“ชาวบ้านตระ”โวย! ทีมไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” ทำถนนพัง-เข้าป่าหากินไม่ได้ จ่อร้อง “มท.-ยธ.”รับผิดชอบ

ที่บริเวณหน้าน้ำตกโตนตก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านชุมชนบ้านตระ หมู่ 2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่เหนือน้ำตกโตนตก เทือกเขาบรรทัด เส้นทางขึ้นสู่บ้านตระ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ประมาณ 30 คน นำโดยนายล่อง เพชรสุด รวมตัวร้องเรียนผู้สื่อข่าว พร้อมนำผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบเส้นทางโดยระบุว่าได้รับความเดือดร้อนจากถนนเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านตระพังเสียหายหลายจุด และเป็นดินโคลน จากการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามไล่ล่านายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ที่หนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในชุมชนบ้านตระ

นายล่องกล่าวว่า เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปปิดล้อมจับกุม และเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น แต่นายแป้งหลบหนีไปได้ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังจำนวนมาก ขึ้นไปบนเขาบรรทัดเพื่อติดตามไล่ล่า นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน เป็นต้นมา รวมทั้งยังมีกองทัพนักข่าวเข้าไปติดตามทำข่าวอีกจำนวนมาก ก็ต้องใช้รถจักรยานยนต์วิบากเช่นกัน ส่งผลทำให้ถนนคอนกรีตกว้างประมาณ 50 ซม.-80 เซนติเมตร ที่ชาวบ้านได้ช่วยกันสละเงินคนละเล็กคนละน้อย ในการก่อสร้างเส้นทางให้รถจักรยานยนต์เข้า-ออกหมู่บ้านสำหรับขนผลผลิตทางการเกษตร ได้ชำรุดเสียหายหลายจุด ทำชาวบ้านหลายราย เกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บหลายราย

นายล่องกล่าวว่า ส่วนถนนที่ยังเป็นเส้นทางเดิมที่ยังไม่ได้ลาดด้วยซีเมนต์ ก็ยิ่งเละเทะเป็นดินโคลน เป็นหลุมเป็นแอ่งลึก ทำให้ชาวบ้านเดินทางด้วยความยากลำบาก ต้องประคองรถด้วยความระมัดระวัง เด็กนักเรียนบางคนล้มลงต้องกลับบ้านไม่สามารถเดินทางต่อไปโรงเรียนได้

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านที่พังเสียหาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นช่วยเข้ามาซ่อมแซมหรือช่วยนำปูนซีเมนต์มาให้แก่ชาวบ้านเพื่อร่วมกันซ่อมแซม เพราะชาวบ้านไม่มีเงิน และหลังเกิดเหตุไม่สามารถออกไปหาของป่า หาปลา หากบ ทำมาหากินได้ตามปกติ รวมทั้งไม่ได้กรีดยางเพราะฝนตก

 “รัฐบาลใช้งบประมาณในการติดตามไล่ล่าเสี่ยแป้งไปจำนวนมาก ก็ควรที่จะช่วยเหลือชุมชนด้วย พวกเราเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่กลางป่า มีกติการ่วมกันในการรักษาป่า ป่าจึงยังอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม ระยะทางจากน้ำตกโตนตก ประมาณ 15 กิโลเมตร และเมื่อไปถึงร้านค้าสหกรณ์บ้านตรั ก็จะมีเส้นทางแยกอีก 3-4 สาย ซึ่งแต่ละสายก็จะมีบ้านเรือนชาวบ้าน ปรากฏว่าพังทั้งหมด ชาวบ้านเดิมมีประมาณ 300 ครัวเรือน แต่หลังจากเศรษฐกิจตกต่ำ ลูกหลานเรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัยก็ไม่สามารถสื่อสารได้ เลยต้องออกไปพักอยู่ข้างล่าง ยาเสพติดระบาดทำให้พ่อแม่เป็นห่วง จึงต้องลงมาอยู่ด้านล่างเพื่อดูแลลูกหลาน ทำให้อาศัยอยู่จริงถาวรกว่า 50 ครัวเรือน”นายล่อง กล่าว

 นายล่องกล่าวว่า จะยื่นหนังสือถึงทางจังหวัดตรัง ผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทย และยื่นผ่านขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหาให้ รวมทั้งอาจจะยื่นไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมด้วย เนื่องจากกรมราชทัณฑ์เป็นต้นเหตุ ปล่อยให้เสี่ยแป้งหลุดรอดออกมาจนต้องมาติดตามไล่ล่า ดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบด้วย