วันที่ 17 พ.ย.2566 นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า สืบเนื่องจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศส่งต่อเงินเดือนและเบี้ยประชุมของทุกเดือน ให้มูลนิธิต่าง ๆ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนั้น สำหรับเงินเดือนประจำตำแหน่ง และเบี้ยประชุมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และได้มีการคัดเลือกมูลนิธิเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง จำนวนเงินมูลนิธิละ 50,000 บาท
โดยมูลนิธิที่นายกรัฐมนตรีส่งต่อ ได้แก่
1. มูลนิธิคนพิการไทย เพื่อสมทบทุนในโครงการ “เป็นแขน-ขาให้ตากะยาย” โดยผลิตวีลแชร์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กพิการ คนพิการ และผู้สูงอายุทั่วประเทศ
2. มูลนิธิอิสรชน ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินกิจกรรมกับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในประเทศไทย เพื่อดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือ การแบ่งปันอาหาร หรือมอบถุงปันสุขให้แก่คนด้อยโอกาส และผู้ยากไร้ในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
3. มูลนิธิสายธารสุขใจ เพื่อสมทบทุนในการซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง และจัดหาสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับผู้ชรา และคนยากไร้
4. มูลนิธิบ้านพระพร เพื่อให้การช่วยเหลือ และเป็นทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนผู้พ้นโทษ และเด็กที่พ่อแม่อยู่ในเรือนจำ เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า นอกจากการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง นายกฯ และคณะของรัฐบาล ยังมีการลงพื้นที่เพิ่มเติมในหลาย ๆ พื้นที่ เช่น จังหวัดยโสธร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น โดยเข้าไปพบปะ พูดคุยกับประชาชนและองค์กรต่าง ๆ รับฟังปัญหาและความต้องการ เพื่อจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป