วันที่ 19 พ.ย.2566 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกมาเสนอแนวคิดการใช้เงิน 5แสนล้านบาทโดยเอาไปทำรถเมล์ไฟฟ้า ทำน้ำปะปาดื่มได้ เอาไปให้การแพทย์และเอาไปทำระบบจัดการขยะ นั้น ฟังแล้วแปลกใจ เพราะนายธนาธรพูดเหมือนแกล้งไม่รู้ ไม่คิดว่าจะมีแนวคิดย้อนยุค ส่งประเทศกลับไปเป็นแบบรัฐราชการเหมือนในอดีตอีกหรือไม่ เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี จะมีส่วนที่เป็นงบสำหรับนโยบายต่างๆ อย่างนี้อยู่แล้ว และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้เร่งดำเนินการเป็นวาระเร่งด่วนอยู่แล้ว เพียงแค่ 2 เดือนเศษของรัฐบาล ก็มีความคืบหน้าอย่างมากมายหลายโครงการ
นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้เครดิตความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ดีขึ้นอย่างมากอันจะนำมาซึ่งการลงทุนในด้านต่างๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น การพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสวัสดิการของประชาชนสามารถดำเนินการได้ทันที เป็นการทำงานของรัฐบาลที่ผลักดันให้เกิดการเจริญเติบโตของประเทศและการลงทุนในด้านต่างๆ ได้
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ในทางทฤษฎี ในภาวะเศรษฐกิจซบเซามาหลายปี จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องให้ประชาชนได้มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทุกหมู่บ้านทุกตำบลทุกอำเภอ ในประเทศจะมีเงินสะพัด การค้าขายดีขึ้น และจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นในทันที สิ่งที่ตามมาก็จะเกิดการลงทุนในด้านต่างๆ ซึ่งการที่นายธนาธรพูดเช่นนั้นตนเชื่อว่ารู้อยู่แล้วว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้เมื่อประสบความสำเร็จก็จะเป็นผลงานของพรรคเพื่อไทยนานเท่านาน เหมือนที่คนไทยชอบพูดว่าพรรคเพื่อไทยมาบริหารเศรษฐกิจก็จะดีทุกครั้งไป ซึ่งอาจกระทบความนิยมของพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ตนมั่นใจว่าจากประสบการณ์ของพรรคเพื่อไทยในอดีตจนถึงปัจจุบันปัจจุบันเป็นเครื่องรับประกันได้ว่าจะสามารถนำพาประเทศไทยกลับมาสู่ยุคโชติช่วงชัชวาลได้อีกครั้งอย่างแน่นอน