กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือนผู้ทำบัญชีให้ดำเนินการต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีประจำปี 2567 และตรวจสอบจำนวนชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี หรือชั่วโมง CPD ให้ครบ 12 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อคงสถานะการเป็นผู้ทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี สร้างมาตรฐานนักบัญชีไทยให้น่าเชื่อถือตามหลักสากล และเป็นผู้ช่วยธุรกิจวิเคราะห์การเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมสะท้อนความโปร่งใสให้ธุรกิจไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ทำบัญชีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะนิติบุคคลอย่างบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตามกฎหมาย จึงต้องมีผู้ทำบัญชีเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีให้เพื่อแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินตามที่เป็นอยู่ ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี ซึ่งพระราชบัญญัติการบัญชีได้กำหนดให้ผู้ทำบัญชีต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด
โดยคุณสมบัติหนึ่งของผู้ทำบัญชีคือ ต้องเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งอายุสมาชิกสภาฯ จะหมดทุกสิ้นปีปฏิทิน ผู้ทำบัญชีจะต้องต่ออายุสมาชิกสภาฯ ของปีถัดไปให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีปัจจุบัน ดังนั้น การต่ออายุสมาชิกสภาฯ ประจำปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผู้ทำบัญชีจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เพื่อจะได้ไม่ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำบัญชี และสามารถรับทำบัญชีให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยการต่ออายุสมาชิกสภาฯ สามารถดำเนินการได้ที่เว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี www.tfac.or.th
ทั้งนี้นอกจากผู้ทำบัญชีต้องคงคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำบัญชีแล้ว ยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เช่น 1) แจ้งรายละเอียดการทำบัญชีในระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรายการที่แจ้งไว้ ต้องแจ้งในระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง 2) ยืนยันรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี และยืนยันการเป็นสมาชิกวิชาชีพบัญชี ภายในวันที่ 30 มกราคมของปีถัดไป (เริ่มยืนยันตั้งแต่ 1 มกราคม เป็นต้นไป) 3) รับทำบัญชีของธุรกิจได้ไม่เกิน 100 รายต่อปีปฏิทิน และ 4) พัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี (CPD) ไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อปีปฏิทิน มีชั่วโมงบัญชีไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งชั่วโมง CPD ได้ทันทีหลังทำกิจกรรม แต่ไม่เกิน 30 มกราคมของปีถัดไป แจ้งชั่วโมง CPD ได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านทางระบบ e-Accountant ของกรมฯ หรือระบบ CPD Online ของสภาวิชาชีพบัญชี สำหรับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี ประจำปี 2566 นี้ ขอให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบดูว่าชั่วโมง CPD ของตนเองครบถ้วนแล้วหรือไม่ หากยังไม่ครบจะต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 พร้อมแจ้งชั่วโมง CPD ผ่าน 2 ช่องทางที่กล่าวมาข้างต้นไม่เกินวันที่ 30 มกราคม 2567
โดยโอกาสนี้ กรมฯ ขอย้ำเตือนให้ผู้ทำบัญชีต้องสำรวจคุณสมบัติของตนเองว่าต่ออายุสมาชิกสภาฯ หรือเก็บชั่วโมง CPD ครบถ้วนแล้วหรือไม่ รวมถึงต้องแจ้งต่อกรมฯ ให้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ หากผู้ทำบัญชีขาดคุณสมบัติ หรือไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวจะมีบทลงโทษตามกฎหมายปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และอาจประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีอีกด้วย ซึ่งกรมฯ ได้กำกับดูแลผู้ทำบัญชีอย่างเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมาตรฐานผู้ทำบัญชีไทยให้เป็นที่ยอมรับในสากล
สำหรับปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) ประเทศไทยมีผู้ทำบัญชีประมาณ 72,134 คน ซึ่งรับทำบัญชีให้ธุรกิจกว่า 800,000 ราย ดังนั้น ผู้ทำบัญชีที่มีคุณภาพย่อมส่งผลต่อคุณภาพของข้อมูลทางบัญชีและรายงานทางการเงินของธุรกิจ ผู้ทำบัญชีจึงต้องมีความรู้ ความสามารถ และอัปเดตความรู้ทางวิชาชีพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคุณภาพของงาน สร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับผู้รับบริการรวมถึงผู้ที่ใช้ผลงานของผู้ทำบัญชีด้วย” อธิบดี กล่าวสรุป
#กรมพัฒน์ #สภาวิชาชีพบัญชี #ผู้ทำบัญชี #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #พาณิชย์