พีระพันธุ์ประกาศชัดต้องหนุนนโยบายรัฐบาล แต่ต้องคัดท้ายไม่ให้เกิดปัญหา บอกยังไม่เห็นร่างกฎหมายกู้เงินแจก ขณะที่อนุทิน"ผสมโรง ยันพรรคร่วมรัฐบาลต้องหนุนนโยบายที่ถูกกฎหมาย เผยรัฐบาลที่แล้วบางพรรคพัง เพราะใช้เกมการเมืองขัดขากันเอง
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.66 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ยังไม่เห็นร่าง พ.ร.บ.กู้เงินแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ติดตามการเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ต้องติดตามมีข่าวทุกวันอยู่แล้ว เราก็คอยดู ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต้องทำตามนโยบายรัฐบาล แต่ต้องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาหรือผลกระทบที่สังคมเป็นห่วง ซึ่งเชื่อว่านายกฯ เองก็ดูเรื่องเหล่านี้อยู่ เมื่อถามว่า มองว่าวิธีการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินเช่นนี้ถูกต้องตามช่องทางกฎหมายหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า จะถูกต้องหรือไม่ต้องดูกฎหมายอื่นเกี่ยวข้องด้วยเช่นเรื่องวินัยการเงินการคลังซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูอยู่ ซึ่งการจะออกกฎหมายอะไรคณะกรรมการกฤษฎีกาจะดูให้รอบคอบ ถามอีกคิดว่า เรื่องนี้จะไปถึงฝั่งหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ได้เพราะไม่ได้ดูแลเรื่องนี้ หากพูดไปเดี๋ยวจะผิดพลาด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณีนายกฯ แสดงความกังวลโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท อาจจะสะดุด เพราะมีหลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบ อาจจะทำให้ถึงทางตัน ว่า ยังไม่ได้ยิน ยังเห็นความพยายาม เพราะทุกพรรคการเมืองที่เข้ามามีนโยบายอะไรเขาก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่ต้องทำให้นโยบายเกิดขึ้น หากจะไปไม่ได้ก็มีอยู่อย่างเดียวคือผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ และขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ หากพ้นเงื่อนไขเหล่านี้ไป คนที่ผลักดันนโยบายต้องพยายามทำให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะเห็นชอบนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยดูข้อกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าใช่ เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากทุกอย่างมีความถูกต้องตามกฎหมาย เราก็ต้องสนับสนุนนโยบายซึ่งกันและกัน เพราะมิเช่นนั้นนโยบายจะไม่สามารถออกได้ เมื่อถามว่า นักวิชาการออกมาท้วงติงหากพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไม่ผ่าน นายกฯ จะต้องรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น ทุกอย่างมีกลไก มีขั้นตอนของมันอยู่แล้ว เท่าที่ดูมานายกรัฐมนตรีก็ทำงานอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยพยายามผลักดันนโยบายหลายอย่าง พรรคภูมิใจไทยจะมีนโยบายเด่นอะไรออกมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ผลักดันทุกเรื่อง
"เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเราไม่แข่งกันหรอก อยู่ในรัฐบาลแข่งกันเองแข่งทำไม อย่าลืมนโยบายของรัฐบาล หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นั่นคือนโยบายของรัฐบาลที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง เมื่อไหร่ที่ไปคิดว่าของพรรคใดพรรคหนึ่ง และมีอีกพรรคหนึ่งไม่สนับสนุน เพื่อประโยชน์ทางการเมืองมันก็พัง ในรัฐบาลที่แล้วก็เห็นแล้วมีพรรคที่พังไป เพราะขัดแข้งขัดขากัน ไม่มีประโยชน์ใดๆเลย สิ่งที่สำคัญสุดพี่น้องประชาชนก็ไม่ได้อะไรเลย จากความไม่สนับสนุนไม่สามัคคี ไม่ร่วมงานกัน ดังนั้นต้องทำงานด้วยกันชอบไม่ชอบอีกเรื่องหนึ่ง อะไรที่อยู่ในนโยบายรัฐบาลถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน" นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ามีความมั่นใจใช่หรือไม่ หากพรรคภูมิใจไทยผลักดันนโยบายใดก็จะได้รับการสนับสนุนที่ราบรื่น นายอนุทิน กล่าวว่าถ้าอยู่ในนโยบายของรัฐบาลก็ต้องผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ต้องมีคำอธิบายที่ดีมากๆ เช่น ผิดกฎหมาย เป็นต้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษา (ฝ่ายการเมือง) รองนายกฯ กล่าวถึงกรณี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคำถามรัฐบาลหากเงินดิจิทัลจำเป็นจริงทำไมไม่ออกเป็น พ.