"วราวุธ" มั่นใจ "ประภัตร" ไม่ใช่อดีตรัฐมนตรีเอี่ยวกลุ่มทุนขบวนการค้าหมูเถื่อน ดีเอสไอลุยตรวจสอบห้องเย็น พบถูกชิปปิ้งแอบอ้างชื่อ ทำเอกสารปลอมสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ประมง
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีอดีตรัฐมนตรีอักษรย่อ ป.ปลา เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนในขบวนการค้าหมูเถื่อน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเชื่อมโยงว่าอาจจะเป็น นายประภัตร โพธสุธน อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ได้มีการสอบถามในเรื่องนี้หรือไม่ ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย ตอนนี้ดูแค่เรื่องขอทาน กับเรื่องเล่าก์ก่าย ก็หน้ามืดแล้ว ต้องขออภัยด้วยที่ยังไม่ได้ดูในเรื่องหมูเถื่อน เมื่อถามย้ำว่า นายประภัตรน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้ามีคงเป็นข่าวไปแล้ว คอยตามดูสถานการณ์ไปก่อน ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่ากระแสข่าวที่ออกมาเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สังคมตั้งข้อสงสัย ซึ่งเราคงมีการให้บุคคลที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจง หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้กระจ่างต่อสังคมมากขึ้น
วันเดียวกัน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ, กรมปศุสัตว์, กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบบริษัท รักชัยห้องเย็น จำกัด ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าจับกุมเจ้าของบริษัทผู้ค้าเนื้อสัตว์แช่แข็งรายใหญ่ แล้วทางผู้ต้องหาให้การว่าได้นำสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ที่สั่งเข้ามานั้นมาฝากไว้ที่สถานประกอบการแห่งนี้ ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบว่าที่ห้องเย็นรักชัยไม่ได้รับฝากสินค้าแช่แข็งตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง อีกทั้งยังตรวจพบด้วยว่าเอกสารที่ทางผู้ต้องหาใช้สำแดงต่อเจ้าหน้าที่กรมประมง เป็นการปลอมเอกสารขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารที่ทางห้องเย็นมีไว้เพื่อแสดงหลักฐานอันเป็นข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ DSI อีกทั้งจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ยังเป็นการยืนยันด้วยว่า ห้องเย็นรักชัยแห่งนี้ ไม่มีการรับฝากสินค้าที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายทุกประเภท และการเข้าออกของสินค้าที่รับฝากทุกประเภทนั้นก็มีเอกสารที่แสดงอย่างถูกต้องชัดเจน
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบที่ห้องเย็นรักชัยครั้งนี้ สืบเนื่องจากการเข้าจับกุมบริษัทเฮลตี้ และกู๊ดช๊อป ไปก่อนหน้านี้ แล้วก็มีเอกสารที่ทางผู้ต้องหานำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีการฝากสินค้าที่ระบุว่าเป็นหัวปลาแซลมอน ไว้ที่ห้องเย็นรักชัยแห่งนี้ ทางดีเอสไอจึงได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งผลที่ออกมาก็ทำให้พบว่า นอกจากโรงงานแห่งนี้จะไม่มีการรับฝากสินค้าที่ผิดกฎหมายแล้ว เอกสารที่บริษัทชิปปิ้งของผู้ต้องหาได้แสดงต่อกรมประมง ว่านำสินค้าจำนวน 282 ตู้ มาฝากไว้ที่ห้องเย็นรักชัยนั้น เป็นเอกสารเท็จและมีการแอบอ้างชื่อบริษัทแห่งนี้ เพื่อนำเอกสารเท็จไปสำแดงต่อกรมประมง
จากการตรวจค้นในวันนี้ก็ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่าทางบริษัทกันตาและมายเฮ้าท์ ที่ถูกจับกุมไปแล้วนั้น มีแผนประทุษกรรมในการนำเข้าและหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนของดีเอสไอก็จะเร่งดำเนินการต่อไปว่า สินค้าจำนวน 282 ตู้ ของกลางที่มีการนำเข้าหมูเถื่อนโดยสำแดงเป็นหัวปลาแซลม่อนนั้น ได้ถูกนำส่งไปที่ไหน โดยรายละเอียดนั้นจะยังไม่ขอเปิดเผยในที่นี้ ขณะที่ทางบริษัทรักชัยซึ่งตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกแอบอ้างชื่อนั้น ก็ได้มีการจัดเก็บเอกสารและขั้นตอนการปฏิบัติไว้เป็นอย่างดีและมีมาตรฐาน จึงทำให้เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อทางนี้ไม่ใช่ผู้รับฝากสินค้าแล้วนั้น ของทั้งหมดน่าจะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งก็จะได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่อไป
ด้าน นายลือศักดิ์ ลือสุขประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารบริษัทรักชัย ห้องเย็น จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบของดีเอสไอในครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันความโปร่งใสให้กับทางบริษัทฯ โดยในส่วนของกระบวนการรับฝากสินค้านั้นก็เป็นอย่างที่ทางท่านอธิบดีดีเอสไอได้ให้ข้อมูลไปแล้วว่าบริษัทฯ มีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนของการรับฝากสินค้าเป็นอย่างมาก ถ้าเอกสารไม่มีมาแสดงก็จะไม่รับของอย่างเด็ดขาด ส่วนที่ถามว่าทำไมทางผู้ต้องหาถึงมีการแอบอ้างบริษัทรักชัยฯ นั้น ถ้าจะให้สันนิษฐานก็เนื่องจากบริษัท รักชัย ห้องเย็น แห่งนี้ เป็นบริษัทใหญ่และได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และสามารถรองรับสินค้าได้จำนวนมาก