พนักงานเก็บขยะเขตหลักสี่ ประท้วงขับไล่ 2 หัวหน้าฝ่ายรักษาฯ 2 มาตรฐานสับเปลี่ยนงานไม่แจ้ง แต่งตั้งบรรจุไม่เป็นธรรม

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่สำนักงานเขตหลักสี่ พนังฃกงานขับรถ และพนักงานประจำรถเก็บขยะ กว่า 50 คน รวมตัวประท้วงขับไล่ หัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตหลักสี่ จำนวน 2 คน หลังออกคำสั่งโยกย้ายพนักงาน 2 มาตรฐาน บังคับเขียนหนังสือแต่งตั้งยกเส้นแต่งตั้งอย่างไม่เป็นธรรม

นายสิทธิกานต์ ทับทิมใส อายุ 37 ปี พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา (เก็บขนมูลฝอย) ระบุว่า ที่มาหยุดงานประท้วงในวันนี้เกิดขึ้นจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีการประชุมเกี่ยวกับแผนการทำงาน โยกย้ายพนักงานขับรถ และพนักงานติดรถ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า บางคนถูกโยกลงมาเป็นอะไหล่ถูกยุบหน้าที่ ส่วนงานของคนที่ถูกยุบก็เอามากระจายให้คนอื่นๆที่ทำหน้าที่อยู่แบ่งกันทำ บางคนถูกโยกเวลาจากเช้า ไปบ่าย จากบ่ายมาเช้า ทั้งที่ ผอ.เขตไม่ทราบเรื่อง

ที่สำคัญการโยกย้ายสลับพนักงานในสายต่างๆ หากไม่เคยวิ่งมาก่อนก็จะไม่ทราบว่าซอยนี้เข้าได้หรือไม่ ซอยไหรต้องถอยรถเข้าหรือ ต้องเข้าทางไหน รวมถึงปริมาณขยะที่แต่ละคันก็รับกันแบบเต็มที่อยู่แล้วเมื่อยุบรถไปก็กลับกชายเป็นว่า รถที่วิ่งอยู่ต้องวิ่งคันละ 2 เที่ยวเพื่อมาทดแทนสายที่หายไป ซึ่งส่วนนี้เขาอ้างว่าเป็นนโยบายของ กทม. 

ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้การทำงานเป็นไปได้ยาก งานเยอะเราไม่ว่าแต่การโยกย้ายให้ไปทำในสายอื่นนั้นจะทำให้การทำงานของพวกเราลำบาก ซึ่งส่วนนี้มองว่าอาจจะเป็นการสั่งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม

อีกทั้งยังเรียกให้ตนเองเข้าไปพูดคุยเขียนบันทึกข้อความของดเว้นการบรรจุเป็นพนักงานประจำในรอบปีที่ผ่านมา โดยให้ระบุว่าตนเองหาเอกสารการเกณฑ์ทหารไม่พบ ทั้งๆที่ตนเองมีพร้อม เพื่อให้เพื่อนอีกคนเข้ารับการบรรจุไปก่อน และจะดัดตนเองให้เข้ารับการบรรจุในปีถัดไป ทั้งๆที่ตนเองมีเอกสารครบหมดทุกอย่าง การมาเป็นลูกจ้างชั่วคราวทุกคนก็หวังจะได้รับการบรรจุทุกคน ไม่มีใครไม่อยากบรรจุ แต่ตอนนี้เองตนก็ยังไม่ทำหนังสือดังกล่สวไป ซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนาดังกล่าว

ในส่วนสำคัญที่มากันวันนี้ ก็เพราะมีการโยกย้ายหน้าที่โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ปฏิบัติกับพนักงาน 2 มาตรฐานบางคนมาตี 4 สายนาทีเดียวก็ตัดขาดแต่บางคนมาตี 5 กลับไม่ถูกตัดขาด

นายประทุม ทับเกษตร อายุ 55 ปี หัวหน้าพนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) สำหรับตัวเองหบังเข้าไปพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น กลับถูกหัวหน้าคนนี้ออกหนังสือคำสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรม โดยระบุว่าตนเองมีพฤติกรรมกระด้าง กระเดื่อง ก้าวร้าวข่มขู่ผู้บังคับบัญชา แต่สุดท้ายก็ยกเลิกหนังสือฉบับนี้ไป อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับเพื่อนพนักงานกว่า 50 คนต้องการให้ ทั้ง 2 คนย้ายออกจากเขตหลักสี่ไป เพร่ะถ้ายังอยู่ก็จะทำให้การทำงานไม่เป็นไปตามแผนงานที่ทาง กทม. สั่งการมา

ต่อมานางสมฤดี ลันสุชีพ ผอ.เขตหลักสี่ ได้ลงมาพูดคุยกับกลุ่มพนักงาน โดยระบุว่าการสั่งย้ายทั้ง 2 คนนั้นไม่สามารถทำได้ทันที ต้องทำตามขั้นตอนซึ่งมีระเบียบอยู่แล้ว ส่วนใครที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกกลั่นแกล้งอะไรให้มาเขียนเรื่องร้องเรียนเอาไว้ แล้วจะนำพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป