เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 พ.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พาผู้เสียหายที่โดนเพื่อนบ้านซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร สังกัดมหาดไทย ใช้อิทธิพลข่มขู่ด้วยอาวุธปืน เป็นเวลา 3 ปี

น.ส.กานต์พิชชา อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27-31 ต.ค. ตนเดินทางไปเที่ยวภาคอีสาน และเมื่อวันที่ 30 ได้ข้ามฝั่งไปประเทศลาว หลังจากกลับมามีคนโทรมาบอกว่า บ้านตรงข้ามมีตำรวจเข้าไปตรวจในไร่ และอ้างว่าบ้านตนเป็นผู้แจ้งความ ตอนแรกตนก็ปล่อยผ่านเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตน ตนจึงไปถามน้องสาวว่าเป็นผู้แจ้งความหรือเปล่า แต่น้องตนก็ไม่รู้เรื่อง ตนจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ว่าบ้านตรงข้ามพาดพิงถึงบ้านตน

หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป บ้านตรงข้ามก็ยังมีการเหน็บแนมบ้านตนอยู่เรื่อยๆ ทำนองว่ามาเอาปืนที่บ้านตนไปเก็บเลย ซึ่งคำว่าเก็บในที่นี่หมายถึงยิง จนตนทนไม่ไหวจึงโทรไปถาม ผกก.สภ.ปากท่อ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เท่าที่ตนทราบเรื่องที่บ้านผู้ก่อเหตุโดนตำรวจค้น เพราะว่ามีลูกน้องในไร่เสพยาเสพติด ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวผู้ก่อเหตุ ในเมื่อเป็นความผิดของลูกน้อง แล้วทำถึงมาพาดพิงตน

น.ส.กานต์พิชชา กล่าวอีกว่า ตนคาดว่าตัวผู้ก่อเหตุน่ากระจายข่าวไปทั่วหมู่บ้านแล้วว่าบ้านตนเป็นผู้แจ้งความ ตนจึงเดินทางไปหา ผกก.สภ.ปากท่อ เพื่อยืนยันคำตอบว่าชื่อใครที่เป็นผู้แจ้งความ หลังจากที่ตนกลับมา ผกก.ก็ได้เดินทางไปหาผู้ก่อเหตุที่บ้าน และทางผู้ก่อเหตุก็มาบอกกับตนว่า ไม่ว่าตนจะไปบอกอะไรกับ ผกก.เขาก็จะมาบอกตนอยู่ดี อ้างว่าสนิทกัน ซึ่งตัว ผกก.ยอมรับว่ารู้จักกัน แต่รู้จักเพราะรุ่นน้องที่ทำงานเท่านั้น  จึงมาร้องของความเป็นธรรม ต้องการให้ตำรวจกองปราบเร่งดำเนินคดีกับคนร้ายให้เร็วที่สุด อย่าให้ไปข่มขู่ใครได้อีก

เบืัองต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบหลักฐานที่ผู้นำมาก่อนประสานท้องที่เกิดเหตุช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป