุกรูปแบบ