ลุ้นศาลอาญาทุจริต รับฟ้อง“ไตรรัตน์” ร้อง 4 บอร์ด กสทช.กรณีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกและเปลี่ยนรักษาการเลขาธิการ
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า จากเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ผู้สมัครเป็นเลขาธิการ กสทช. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ที่ 1 ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต ที่ 2 รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย ที่ 3 รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ที่ 4 และ ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ ที่ 5 เป็นจำเลย ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 155/2566 ใน ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 สืบเนื่องจาก การตรวจสอบการสนับสนุนค่าใช้จ่ายซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และ เปลี่ยนรักษาการเลขาธิการ กสทช. แทนตัวเอง โดยมิชอบ
ตามปกติการทำหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินการให้การทำงานภายใน กสทช. เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นหน้าที่ คณะกรรมการ กสทช. อยู่แล้ว เพราะมีเหตุการณ์ที่ประชาชนไม่สามารถรับชมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ แม้ กสทช.จะสนับสนุนเงินไป ที่ กกท. แต่ด้วยเหตุใด โจทก์ จึงมาฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและ โจทก์มิได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อไต่สวนก่อน แต่ประสงค์จะดำเนินคดีด้วยตนเองที่ศาลอาญาทุจริต เพราะกระบวนการในศาลอาญาทุจริตนั้น ผู้ถูกกล่าวหายังไม่สามารถจะให้ถ้อยคำหรือเข้ามาชี้แจงใดๆ ได้ จะเป็นเรื่องที่ศาลฯ จะสอบถามประเด็นและตรวจฟ้องกับโจทก์เท่านั้น อาจจะรับฟ้องไว้พิจารณาก่อน ซึ่งอาจส่งผลให้จำเลยทั้ง 5 กลายเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับโจทก์ และนำไปสู่การที่ คณะกรรมการ กสทช. ทั้ง 4 ท่าน ไม่มีสิทธิลงมติในการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. ซี่งประธาน กสทช. พยายามเสนอชื่อ โจทก์ นาย ไตรรัตน์ มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งหากศาลอาญาคดีทุจริต มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณา ในการประชุมวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ อาจจะมีวาระแทรก เรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. เข้ามาทันที และอ้างประเด็นกรรมการ 4 ท่านมีส่วนได้เสีย โดยนายไตรรัตน์ ก็จะได้รับการลงมติแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ กสทช. จากกรรมการอีก 3 ท่านซึ่งถือเป็นเสียงข้างน้อยได้