ร.ก. แทน พ.ร.บ.และมองว่าเป็นแค่เรื่องก่อหนี้สนองนโยบายหาเสียง ว่า ตนก็สงสัยถึงท่าทีของนายจุรินทร์กับกรณีเงินดิจิทัลอยู่เหมือนกัน คราวก่อนตัวท่านเองที่ออกมาบอกรัฐบาลว่าจะแจกเงินดิจิทัลก็แจก แต่อย่าเอาประชาชนเป็นโล่กำบัง พอรัฐบาลผ่านการหารือและกำหนดกรอบการดำเนินโครงการ โดยจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน นายจุรินทร์ก็ออกมาตั้งคำถามอีก ตนอยากให้นายจุรินทร์เก็บคำถามไว้ใช้ในกระบวนการรัฐสภาน่าจะดีกว่า ท่านเองจะได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำหน้าที่ฝ่ายแค้นประเภทติทุกดอกถ้าติเพื่อก่อตนก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าติเพื่อหวังผลการเมืองอันนี้ตนรับไม่ได้
ทั้งนี้ นายจุรินทร์เคยเป็นรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ น่าจะมองเห็นและเข้าใจถึงความลำบากยากเข็ญของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและภาวะศึกสงครามที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยก็ด้วย สภาพคล่องทางการเงินของบ้านเราแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด หลายประเทศก็มีวิธีและใช้เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจที่แตกต่างกันไป ญี่ปุ่นมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการปรับลดภาษี และแจกเงินให้กับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ สิงคโปร์อัดฉีดงบประมาณเตรียมแจกเงินเพื่อช่วยแบ่งเบาปัญหาเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น กรณีเงินดิจิทัลที่รัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ก็เพื่อเป็นการเอาเงินใหม่เข้าสู่ระบบ ถ้าเราใช้งบประมาณที่เป็นงบปกติก็ไม่ได้ทำให้เงินในส่วนนั้นเพิ่มขึ้นเลย เหมือนตักน้ำในบ่อเทลงบ่อ แล้วน้ำในบ่อมันจะไปเพิ่มได้ยังไง การกระตุ้นรอบใหม่ก็ต้องใช้น้ำในบ่อใหม่ถึงจะถูก การออกเป็น พ.ร.บ.ก็ต้องผ่านกระบวนการรัฐสภาที่มีตัวท่านเองนั่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ท่านจะได้ตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบได้เต็มที่
"ผมไม่อยากให้ นายจุรินทร์ทำตัวเป็นหมอดู ทำนายทายทัก คาดเดาปัญหาที่ยังไม่เกิดเพื่อเตะตัดขารัฐบาล รัฐบาลมาจากพี่น้องประชาชน หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ท่านควรจะรอทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาน่าจะดีกว่าการออกมากวนน้ำให้ขุ่น แล้วอีกเรื่องหนึ่งที่ ผมอยากฝากถึงนักร้องทั้งหลายที่ดาหน้าออกมาทำงานกันในช่วงนี้ด้วยว่าอยากให้ท่านทั้งหลาย ช่วยเห็นใจพี่น้องตาดำๆ หรือผู้ประกอบการที่เขารอเงินดิจิทัลกันด้วย นโยบายเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่ดี ออกมาเพื่อสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ท่านควรจะส่งเสริมหรือสนับสนุนถึงจะถูก ตอนรัฐบาลในอดีตบริหารมีเรื่องให้ร้องให้ตรวจสอบตั้งมากมาย ตอนนั้นคนพวกนี้อยู่ตรงไหนพอเป็นรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ คนเหล่านี้รวมถึงนายจุรินทร์ กลับมาค้าน มาด้อยค่า สงสัยว่าท่านทำเพราะอคติหรือเพราะกลัวว่า ถ้ารัฐบาลทำดีบริหารเป็นและประสบความสำเร็จ เหมือนโครงการในอดีตที่เคยทำให้เราท่านเห็นกันมาแล้ว จะทำให้ได้คะแนนจากพี่น้องประชาชนกันแน่" นายพร้อมพงศ์ กล่าว