วันที่ 22 พ.ย. 2566 เวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า หรือ  ธ.ก.ส. สำนักงานขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ ถ.มะลิวัลย์ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายกัมปนาท ยุทธศิลป์ ผอ.ศูนย์ชั่งตวงวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) พร้อมด้วยนายอิทธิพล ชลธราศิริ ส.ส.ขอนแก่น เขต2 พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ตรวจเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกสินค้าการเกษตรเพื่อป้องกันการกระทำผิดหรือการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในช่วงฤดุการเก็บเกี่ยวในระยะนี้

โดย นายกัมปนาท ยุทธศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ชั่งตวงวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) กล่าวว่า การตรวจสอบเครื่องชั่งรถบรรทุกและเครื่องวัดความชื้นข้าววันนี้ ซึ่งเครื่องชั่งรถบรรทุกสินค้าเกษตรตามกฎหมายชั่งตวงวัดจะมีการตรวจสอบทุกปีและจะมีการต่อภาษีทุก 2 ปี เป็นการตรวจสอบมาตรฐานเพื่อให้เกษตรกรมั่นใจในเรื่องน้ำหนักและเครื่องวัดความชื่นข้าว ซึ่งในการตรวจสอบเครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื้นหากพบว่าผิดหรือผิดปกติจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท แต่ถ้าเครื่องชั่งหรือเครื่องวัดความชื่นนั้นมีการแก้ไขดัดแปลงเพื่อให้เครื่องชั่งนั้นเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 280,000 บาท 

"ขอนแก่นจะมีเครื่องชั่งรถบรรทุกที่ใช้รับซื้อสินค้าเกษตรทั้งอ้อย ข้าว และมันสำปะหลัง มีอยู่ประมาณ 1,200 กว่าเครื่องจะสุ่มกลุ่มเครื่องชั่งที่มีความเสี่ยงที่จะเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรการสุ่มตรวจจะวิ่งเป็น 2 สาย จัดโซนการวิ่งตรวจในช่วงฤดูกาลซื้อขายข้าว ซึ่งในระยะนี้จะมีการตรวจทุกสัปดาห์ โดยจะตรวจได้วันละ 7-8 เครื่อง ซึ่งเพียงพอต่อการคุ้มครองผู้บริโภคและเกษตรกรอย่างแน่นอน"นายกัมปนาท กล่าว

ทั้งนี้ นายกัมปนาท กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบที่ผ่านมาพบความผิดเรื่องหมดใบอนุญาตหมดอายุจึงทำการปรับรายละ 10,000 บาท และให้เจ้าของเครื่องชั่งไปต่อภาษีเครื่องชั่งให้เสร็จสมบูรณ์จึงจะสามารถใช้เครื่องชั่งได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามขอเตือนเจ้าของเครื่องชั่งรถบรรทุกที่รับซื้อสินค้าเกษตรในช่วงนี้ให้หมั่นดูแลเครื่องชั่งของตัวเองให้อยู่ในมาตรฐานไม่ให้เอารัดเอาเปรียบเกษตรกรเพราะโทษในการปรับหรือจับกุมมีโทษหนักและรุนแรงและจะทำเจ้าของเครื่องชั่งเหล่านั้นเสียความน่าเชื่อถือกับเกษตรกรอีกด้วย

ขณะที่ นายมนตรี  อายุ 55 ปี บ้านเหล่า ม.3 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ราคาข้าวปีนี้ถือว่าพอใจ โดยราคาข้าวหอมมะลิตันละ 13,000 บาท ข้าวเหนียวตันละ 11,200 บาท ซึ่ง ดีกว่าปีที่แล้วตันละ 1,000 บาท โดยยอมรับว่าได้ผลผลิตข้าวตามที่ต้องการและราคาก็ดีกว่าปีที่แล้วและดีกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ยังไม่ได้อาจจะได้ช้าที่สุดภายในสินเดือนนี้แต่ก็รอไม่ได้จึงนำข้าวมาขายก่อนเพื่อให้ได้ค่ารถเกี่ยวคงรอเงินจากทางรัฐบาลไม่ไหวเพราะช้ามากปีนี้ แต่ก็ได้ยินว่าจะยังให้เหมือนเดิมแต่คงต้องรออย่างมีความหวังเพราะเงินส่วนนี้จะช่วยเกษตรเรื่องค่ารถเกี่ยวข้าวช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวได้เป็นอย่างมากจึงขอให้รัฐบาลจ่ายเงินส่วนนี้ให้ไวที่สุด