ตร.แฉแก๊งทรชนตั้งองค์กรเถื่อนเก็บนร.ช่าง

ตำรวจรวบเพิ่มอีก 1 คนร้ายร่วมก่อเหตุยิงนศ.เทคนิคเสียชีวิต "ผบช.น."เผยมือปืนเป็นอดีตนศ.สถาบันแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี ชักชวนเพื่อนอีก 2 คน ดื่มน้ำกระท่อม ก่อนออกไปก่อเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 1 คน ยังหลบหนี ขณะที่"สืบนครบาล"ควบคุมกลุ่มผู้ต้องหายิง"นศ.อุเทนถวาย"และครูเจี๊ยบ"ได้แล้ว พบมีผู้ร่วมก่อการนับ 10 คน ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องสถาบันคู่อริ มั่วสุมวางแผนยิง ด้านบช.น."เผยแก๊งทรชนรวมตัวสร้างองค์กรเถื่อนเก็บนร.ช่าง ติดรูปคนตายปลุกใจ

 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ไตรภพ แพทย์รัตน์ ผกก.สน.ดุสิต เปิดเผยความความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิง นายพงษ์ภีระ หรือน้องภู่ อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช.ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคนิคดุสิต เสียชีวิต ภายในซอยระนอง 2 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบชุดสืบสวนนครบาลได้จับกุมตัว นายอัครพล ศิริเมฆานนท์ หรือ ยีนส์ อายุ 22 ปี บุคคลตามหมายจับ ใน 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อืน, มีอาวุธ ปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืน ติดตัวไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดย ไม่ได้รับอนุญาต,ยิง ปีนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และพาอาวุธ(อาวุธปืนและมีด)ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร / จับได้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งนายอัครพล เป็นคนที่ขับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า NMAX สีเทา คันที่ใช่ในการก่อเหตุ

 จากการสอบปากคำขยายผล รวมถึงการลงพื้นที่ทำให้เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 21 พ.ย. สามารถจับกุม นายธนากร หรือ อ๊อฟ อายุ 18 ปี ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธ ปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืน ติดตัวไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดย ไม่ได้รับอนุญาต

 ทั้งนี้ นายธนากรคือคนที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อีกคัน และเคยเป็นนักศึกษาเทคนิคแห่งหนึ่งย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยสามารถไปจับกุมได้ที่สถานที่สาธารณะแห่งหนึ่งในพื้นที่นครบาล ซึ่งตัวของนายธนากรคือคนที่ถูกผู้เสียชีวิตใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย จากการสอบสวนเบื้องต้น ยังเป็นการสอบเรื่องพฤติการณ์การก่อเหตุ ตัวของผู้ต้องหายังไม่พูดถึงมูลเหตุจูงใจ ซึ่งจะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้ และยังบอกอีกว่าวันนี้อาจจะได้ตัวผู้ก่อเหตุครบทั้งหมด

 สำหรับนายธนากรนั้น ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของร่องรอยบาดแผลว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด ยังต้องรอผลตรวจก่อน เช่นเดียวกับนายอัครพลเหมือนกันยังต้องรอผลตรวจทางร่างกายเสียก่อน โดยในช่วงเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปทำการตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมาประกอบสำนวนในคดี

 ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมสอบปากคำผู้ก่อเหตุด้วย พร้อมทั้ง กล่าวว่า  นายอัครพลยอมรับว่าเป็นคนยิงเพียงคนเดียว คดีนี้ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างสถาบัน เพราะนายอัครพลไม่มีสภาพเป็นนักศึกษาแล้ว มีอาชีพส่งพัสดุให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น เป็นอดีต นศ.สถาบันแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ดื่มน้ำกระท่อม ชักชวนกันมา แซว หาเรื่องกับเด็กที่จะเดินไปที่เทคนิคดุสิต ระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิตเดินอยู่ และมีเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์มารับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามทัน ก่อนเกิดการชุลมุนต่อสู้กัน นายอัครพล ให้การว่า เพื่อนชื่อนายออฟคนซ้อนท้ายถูกแทงบาดเจ็บ ทำให้นายอัครพลใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิต สำหรับมูลเหตุจูงใจได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนแล้ว และทั้งสองฝ่ายไม่ได้รู้จักกันมาก่อน และในช่วงเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมีปืนคนละ 1 กระบอก

 ผบช.น. กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สามารถรวบรวมพยาน อาวุธปืน เหลือเพียงติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ หากผู้ต้องหาที่เหลือจะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาแต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็จะดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนกฎหมาย

 ส่วนในกรณีคดี นศ.สถาบันคู่อริไล่ยิงกลุ่ม นศ.มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย บริเวณธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. ทำให้ นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งรักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ลูกหลงยังไปถูก น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมาพอดี เข้าหน้าผากถึงกับเสียชีวิต ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 ความคืบหน้าล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังควบคุมกลุ่มผู้ต้องหายิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบ จำนวน 5-6 คน มีทั้งอดีตศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันสถาบันคู่อริ ได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านรองเมือง ภายหลังจากไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่บก.สส.บช.น. และกำลังอีกส่วนหนึ่งไปค้นสถานที่เป็นแหล่งมั่วสุม ที่ย่าน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
 

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องหามีนับ 10 คน เป็นทั้งอดีตศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันสถาบันคู่อริ มีการวางแผนในการก่อเหตุและหลบหนี โดยภายหลังคนร้าย 2 คนก่อเหตุ ได้นำรถ จยย.ขึ้นรถยนต์แวน เพื่ออำพรางการหลบหนี
 
มีรายงานอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ปัญหาของตำรวจคือขณะก่อเหตุ คนร้ายสวมชุดมิดชิดและสวมหมวกกันน็อกปิดปังใบหน้า เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจหาดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อไป
 
วันเดียวกัน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยฆ่าน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ว่า ที่ผ่านมาตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนขอศาลออกหมายจับ พร้อมเข้าตรวจค้นจับกุมช่วงเช้า โดยมีผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังคงหลงเหลือบุคคลหลบหนี ก็กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ลักษณ์เพื่อความชัดเจนว่าใครคือมือปืน เนื่องจากไม่มีใครยอมรับสารภาพ

 โดยผู้ต้องหาในคดีนี้ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีเก่าเมื่อช่วงต้นปีที่ยิงปืนใส่นักเรียนต่างสถาบัน ที่สำคัญยังพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้เรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพใด แต่มีแกนนำสร้างกลุ่มตามความเชื่อขึ้นมา และเช่าที่พักอาศัยร่วมกัน พร้อมหาแนวร่วมนักศึกษาสถาบันต่างๆ ออกมาอยู่ในโลกเสมือนไม่ได้อยู่ในโลกความเป็นจริง เป็นการสร้างเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา มีการสร้างแรงฮึกเหิมปลุกใจในกลุ่มด้วยการนำรูปผู้เสียชีวิตต่างสถาบันมีติดไว้ในที่ซ่องสุ่มของกลุ่ม และจะถอดรูปแบบการก่อเหตุในแต่ละครั้งเพื่อพัฒนาการลงมือและการหลบหนี ซึ่งที่ผ่านมายังได้สร้างสถานการณ์เพื่ออำพรางคดีลักษณะเดียวกันที่ย่านมีนบุรี 
 
ผบช.น.กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่งกำหนดมาตรการดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศ ยืนยันไม่หนักใจแม้ชั้นศาลอาจตัดสินยกฟ้องผู้ต้องหา